ในเวลาที่ผ่านมา จังหวัดกว๋างนิงห์เป็นเจ้าภาพจัดฟอรั่มต่างๆ เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรมและการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลแห่งชาติ |
ตามมติที่ 57-NQ/TW ลงวันที่ 22 ธันวาคม 2024 ของกรมการเมือง ยังคงยืนยันบทบาทซึ่งชี้ขาดของวิทยาศาสตร์–เทคโนโลยี และการปรับเปลี่ยนทางดิจิทัล ต่อเป้าหมายระยะ 100 ปีในสองประการ ได้แก่ การที่เวียดนามจะก้าวขึ้นเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่มีอุตสาหกรรมสมัยใหม่ภายในปี 2030 และการเป็นประเทศพัฒนาแล้วที่มีรายได้สูงภายในปี 2045 ซึ่งแนวคิดเหล่านี้ได้รับการระบุอย่างชัดเจนในร่างเอกสารวาระการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 14 ที่ย้ำถึงแรงขับเคลื่อนใหม่ ๆ ในฐานะเป็นกุญแจสำคัญต่อการสร้างโมเดลการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน นาย ฮว่างวันเด่ เลขาธิการพรรคสาขาแขวง ฮว่างเกว้ (Hoàng Quế) จังหวัดกว๋างนิงห์ เผยว่า สาระหลักดังกล่าวได้ถูกนำไปปฏิบัติอย่างจริงจังในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคทุกระดับของจังหวัดในช่วงเวลาที่ผ่านมา
"นี่คือการตัดสินใจและนโยบายที่ถูกต้องและสอดคล้องกับแนวโน้มการพัฒนาอย่างแท้จริง สำหรับจังหวัดกว๋างนิงห์ ด้วยสถานะในปัจจุบันและแนวทางการพัฒนาในช่วง 5 ปีข้างหน้า โดยตั้งเป้าหมายสู่การเป็นเมืองภายใต้การบริหารส่วนกลางภายในปี 2030 นั้น วิทยาศาสตร์–เทคโนโลยีและนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ย่อมเป็นภารกิจที่สำคัญและเป็นปัจจัยชี้ขาดความสำเร็จ ดังนั้น ทางการแขวงและตำบล รวมถึงเขตพิเศษต่าง ๆ ในจังหวัดฯ จะต้องแสดงบทบาทบนพื้นฐานตามศักยภาพและจุดแข็งของตนเอง เพื่อปฏิบัติตามคำสั่งการของบรรดาผู้บริหารจังหวัดฯ สู่การพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมในช่วงเวลาข้างหน้า"
กระบวนการประชาชนเรียนรู้ดิจิทัลได้รับการเผยแพร่ในท้องถิ่นต่างๆ ทั่วจังหวัด |
นอกเหนือจากบทบาทการเป็นขั้วการเจริญเติบโตในพื้นที่สามเหลี่ยม ได้แก่ กรุงฮานอย – เมืองไฮฟอง – จังหวัดกว๋างนิงห์ แล้ว จังหวัดฯ ยังเป็นประตูสู่ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมเป็นพื้นที่ศูนย์รวมคุณค่ามรดกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ด้วยการผลักดันการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์–เทคโนโลยี และกระบวนการปรับเปลี่ยนทางดิจิทัลอย่างแข็งขัน จังหวัดกว๋างนิงห์ สามารถรักษาอัตราการเจริญเติบโตอยู่ที่ระดับเลขสองหลักได้อย่างต่อเนื่องในราวหนึ่งทศวรรษ ซึ่งมีส่วนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน
ส่วนนาย บุ่ยฮว่างซาง เลขาธิการพรรคสาขาแขวงเอียนตื๋อ เผยว่า หน่วยงานพรรคทุกระดับกำลังปฏิบัติตามแนวทางส่วนกลางให้สอดคล้องกับลักษณะเฉพาะของพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตมรดกระดับชาติที่มีชื่อเสียง พร้อมความคาดหวังว่า จะยกระดับให้ เอียนตื๋อ กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางระดับสากลที่ดีที่สุดภายในไม่กี่ปีต่อจากนี้
“ในด้านที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจ–สังคม โดยเฉพาะในพื้นที่เขตมรดก เอียนตื๋อ การพัฒนาด้านการท่องเที่ยวควบคู่กับเมืองอัจฉริยะ ถือว่า มีความจำเป็นอย่างมาก ตั้งแต่การพัฒนาที่เชื่อมโยงกับเทคโนโลยี แพลตฟอร์มดิจิทัลของเมืองอัจฉริยะ การชำระโดยไม่ใช้เงินสด จนถึงการพัฒนาเศรษฐกิจทางมรดกและอุตสาหกรรมวัฒนธรรม ควบคู่กับการอนุรักษ์ภูมิทัศน์ทางประวัติศาสตร์และคุณค่ามรดกผ่านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล อาทิ โปรแกรมเสมือนจริง ผลิตภัณฑ์แหล่งท่องเที่ยวในรูปแบบดิจิทัล และการบริหารจัดการแบบดิจิทัลเพื่อค้ำประกันความปลอดภัยของสถานที่ปลายทาง”
จังหวัดกว๋างนิงห์ถือวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี นวัตกรรมและการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคคิดจิทัลเป็นพลังขับเคลื่อนใหม่ในกระบวนการขยายตัวแห่งสีเขียว
|
ด้วยการเล็งเห็น วิทยาศาสตร์–เทคโนโลยี นวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ และการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล คือ “โอกาสทอง” ในการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจสู่ความยั่งยืน บรรดาเจ้าหน้าที่และสมาชิกพรรคในกว๋างนิงห์หลายคนเห็นว่า นอกจากปัจจัยที่เอื้ออำนวยแล้ว ทางจังหวัดฯ ยังต้องเร่งแก้ไขข้อจำกัดต่าง ๆ เช่น ศักยภาพด้านวิทยาศาสตร์–เทคโนโลยีที่ยังไม่ทัดเทียมกับขนาดเศรษฐกิจ การขาดแคลนบุคลากรที่มีคุณภาพสูงในสาขาเทคโนโลยีหลัก อย่าง ปัญญาประดิษฐ์ เซมิคอนดักเตอร์ ชีววิทยา รวมถึงความมั่นคงและปลอดภัยทางไซเบอร์ ช่องว่างการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลระหว่างเขตเมืองกับชนบทยังมีอยู่อีกมาก และวัฒนธรรมแห่งนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ยังไม่แพร่หลายอย่างกว้างขวาง นาย เหงวียนจุงเตี๊ยน รองผู้อำนวยการสำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจังหวัดกว๋างนิงห์ ได้ยืนยันว่า
“ณ ขณะนี้ “เหมืองแร่แห่งเทคโนโลยี” คือพื้นที่การพัฒนาใหม่ที่ช่วยให้จังหวัดฯ บรรลุเป้าหมายการปรับเปลี่ยนทางดิจิทัลสีเขียวอย่างยั่งยืน นี่คือโอกาสการยกระดับผลิตภาพแรงงานและขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างรอบด้าน ตั้งแต่หน่วยงานบริหารภาครัฐไปจนถึงภาคเอกชน เพื่อคว้าโอกาสเหล่านี้ จังหวัดกว๋างนิงห์ จะมุ่งเน้น 3 เสาหลักเชิงยุทธศาสตร์ ได้แก่ การปรับปรุงระบบบริหารราชการมีความคล่องตัวมากที่สุด การนำหน้าด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และการสร้างทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพสูงอย่างก้าวกระโดด”
ทั้งนี้ บนพื้นฐานที่วางไว้ จังหวัดกว๋างนิงห์ มีความพร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งใน “เขตแซนด์บ็อกซ์เชิงยุทธศาสตร์” ของเวียดนามในการปฏิบัติตามมติที่ 57-NQ/TW และแนวทางใหม่ ๆ ในวาระการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 14 เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์–เทคโนโลยี นวัตกรรมสร้างสรรค์ การปรับเปลี่ยนทางดิจิทัล รวมถึงการพัฒนาชาวเวียดนามอย่างรอบด้าน ซึ่งก้าวกระโดดจากระดับท้องถิ่นนั้น จะมีส่วนช่วยสร้างขั้วการเจริญเติบโตแห่งใหม่ พร้อมยกระดับผลิตภาพ–คุณภาพ และประสิทธิภาพของระบบเศรษฐกิจทั้งหมด เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายอัตราการเติบโต GDP ในระดับเลขสองหลักในระยะถัดไป./.