(VOVworld) –  ในปี๒๐๑๔ มูลค่าการส่งออกของเวียดนามได้ทำสถิติใหม่อยู่ที่กว่า๑แสน๕หมื่นล้านเหรียญสหรัฐซึ่งจากตัวเลขที่น่าประทับใจนี้ทำให้ภาคการส่งออกกลายเป็นจุดเด่นในภาพรวมของเศรษฐกิจเวียดนาม

ปี๒๐๑๔ สินค้าสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปยังคงรักษาอัตราการขยายตัวสูง(Nhandandientu)

ปี๒๐๑๔ มูลค่าการส่งออกของเวียดนามเพิ่มขึ้นร้อยละ๑๓.๖เมื่อเทียบกับปี๒๐๑๓ สินค้าส่งออกหลายรายการมีการขยายตัว รวมไปถึงกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมแปรรูปที่มีอัตราส่วนสูงที่สุดกว่าร้อยละ๗๓ รองลงมาคือสินค้าเกษตร สัตว์น้ำ  เชื้อเพลิงและแร่ธาตุ ส่วนสินค้าที่มีมูลค่าการส่งออกการส่งออกสูงที่สุดคือ โทรศัพท์มือถือและชิ้นส่วน อยู่ที่กว่า๒หมื่น๔พันล้านเหรียญสหรัฐ รองลงมาคือสินค้าสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปอยู่ที่๒หมื่น๑พันล้านเหรียญสหรัฐ ที่น่าสนใจคือ โครงสร้างสินค้าส่งออกได้มีการเปลี่ยนแปลงตามแนวทางพัฒนาอุตสาหกรรมและมี๑๖กลุ่มสินค้าที่มีมูลค่าการส่งออกกว่า๒พันล้านเหรียญสหรัฐ ในจำนวนกลุ่มสินค้าส่งออกต่างๆ สินค้าสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปยังคงรักษาอัตราการขยายตัวสูง นายเลเตี๊ยนเจื่อง ผู้อำนวยการใหญ่เครือบริษัทสินค้าสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปกล่าวว่า“ปี๒๐๑๔ การส่งออกในตลาดโลกไม่มีการขยายตัวมากนัก เช่น สหรัฐแม้ว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นแต่มูลค่าการส่งออกกลับเพิ่มขึ้นไม่กี่เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ยุโรปเพิ่มขึ้นร้อยละ๙ ส่วนที่ญี่ปุ่น การบริโภคภายในประเทศลดลงร้อยละ๑ ในสภาวการณ์นี้ มูลค่าการส่งออกสินค้าสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปของเวียดนามไปยังตลาดสหรัฐยังคงเพิ่มขึ้นร้อยละ๑๒.๕ และไปยังยุโรปเพิ่มขึ้นร้อยละ๑๗และไปยังญี่ปุ่นเกือบร้อยละ๙”

ปี๒๐๑๔ หน่วยงานเครื่องหนังและรองเท้าได้สร้างสถิติใหม่โดยมูลค่าการส่งออกอยู่ที่๑หมื่น๒พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ๑๘เมื่อเทียบกับปี๒๐๑๓ ซึ่งผลสำเร็จนี้ทำให้เวียดนามกลายเป็นหนึ่งใน๑๐ประเทศที่ส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องหนังและรองเท้ามากที่สุดในโลก ที่น่าสนใจคือ สถานประกอบการเครื่องหนังและรองเท้าได้ใช้ประโยชน์จากสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไปหรือจีเอสพีที่สหภาพยุโรปหรืออียูได้สงวนให้แก่เวียดนามเมื่อเดือนมกราคมปี๒๐๑๔โดยมีอัตราภาษีลดลงร้อยละ๓ถึงร้อยละ๔ ซึ่งได้ช่วยผลักดันการส่งออกไปยังตลาดอียูซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของหน่วยงาน นางฟานถิแทงซวน เลขาธิการสมาพันธ์เครื่องหนังรองเท้าและกระเป๋าเวียดนามกล่าวว่า“เมื่อก่อนนี้ การขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ๑๕แต่ปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ๑๘เนื่องจากความพยายามของสถานประกอบการพร้อมกับการใช้โอกาสจากตลาดที่ขยายกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะผ่านข้อตกลงทางการค้าที่พวกเราได้เจรจา”

ปี๒๐๑๔ ก็เป็นปีที่เวียดนามได้มีความพยายามมากมายในการส่งเสริมการค้าไปยังตลาดส่งออกสำคัญ เช่น สหรัฐ อียูและรัสเซียเพื่อเจรจา แก้ไขกำแพงกีดกันทางการค้าและขยายตลาด โดยเฉพาะ ตลาดส่งออกสินค้าการเกษตร ของป่า สัตว์น้ำ หลีกเลี่ยงการพึ่งพาตลาดเดียว เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวน ดังนั้น มูลค่าการส่งออกสินค้าการเกษตร ของป่าและสัตว์น้ำอยู่ที่เกือบ๓หมื่น๑พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ๑๑ เมื่อเทียบกับปี๒๐๑๓

ปี๒๐๑๔ เวียดนามได้เสร็จสิ้นการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม– สาธารณรัฐเกาหลีและข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม– สหภาพศุลกากรรัสเซีย เบลารุส และคาซักสถานในขั้นพื้นฐานและจะทำระเบียบการทางนิตินัยเพื่อให้ข้อตกลงมีผลบังคับใช้ในปี๒๐๑๕ นอกจากนี้ เวียดนามยังจะเข้าร่วมการเจรจาข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกหรือทีพีพีและเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี๒๐๑๕เช่นกัน นายโด๋ทั้งหาย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์กล่าวว่า นี่เป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่เพื่อให้สถานประกอบ การส่งออกขยายตลาดและมีอัตราการขยายตัวที่สูงขึ้น“การส่งออกยังคงป็นจุดเด่นของเศรษฐกิจต่อไปเพราะในสถานการณ์ที่ยากลำบากแต่การส่งออกยังคงบรรลุแผนการที่รัฐสภาและรัฐบาลวางไว้โดยมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นและดึงดูดเงินต่างประเทศจำนวนมากและสร้างงานทำ ในเวลาข้างหน้า การส่งออกยังคงเป็นจุดแข็งของเวียดนาม ปี๒๐๑๕ อย่างน้อยจะมีข้อตกลง๒ฉบับมีผลบังคับใช้นั่นคือข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม– สาธารณรัฐเกาหลี และข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม– สหภาพศุลกากรรัสเซีย เบลารุส และคาซักสถานซึ่งจะช่วยให้สถานประกอบการเวียดนาม โดยเฉพาะสถานประกอบ การสัตว์น้ำ เครื่องหนังและรองเท้า สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปผลักดันการส่งออกไปยังตลาดเหล่านี้ ”

การขยายตัวของการส่งออกด้านการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือเอฟดีไออยู่ที่กว่า๑แสนล้านเหรียญสหรัฐ รวมทั้งปิโตรเลี่ยม ส่วนของกลุ่มเศรษฐกิจภายในประเทศอยู่ที่กว่า๔หมื่น๘พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ๑๐เมื่อเทียบกับปี๒๐๑๓ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวของการผลิตภายในประเทศ

จากผลสำเร็จที่ได้ประสบมาในปี๒๐๑๔ การส่งออกถือเป็นจุดเด่นของเศรษฐกิจเวียดนาม แม้ว่า จะมีการคาดการณ์ว่า ในปี๒๐๑๕จะมีความผันผวนมากมายแต่ผลสำเร็จของการส่งออกในปี๒๐๑๔ได้สร้างเงื่อนไขล่วงหน้าเพื่อให้การส่งออกของเวียดนามมีการขยายตัวต่อไปโดยพยายามให้มูลค่าการส่งออกอยู่ที่๑แสน๖หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ./.