ไทย– เวียดนามส่งเสริม “One plus one on Three Connects” ​

Minh Ly
Chia sẻ
(VOVWORLD) - เวียดนามและไทยได้ยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในรอบด้านในกรอบการเยือนเวียดนามของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทยในระหว่างวันที่ 15-16 พฤษภาคม โดยบรรดาสถานประกอบการและประชาชนของสองประเทศให้ความสนใจเป็นอย่างมากต่อเนื้อหาความร่วมมือในงานสัมมนาทางธุรกิจไทย–เวียดนาม ภายใต้หัวข้อ “One plus one on Three Connects” โอกาสนี้ ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามได้สัมภาษณ์นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการอาวุโสของหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและนายกสมาคมมิตรภาพไทย– เวียดนามเกี่ยวกับเนื้อหาความร่วมมือที่มีศักยภาพระหว่างสองประเทศ
 
 
ไทย– เวียดนามส่งเสริม “One plus one on Three Connects”   ​ - ảnh 1นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการอาวุโสของหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและนายกสมาคมมิตรภาพไทย– เวียดนามกล่าวปราศรัยในงานสัมมนาทางธุรกิจไทย–เวียดนาม ภายใต้หัวข้อ “One plus one on Three Connects”

ผู้สื่อข่าววีโอวี: ขอบคุณท่านที่ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนาม ขอให้ท่านอธิบายเกี่ยวกับ “One plus one on Three Connects” หลังจากเวียดนามและไทยได้ยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในรอบด้าน

นายสนั่น อังอุบลกุล: ก็แสดงความยินดีให้กับทางรัฐบาลทั้งสองประเทศไทยและเวียดนามที่ได้มีการเซ็นข้อตกลงนั้น เราเรียกว่า Comprehensive Strategic Partnership การยกระดับ Comprehensive Strategic Partnership นั้นก็มีส่วนที่สำคัญมากเพราะมันจะครอบคลุมทุกๆด้านแม้แต่การศึกษา ทางด้านเศรษฐกิจ เรื่องการเมือง ความมั่นคง มันจะยกระดับทุกๆด้านเลย เราจะต้องคุยกันแล้วเอาจุดแข็งของสองประเทศมาเสริมซึ่งกันและกัน

เราต้องการจะส่งเสริมเรื่อง One plus one Three Connects ก็คือในการเชื่อมโยงทั้งสามด้านจากสองประเทศ One plus one ก็คือสองประเทศ แต่จะเชื่อมโยงเป็น 3 เรื่องด้วยกัน เรื่องแรกก็คือเกี่ยวกับเรื่อง Supply chain สองประเทศนี้ควรจะต้องมีความร่วมมือเกี่ยวกับเรื่อง Supply chain อันนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมาก ทำให้ต้นทุนต่ำลง เรื่องที่สองก็คือการพัฒนาสินค้าในความชำนาญของแต่ละประเทศ อย่างเช่น ที่นี่มี สินค้าOCOP ส่วนประเทศไทยมีสินค้า OTOP ฉะนั้นถ้า OTOPของเราจะทำก่อนOCOP นี่ก็คือเรายินดีที่จะส่งเสริมสินค้า OCOP ไปขายที่ประเทศไทยและก็จาก OTOP เราสามารถจะช่วยให้คำแนะนำในการพัฒนาสินค้า การออกแบบ เรื่องการบรรจุภัณฑ์ต่างๆให้มีความทันสมัยและตอบสนองกับผู้บริโภคเป็นอย่างดี ส่วนที่สามนั้นก็ต้องการที่จะมีการพัฒนาด้วยความยั่งยืนก็คือเกี่ยวกับเรื่องสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี เราสองประเทศแม้แต่เรื่องโลจิสติกส์ ก็จะสามด้านนี้ก็จะcover เกี่ยวกับเรื่องการค้า การลงทุน แม้แต่การพัฒนาเรื่องคน เทคโนโลยีดิจิทัล เป็นต้น

ผู้สื่อข่าววีโอวี: เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ขอให้ท่านประเมินเกี่ยวกับศักยภาพความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อกระตุ้นการค้า AI และสถานประกอบการสตาร์ทอัพ

นายสนั่น อังอุบลกุล: เกี่ยวกับเรื่องดิจิทัลในการค้าก็คือเกี่ยวกับความสะดวกในการที่จะทำเรื่อง connect ทั้งด้านการเงิน การชำระเงินจะทำผ่านระบบของ ดิจิทัล อันนี้ก็จะลดค่าใช้จ่ายและมีความปลอดภัย ขณะเดียวกันก็มีความรวดเร็วกับความยืดหยุ่นสูง ประเทศไทยเรามีความก้าวหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในการประชุม Business Forum ระหว่างไทยกับเวียดนามที่กรุงเทพฯ เราก็ได้มีการเซ็นMOU และมีการเริ่มดำเนินการไปแล้ว มันก็คงจะมีการพัฒนาไปเรื่อยๆ

พูดถึงสตาร์ทอัพ จริงๆครั้งนี้เราก็ตั้งใจที่จะเอาพวกAI และพวกสตาร์ทอัพมาร่วมประชุม ที่ประเทศไทยเรามีกลุ่ม Young Entrepreneurs Chamber of Commerce หรือ YEC คือพวกผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่ หรือ เป็นทายาทของพวกผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จแล้ว เรามีจำนวนสมาชิกประมาณ 1 หมื่นคนแล้วก็มีการจัดกิจกรรมกับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของเวียดนาม Business Association มีการทำอยู่แล้ว ครั้งนี้ เรื่องจากการเดินทางของเรากะทันหันก็เลยยังไม่สามารถที่จะนำเอาคณะนี้มาร่วมด้วยและก็จะมีการจัดอีกครั้งหนึ่งในปีนี้ที่กรุงเทพฯครับ

ผู้สื่อข่าววีโอวี: สำหรับทาง Thai Chamber commerce จะมีส่วนช่วยเหลือยังไงให้แก่สถานประกอบการ SME ในการลงทุนในเวียดนามคะ

นายสนั่น อังอุบลกุล: ในทั้งด้านคนไทยที่มาลงทุนในเวียดนามนั้น ผมคิดว่า ยังมีจำนวนที่เข้ามามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะต่อไปนี้นอกจากที่บริษัทใหญ่ที่ประสบความสำเร็จแล้วของไทย เราก็มี Thai Chamber commerce ที่จะให้ข้อแนะนำว่ามาลงทุนให้กับพวก SME ไปแล้ว ความเสี่ยงต่ำและควรทำอย่างไรให้ถูกกฎหมายของเวียดนามและระหว่างทำต้องเข้าถึงประชาชนเพื่อที่จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาหรืออุปสรรค แต่ขณะเดียวกันก็จะให้คนไทยที่มาลงทุนแล้วถูกปลูกฝังหรือมาที่เวียดนามแล้วจะต้องทำประโยชน์ให้กับคนที่เวียดนามและทำธุรกิจแล้วจะต้องมีจรรยาบรรณ ถ้ามีกำไรแล้ว มันก็จะสร้างความเจริญทางเศรษฐกิจให้กับประเทศเวียดนามเติบโตพร้อมกันไปเรื่อยๆในอนาคต มันจะได้ยั่งยืน

ไทย– เวียดนามส่งเสริม “One plus one on Three Connects”   ​ - ảnh 2นาย สนั่น อังอุบลกุล นายกสมาคมมิตรภาพไทย-เวียดนามกล่าวปราศรัยในพิธีเปิดตัวหนังสือสองภาษาเวียดนาม-ไทย “ลุงโฮพำนัก ณ ประเทศไทย”ในโอกาสฉลอง 135ปีวันคล้ายวันเกิดของประธานโฮจิมินห์ ณ จังหวัดอุดรธานี

ผู้สื่อข่าววีโอวี: เวียดนามและไทยจะรำลึกครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปีหน้า ซึ่งทางสมาคมมิตรภาพไทย– เวียดนามมีแผนจัดกิจกรรมอะไรบ้าง

นายสนั่น อังอุบลกุล:  ทางสมาคมมิตรภาพเราทำทุกๆด้านเลยแม้แต่เรื่องวัฒนธรรม การศึกษา มีการให้ทุนชาวเวียดนามไปเรียนที่ประเทศไทยให้รู้จักภาษาไทย ขณะเดียวกันก็ส่งนักเรียนไทยมาแลกเปลี่ยนที่เวียดนามเพื่อเข้าใจและใช้ภาษาเวียดนามได้ถูก อันนี้มันจะสร้างคนรุ่นใหม่โตไปด้วยกันระหว่างความเข้าใจ อันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญระหว่างคนทั้งสองประเทศ

ปีนี้ เรามีการจัดงานแม้แต่สมาคมมิตรภาพไทย-เวียดนามร่วมกับสมาคมมิตรภาพเวียดนาม-ไทย มีการจัดงานฉลองกับกระทรวงการต่างประเทศคือฉลองครบรอบ 50ปีความสัมพันธ์ไทย-เวียดนามในปีหน้า ขณะเดียวกัน เราไม่รอครับ ปีนี้เราก็เริ่มทำแล้ว ชาวไทยเชื้อสายเวียดนามที่อยู่จำนวนเป็นแสนก็มีจัดกิจกรรมในการฉลองและรำลึกถึงการรวมชาติของเวียดนามและก็เป็นปีที่มีความสำคัญมากที่ชาวไทยเชื้อสายเวียดนามจัดกิจกรรมฉลอง 135ปีวันคล้ายวันเกิดของประธานโฮจิมินห์ในหลายจังหวัด เช่น อุดรธานี นครพนม มีบ้านพักที่ประธานโฮจิมินห์เคยพักอาศัยอยู่ที่นั่น มีVietnam Town อยู่ที่โน่น มีศูนย์วัฒนธรรมเกี่ยวกับเรื่องประวัติของประธานโฮจิมินห์ สิ่งเหล่านี้ เป็นการตอกย้ำว่า ระหว่างคนไทยกับชาวเวียดนามต้องการที่จะรู้จักและเข้าใจกันมากยิ่งขึ้นและก็แสดงถึงความจริงใจที่จะทำให้ความสัมพันธ์เราสามารถจะเจริญเติบโตไปอย่างยั่งยืน

ผู้สื่อข่าววีโอวี: ขอขอบคุณท่านเป็นอย่างสูง!

คำติชม