 ภาพ 3 มิติของถ้ำเซินด่อง |
บริษัท Oxalis Adventure กำลังเปิดบริการทัวร์ผจญภัย6 วัน 5 คืนสำรวจ ถ้ำเซินด่อง แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดกว๋างบิ่งห์ ในราคากว่า 3,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน ตอนนี้ ทางบริษัทฯ สามารถขายทัวร์ในปี 2024 หมดแล้วและกำลังขายทัวร์ในปี 2025 โดยนับตั้งแต่ที่เปิดให้บริการเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2013 ทัวร์สำรวจถ้ำเซินด่องได้กลายเป็นทัวร์ผจญภัยยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่ชอบการผจญภัยในทั่วโลก นาย เหงียนแองต๊วน นักท่องเที่ยวจากกรุงฮานอยแสดงความคิดเห็นว่า
“ทัวร์ค้นคว้าเซินด่องที่เป็นถ้ำใหญ่ที่สุดของโลกน่าสนใจมาก โดยบริษัท Oxalis Adventure จะแนะนำเกี่ยวกับความปลอดภัยและตารางการเดินทางอย่างรอบคอบ เมื่อเราเข้าถ้ำจะรู้สึกประทับใจมากต่อความยิ่งใหญ่ของถ้ำ”
ใน 5 ปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวถ้ำเซินด่องเกือบ 3,500 คน การที่ Google ได้ยกย่องคุณค่าระดับโลกของถ้ำเซินด่องถือเป็นการยืนยันถึงบทบาทที่สำคัญของถ้ำเซินด่องต่อการท่องเที่ยวเวียดนาม สิ่งที่น่าสนใจคือ ถ้าหากนักท่องเที่ยวสนใจถ้ำเซินด่องแต่ยังไม่มีโอกาสมาเที่ยว ก็สามารถชมถ้ำได้ผ่านนิทรรศการออนไลน์บนเว็บไซต์ Google Arts & Culture ที่เปิดให้บริการเมื่อต้นปี 2021 ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้ชมภาพและวิดีโอเกี่ยวกับถ้ำเซินด่อง รวมทั้งสามารถเรียนรู้ประสบการณ์ผ่านทางออนไลน์ได้ นี่คือโครงการที่จัดโดยทบวงการท่องเที่ยวเวียดนามและ Google เพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเวียดนามในตลาดโลก
การประยุกต์ใช้ระบบดิจิทัลในการประชาสัมพันธ์ได้ช่วยให้ถ้ำเซินด่องเป็นที่รู้จักจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกมากขึ้น นาย เหงียนโจวอ๊า ผู้อำนวยการบริษัท Oxalis Adventureเสนอเกี่ยวกับประสบการณ์ประยุกต์ใช้ระบบดิจิทัลในด้านนี้ว่า
“ถ้ำเซินด่องถูกค้นพบเมื่อปี 2009 ช่วงนั้น ยังไม่มีเครื่องมือค้นหาข้อมูล แต่หลังจากที่ได้รับการประกาศเป็นถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว สื่อมวลชนก็ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับถ้ำนี้ สถานีโทรทัศน์ต่างๆ มาถ่ายทำและเครือข่ายสังคมออนไลน์พัฒนา เราก็สามารถเสนอบทความนับพันบทเกี่ยวกับถ้ำเซินด่องต่อโลกได้ และหลายคนทั่วโลกสนใจและหาข้อมูลเกี่ยวกับถ้ำเซินด่อง ซึ่งในปัจจุบัน แต่ละเดือน มีผู้คลิกเข้ามาหาข้อมูลเกี่ยวกับถ้ำเซินด่องประมาณ 90,000 ครั้ง”
 นักท่องเที่ยวทดลองการบริการ |
ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวสามารถค้นหาข้อมูลทัวร์ท่องเที่ยวผ่านอินเตอร์เน็ตมากขึ้น โดยมีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมากในการใช้บริการและเก็บประสบการณ์ ซึ่งเปิดทั้งโอกาสและความท้าทายให้แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเวียดนาม โดยเฉพาะจังหวัดกว๋างบิ่งห์ในการเข้าถึงตลาดนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ดังนั้น เพื่อปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงนี้ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดกว๋างบิงห์กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการประกอบธุรกิจ จัดทัวร์หลักๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ นาย เหงียนหงอกกวี๊ ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวจังหวัดกว๋างบิ่งห์เผยว่า การพัฒนาของเทคโนโลยีช่วยให้นักท่องเที่ยวเปลี่ยนพฤติกรรม ทั้งในการหาข้อมูล การใช้บริการและการท่องเที่ยว พร้อมทั้งยังสามารถโพสต์แสดงความรู้สึกและความทรงจำเกี่ยวกับการเยือนสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ บนอินเตอร์เน็ต ซึ่งช่วยให้สถานประกอบการที่ปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลมีความได้เปรียบมากขึ้นในการจัดทัวร์ต่างๆ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศมากขึ้น นาย เหงียนหงอกกวี๊ ยืนยันว่า
“ผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวต่างๆ ของจังหวัดกว๋างบิ่งห์สามารถขยายผลและมีชื่อเสียงในระดับโลก ซึ่งก่อนอื่น เราประชาสัมพันธ์เป็นภาษาอังกฤษ ต่อจากนั้นก็เป็นภาษาอื่นๆ เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลีและฝรั่งเศส เพื่อยกระดับประสิทธิภาพของการประชาสัมพันธ์ผ่านระบบดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น”
ในปี 2024 ทางการจังหวัดกว๋างบิ่งห์ได้ตั้งเป้าไว้ว่า จะต้อนรับนักท่องเที่ยวประมาณ 5 ล้านคน การที่ทางการจังหวัดฯ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและระบบดิจิทัลเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศก็ถือเป็นพลังขับเคลื่อนและแรงกระตุ้นให้จังหวัดกว๋างบิ่งห์บรรลุเป้าหมายดังกล่าว สร้างบรรยากาศและศักยภาพใหม่ให้แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้มีการขยายตัวแห่งสีเขียวและยั่งยืน.