โรงงานผลิตข้าวของสหกรณ์การเกษตร เฟือกฮึง ในอำเภอตวีเฟือก จังหวัดบิ่งดิ่งห์ |
ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อน แรงงานของสหกรณ์การเกษตร เฟือกฮึง ในอำเภอตวีเฟือก จังหวัดบิ่งห์ดิ๋ง ได้ทำการเก็บเกี่ยวข้าวรวมพื้นที่ 4 เฮกตาร์ นอกจากปลูกเอง ทางสหกรณ์ฯ ยังซื้อข้าวจากครอบครัวที่เป็นสมาชิกของสหกรณ์เพื่อผลิตข้าวเฟือกฮึงที่เป็นผลิตภัณฑ์ OCOP ระดับ 3 ดาว เพื่อให้ได้ข้าวที่เมล็ดสวยและอร่อย ทางสหกรณ์ฯ ได้ติดตั้งระบบอบข้าวและเครื่องสีข้าวที่ทันสมัยแบบครบวงจร นาย เหงียนหงอกแถ่ง รองผู้อำนวยการสหกรณ์ฯ เผยว่า ขั้นตอนการผลิต การเก็บเกี่ยวและการสีข้าวใช้เครื่องจักรทั้งหมด การผลิตข้าวเฟือกฮึงตามมาตรฐาน OCOP ทำให้ทางสหกรณ์ฯ มีเกษตรกรเข้าร่วมเป็นจำนวนมากและมีรายได้เพิ่มขึ้น
“เราใช้ drone ในการหว่านเมล็ดพันธุ์ ส่วนการเก็บเกี่ยวก็ใช้เครื่องจักรอเนกประสงค์ที่ทันสมัยในโรงงานผลิตของเรา เครื่องอบข้าวมีกำลังการผลิตถึง 30 ตันต่อการอบหนึ่งครั้ง หลังจากอบแห้งแล้ว ข้าวจะผ่านเครื่องจักรต่างๆ เช่น เครื่องกรองสิ่งเจือปน เครื่องฟอกสีข้าว เครื่องขัดเงาและเครื่องหีบห่อแล้วจะส่งไปเก็บไว้ที่คลัง การที่จะได้เป็นผลิตภัณฑ์ OCOP เราต้องรักษาความปลอดภัยด้านอาหารและปฏิบัติมาตรการที่เข้มงวดต่างๆ ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกพันธุ์ข้าวไปจนถึงการจำหน่าย”
เครื่องผลิตผงคาวทองถั่งเช่าของสหกรณ์อินทรีย์ หลกติ๊น ตำบลเฟือกหลก อำเภอตวีเฟือก จังหวัดบิ่งห์ดิ๋ง |
สหกรณ์อินทรีย์ หลกติ๊น ในหมู่บ้านกว๋างติ๊น ตำบลเฟือกหลก อำเภอตวีเฟือก จังหวัดบิ่งห์ดิ๋ง ได้รับการก่อตั้งเมื่อปี 2020 โดยประกอบธุรกิจในด้านการปลูกพืชและทำผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพ ปุ๋ย ผลิตภัณฑ์ปลูกต้นบอนไซและผัก ซึ่งหลังการประกอบธุรกิจเป็นเวลา 4 ปี ทางสหกรณ์ฯ ได้มีผลิตภัณฑ์ 5 รายการที่ได้รับมาตรฐาน OCOP ระดับ 3 ดาว คือ เห็ดถั่งเช่าสด เห็ดถั่งเช่าอบแห้งแบบระเหิด เหล้าถั่งเช่า ผงคาวทองอบแห้งแช่แข็ง ผงคาวทองถั่งเช่า โดยผงคาวทองอบแห้งแช่แข็งและผงคาวทองถั่งเช่า ซึ่งได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นอย่างมาก
ในการผลิตผงคาวทองอบแห้งแช่แข็งและผงคาวทองถั่งเช่า สหกรณ์อินทรีย์ หลกติ๊น ได้ลงทุนพื้นที่ปลูกคาวทองแบบอินทรีย์ 1 เฮกตาร์และซื้อเครื่องมือที่ทันสมัย นาย ฝ่ามจุงเชี้ยน ผู้อำนวยการสหกรณ์ฯ ได้เผยว่า
“ คาวทองจะถูกนำมาล้างด้วยเครื่อง Ozon เพื่อฆ่าเชื้อก่อนและใช้เครื่องหมุนเหวี่ยงเพื่อให้สะเด็ดน้ำก่อนที่จะอบแห้งและแช่แข็ง ซึ่งช่วยรักษารสชาติและสีของคาวทอง”
ถึงขณะนี้ จังหวัดบิ่งดิ๋งห์มีผลิตภัณฑ์ OCOP ระดับ 3 ดาวขึ้นไปกว่า 390 รายการ ส่วนธุรกิจครัวเรือน สหกรณ์และสถานประกอบการที่มีผลิตภัณฑ์ OCOP นับวันให้ความสนใจมากขึ้นถึงเรื่องการควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์ การสร้างสรรค์เครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ การตรวจสอบย้อนกลับและการนำเทคโนโยลีมาใช้ในการบริหาร การจำหน่ายและเข้าร่วมห่วงโซ่การเชื่อมโยง ซึ่งทำให้เครื่องหมายการค้าเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมจากลูกค้ามากขึ้น
ผลิตภัณฑ์ OCOP ของสหกรณ์อินทรีย์ หลกติ๊น ตำบลเฟือกหลก อำเภอตวีเฟือก จังหวัดบิ่งห์ดิ๋ง |
เพื่อสนับสนุนธุรกิจครัวเรือน สหกรณ์และสถานประกอบการ ทางการท้องถิ่นยังมีนโยบายที่เป็นรูปธรรมต่างๆ ซึ่งสำนักงานการเกษตรและพัฒนาชนบทจังหวัดบิ่งดิ่งห์กำลังประสานงานกับสำนักงานอุตสาหกรรมและพาณิชย์ สำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจังหวัดและ 11 อำเภอ ตำบลและนครเลือกผลิตภัณฑ์ 1 อย่างจากแต่ละตำบลเพื่อการพัฒนาและผลิตตามขั้นตอนที่มีคุณภาพสูง ช่วยสร้างผลิตภัณฑ์ OCOP เฉพาะถิ่น สร้างสรรค์รูปแบบพัฒนาเขตจัดสรรค์วัตถุดิบพร้อมกับผลิตภัณฑ์ OCOP ตามห่วงโซ่มูลค่าและมุ่งสู่การส่งออก นาย เจิ่นวันฟุ๊ก ผู้อำนวยการสำนักงานการเกษตรและพัฒนาชนบทจังหวัดบิ่งดิ๋งห์เผยว่า
“เราประยุกต์ใช้อุปกรณ์และเครื่องจักร์ที่ทันสมัยเพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ OCOP อย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่วนในการยกระดับผลิตภัณฑ์เหล่านี้ให้บรรลุมาตรฐาน OCOP ในระดับ 4 ดาวขึ้นไป นอกจากการมีเครื่องจักรที่ทันสมัยแล้ว สำนักงาน หน่วยงาน โดยเฉพาะคณะกรรมการประชาชนจังหวัดฯ ได้มีนโยบายสนับสนุนต่าง ๆ เช่น ลดค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบย้อนกลับของผลิตภัณฑ์ OCOP ถึงร้อยละ 50 ซึ่งนำประสิทธิผลและช่วยยกระดับสถานะของผลิตภัณฑ์ OCOP ในเวลาที่ผ่านมา”
การเพิ่มการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการผลิตพร้อมกับการสนับสนุนและการช่วยเหลือของทางการท้องถิ่น ได้ช่วยให้การประกอบธุรกิจของธุรกิจครัวเรือน สหกรณ์และสถานประกอบการในจังหวัดบิ่งดิ๋งห์มีกำไรเพิ่มขึ้น โดยผลิตภัณฑ์ที่เป็นสินค้าหลักของท้องถิ่นหลายรายการได้รับการยกระดับ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงและมีความยั่งยืน.