( VOVworld )-
คนเรามักจะเลือกทำงานในเมืองใหญ่ที่คล่องตัวและมีความสะดวกเพื่อที่จะได้รับโอกาสในการสร้างฐานะและตำแหน่งให้แก่ตนเอง แต่มีแพทย์ท่านหนึ่งที่พื้นเพจากนครโฮจิมินห์ที่เป็นนครใหญ่ที่สุดและเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของเวียดนามได้เลือกเส้นทางเดินของตัวเองคือ ทำงานที่อำเภอเกาะเกิ่นเหย่อที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ยากจน
เภอเกิ่นเหย่อเป็นอำเภอชานเมืองนครโฮจิมินห์และเป็นพื้นที่ยากจน เส้นทางจากนครโฮจิมินห์ไปยังเกิ่นเหย่อหลายสิบกิโลเมตรไม่เห็นบ้านแม้แต่หลังเดียว มีแต่ป่าโกงกางทึบตลอดทาง แต่หมอลวนแทงเจื่อง หัวหน้าสถานีอนามัยตำบลแถกอาน อำเภอเกิ่นเหย่อมาทำงาน ณ ที่นี่ได้กว่า ๑๐ ปี การที่พวกเรามาพบท่านต้องเดินทางเป็นระยะทาง ๗๐ กิโลเมตรจากใจกลางนครโฮจิมินห์ถึงเมืองเกิ่นเหย่อแล้วล่องเรือเฟอร์รี่อีก ๔๕ นาทีจึงจะถึงตำบลเกาะแถกอาน ซึ่งมีสถานีอนามัยที่หมอลวนแทงเจื่องกำลังทำงาน สถานีอนามัยแถกอานได้รับการก่อสร้างอย่างดีเหมือนโรงพยาบาลและผูกพันกับชื่อเสียงของหมอเจื่อง คุณป้าเหงวียนถิ่เหล่ ชาวบ้านแถกหว่า ตำบลแถกอานคุยว่า “ หมอเจื่องสามารถรักษาโรคต่างๆให้หายได้แม้กระทั่งผู้ป่วยหนักจึงไม่ต้องส่งเข้าโรงพยายาลในแผ่นดินใหญ่ หมอเจื่องเป็นคนใจดีท่านได้รับความรักจากชาวบ้าน ป้าเป็นโรคเนื้องอก ไม่มีเงินทำการผ่าตัด หมอเจื่องให้เงิน ๑ ล้านด่ง ชาวบ้านรักและรู้สึกมั่นใจในตัวหมอ ”
หมอลวนเจื่องตรวจโรคให้แก่ชาวบ้าน
ชาวบ้านตำบลแถกอานเลี้ยงชีพด้วยการอาศัยทะเลโดยเหวี่ยงแหจับปลาและทำนาเกลือ การทำงานหนักและขาดแคลนสิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันได้ส่งผลในทางลบต่อสุขภาพของชาวบ้าน ดังนั้นพวกเขาต้องไปหาหมอเจื่องบ่อยๆ และมีผู้ป่วยคนจนหลายรายได้รับการรักษาฟรี และได้รับยาจากหมอเจื่องโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายและท่านยังให้เงินส่วนตัวด้วย ปัจจุบัน หมอเจื่องกำลังเลี้ยงดูแม่เฒ่ายากจนคนหนึ่งที่ตาบอดในตำบลแถกอาน คุณป้าโด่ถิ่เหนอ เจ้าของร้านข้าวที่หมอเจื่องสั่งข้าวเป็นรายเดือนให้แก่แม่เฒ่ายากจนรายดังกล่าวเล่าว่า “ หมอเจื่องดูแลแม่เฒ่าซาเล้งรายนี้ดีมาก โดยสั่งข้าวกล่องหนึ่งกล่องทุกวันให้แก่แม่เฒ่า หมอเจื่องยังให้เงินและสิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัวแก่ครอบครัวยากจนและป่วย หมอเจื่องยังให้เงินค่าเดินทางแก่ผู้ป่วยหลายรายที่ต้องรักษาฉุกเฉินและส่งเข้าโรงพยาบาล ”
ก่อนหน้านี้ไม่กี่ปี ที่สถานีอนามัยแถกอานยังไม่มีพยาบาลผดุงครรภ์ หมอเจื่องจึงต้องรับหน้าที่นี้ด้วย แต่ละปีท่านได้ทำคลอดเฉลี่ย ๕ – ๑๐ ราย การที่หมอเจื่องตัดสินใจทำงานที่สถานีอนามัยแถกอานมานานกว่า ๑๐ ปีเพราะชาวบ้านยังยากจนและต้องการแพทย์รักษาโรคแต่สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือ น้ำใจของชาวบ้านที่มีต่อท่าน ดังนั้นถึงแม้มีโอกาสกลับมาทำงานในตัวเมืองแต่ท่านยังเลือกทำงานในที่ห่างไกลและยากจน หมอลวนแทงเจื่องเล่าว่า “ ตัวแพทย์เองไม่สามารถทำทุกอย่างได้สำเร็จ แต่หากรู้จักระดมชาวบ้านให้มีส่วนร่วมจะสามารถช่วยผู้ป่วยพ้นจากอันตรายซึ่งทำให้ผมรู้สึกสบายใจมาก ทั้งนี้ทำให้ผมไม่ต้องครุ่นคิดและพิจารณาว่าจะศึกษาต่อหรือไม่เพราะผมอยู่ที่นี่จะช่วยชาวบ้านได้เยอะมาก โดยเฉพาะคนจน ”
ชีวิตของชาวบ้านตำบลแถกอานยังยากลำบากและขาดแคลนหลายอย่าง เมื่อป่วยหนักต้องส่งไปยังโรงพยายาลแต่ต้องใช้เรือเฟอร์รี่ซึ่งใช้เวลาเดินทางมากพอสมควร หากไม่ได้รับการรักษาฉุกเฉินจะเป็นอันตรายต่อชีวิต นายเลแทงเวิน รองประธานคณะกรรมการประชาชนตำบลแถกอานเปิดเผยว่า “ หมอลวนแทงเจื่องมีความสามารถและมีจรรยาบรรณแพทย์ ท่านช่วยเหลือชาวบ้านอย่างไม่เห็นแก่ความเหน็จเหนื่อย ดังนั้นการรักษาโรคและป้องกันโรคของสถานีอนามัยตำบลจึงประสบความสำเร็จ ”
แพทย์ลวนแทงเจื่องดุจดั่งแม่ผู้อารีย์ ท่านได้ทิ้งความสะดวกสบายและโอกาสทำทงานในตัวเมืองใหญ่ที่จะสร้างความก้าวหน้าให้แก่ตัวเองเพื่อคนจนบนเกาะตำบลที่ห่างไกลของนครโฮจิมินห์ ./.