เหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดในความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับไทยในปี 2011 คือการเยือนประเทศเวียดนามเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนของนางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทยตามธรรมเนียมของอาเซียนและตามคำเชิญของท่าน Nguyen Tan Dung นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ซึ่งในการให้การต้อนรับนางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ท่าน Truong Tan Sang ประธานแห่งรัฐเวียดนามได้เรียกร้องให้รัฐบาลทั้งสองประเทศส่งเสริมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดมากขึ้นเพื่อปฏิบัติข้อตกลงทวิภาคีต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การจัดการประชุมคณะรัฐบาลร่วม ความร่วมมือในการส่งออกข้าวและการลาดตระเวณร่วมกันในทะเล เป็นต้น พร้อมทั้งให้ความสำคัญและขอบคุณรัฐบาลและประชาชนชาวไทยที่ได้อำนวยความสะดวกให้แก่ชมรมชาวเวียดนามที่พำนักอาศัยในประเทศไทยได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตลอดจนเรียกร้องให้รัฐบาลไทยอำนวยความสะดวกมากขึ้นเพื่อให้ชาวเวียดนามสามารถปรับตัวเข้ากับสังคมไทยและเป็นสะพานเชื่อมระหว่างสองประเทศ ในการนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นากยรัฐมนตรีไทยได้กล่าวยืนยันว่า มีความเห็นด้วยที่จะยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้ขึ้นสู่ระดับหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ไม่อนุญาติให้องค์กรใดๆใช้ดินแดนของไทยเพื่อต่อต้านเวียดนาม และไทยจะส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ พลังงานและการท่องเที่ยวกับเวียดนาม ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของทั้งสองประเทศให้มากยิ่งขึ้น
ส่วนในการให้การต้อนรับท่าน ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภาไทยที่เดินทางมาเยือนเวียดนามเมื่อปลายเดือนธันวาคม ท่าน Nguyen Sinh Hung ประธานรัฐสภาเวียดนามได้กล่าวย้ำว่า ทั้งสองประเทศจะมีความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในด้านนิติบัญญัติ “ ผมคิดว่า หลังการเยือนเวียดนามครั้งนี้ของท่านประธานวุฒิสภาไทย เราจะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสองประเทศให้เข้าสู่ส่วนลึกและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นทั้งในด้านคุณภาพและขอบเขต ซึ่งรัฐสภาทั้งสองประเทศควรแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนกันเพื่อเรียนรู้ประสบการณ์และหารือเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสองประเทศ นอกจากนี้ เราควรเพิ่มความร่วมมือในการตรวจสอบการปฏิบัติข้อตกลงระหว่างรัฐบาลให้ถูกต้องตามกฏหมายและความปรารถนาของประชาชนทั้งสองประเทศ”
สำหรับมูลค่าการค้าระหว่างเวียดนามกับไทยในปี 2011ได้บรรลุกว่า 7 พันล้านเหรียญสหรัฐ เวียดนามกำลังเป็นตลาดลงทุนที่มีศักยภาพของนักลงทุนไทยและเป็นตลาดส่งออกที่มีความสำคัญเป็นอันดับที่ 4 ของภูมิภาคและลำดับที่ 9 ของโลก ส่วนในปีต่อๆไป ก็จะพยายามเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนให้ถึง 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ แต่อย่างไรก็ตาม เวียดนามและไทยก็ต้องส่งเสริมความสัมพันธ์ร่วมมือทางเศรษฐกิจให้พัฒนายิ่งขึ้น โดยเฉพาะการกลับมาเปิดสายการบินที่ยุติการให้บริการอีกครั้ง การลดระเบียบศุลกากรในจุดผ่านแดนทางบก การจัดทำร่างระเบียบความร่วมมือเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของข้าวเหมือนกลุ่มประเทศที่ส่งออกน้ำมันและสร้างสรรค์ความเจริญรุ่งเรืองระหว่างเวียดนามกับไทย
ในความสัมพันธ์ทางการทูต ไทยและเวียดนามต่างสนับสนุนกันในฟอรั่มระหว่างประเทศและภูมิภาค และมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดในอาเซียน ส่งเสริมความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ การใช้ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก- ตะวันตกและความร่วมมือใน ACMECS GMS ... ผลักดันการปฏิบัติ DOC การรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในทะเลตะวันออก ในการกล่าวสรุปผลความร่วมมือระหว่างสองประเทศในกรอบความร่วมมืออาเซียน นาย อนุสนธิ์ ชินวรรโณ เอกอัครราชทูตไทยประจำเวียดนามได้กล่าวยืนยันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่นับวันยิ่งพัฒนามากขึ้นจะเอื้อผลประโยชน์ให้แก่ทั้งสองประเทศและความมั่นคงของภูมิภาค โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่กลุ่มอาเซียนกำลังมุ่งสู่การสร้างสรรค์ประชาคมในปี 2015
เทปภาษาไทย...........
อาจกล่าวได้ว่า ในปี 2011 ความสัมพันธ์ระหว่างวน.กับไทยได้ประสบความคืบหน้าที่น่ายินดีต่างๆ ซึ่งถือเป็นพื้นฐานให้การพัฒนาความร่วมมือระหว่างสองประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคตและในกรอบอาเซียน./.