การแสดงร้องเพลงของบรรดาทหารพิการของสโมสร “ เสียงเพลงของทหารพิการนครหลวง ” ( CAND online )

นี่คือเสียงฝึกร้องเพลงของสมาชิกสโมสร “ เสียงเพลงของทหารพิการนครหลวง ” ณ ศูนย์วัฒนธรรมฮานอย เลขที่ ๘๘ ถนนห่างบ่วม กรุงฮานอย โดยจะฝึกร้องในทุกๆวันอังคารและวันเสาร์ สโมสร“ เสียงเพลงของทหารพิการนครหลวง ” ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนตุลาคมค.ศ. ๑๙๙๗ ด้วยสมาชิก ๑๕ คนที่เป็นทหารพิการรวมทั้งทหารพิการสาหัส ต่อมามีผู้เข้าเป็นสมาชิกเพิ่มอีกรวมกว่า ๓๐ ชีวิตในปัจจุบันซึ่งเป็นทหารพิการสาหัส ๘ คน ทหารผู้ป่วย ทหารผ่านศึกและอดีตเยาวชนอาสา  นายเหงวียนเวียตโหน่ย สมาชิกสโมสรเปิดเผยว่า  ในช่วงเริ่มแรกท่านกับบรรดาผู้ก่อตั้งสโมสรต้องทำงานหนักเพื่อโน้มน้าวให้เพื่อนร่วมรบเข้าร่วมและขอใบอนุญาตประกอบกิจกรรม  ซึ่งภาพนักร้องนั่งบนรถวิลแชร์ร้องเพลงอมตะ เพลงเกี่ยวกับช่วงระยะเวลาหนึ่งของการปฏิวัติอย่างเต็มอกเต็มใจทำให้นายโหน่ยรู้สึกรักชีวิตและหวนคิดถึงระยะเวลาหนึ่งที่รุ่งโรจน์ ของชาติ  “ อนุสรณ์ที่น่าจดจำของผมคือ การร้องเพลงให้กับทหารพิการที่ซุยเตียน จังหวัดห่านาม ซึ่งผู้ชมเป็นทหารพิการที่ต้องนั่งรถวิลล์แชร์  พวกเราร้องไปพลางลงจากเวทีไปกอดไหล่และคอทหารพิการแต่ละคนซึ่งเคยร่วมทุกข์ร่วมสุขพร้อมสละชีวิตและเลือดเนื้อเพื่อมาตุภูมิ  พวกเรารู้สึกบอกไม่ถูกน้ำตาคลอเบ้าและร้องเพลงเกี่ยวกับทหารและช่วงเวลาในอดีตที่เต็มไปด้วยความหาญกล้า ซึ่งปัจจุบันถึงแม้ต้องเสียอวัยวะส่วนหนึ่งแต่ก็พร้อมที่จะร่วมแรงร่วมใจกันในการสร้างสรรค์ประเทศและทำประโยชน์เพื่อสังคม ”

สมาชิกของสโมสรยังเดินทางไปยังหน่วยทหารต่างๆเพื่อร้องเพลงและพบปะกับทหารรุ่นใหม่ ทำการแสดงตามศูนย์รักษาโรคและฟื้นฟูสมรรถภาพให้แก่ทหารพิการและเจ็บป่วย อีกทั้งยังเดินทางไปถึงสมรภูมิเก่ากว่างจี่ทางภาคกลางของประเทศเพื่อร้องเพลงแสดงความสำนึกในบุญคุณต่อเพื่อนร่วมรบและร้องเพลงให้กับคุณแม่วีรชนเวียดนาม  รายการแสดงต่างๆของสโมสรยังได้รับการเผยแพร่ทางสถานีวิทยุเวียดนามและสถานีโทรทัศน์เวียดนามด้วย  คุณห่าถิ่หว่า สมาชิกสโมสรเปิดเผยว่า “ ดิฉันเคยชมการแสดงของสมาชิกสโมสรทางโทรทัศน์ ซึ่งนักร้องเหล่านี้ล้วนเป็นทหารพิการนั่งรถวิลล์แชร์ ทำให้ดิฉันกลั้นน้ำตาไม่อยู่และคิดในใจว่า เมื่อเกษียรอายุราชการจะเข้าเป็นสมาชิก และได้รับการส่งเสริมให้กำลังใจจากลูก โดยพวกเขาบอกว่า เมื่อแม่ยังแข็งแรงอยู่ก็ควรนำเสียงเพลงมารับใช้ทหารและชาวบ้าน และดิฉันก็ได้รับเข้าเป็นสมาชิกของสโมสร ”

ทางสโมสรยังจัดการเดินทางกลับสู่สมรภูมิเก่าและสืบหาอัฐิเพื่อนร่วมรบ โดยสามารถค้นพบอัฐิกว่า ๓๐ ชุดส่งให้แก่ญาติพี่น้อง  และยังมีการบริจาคเงินจากการขายบัตรผ่านประตูในการแสดงครั้งต่างๆเพื่อก่อสร้างบ้านธารน้ำใจให้แก่ครอบครัวที่อยู่ในเป้านโยบายของอำเภอซอกเซินกรุงฮานอย บริจาคเงินช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยในภาคกลางและเข้าร่วมโครงการบริจาคเงินช่วยเหลือคนจนของแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนาม นายเหงวียนหงอกลวาน หัวหน้าสโมสรเปิดเผยว่า  “ ทางสโมสรวางแผนจะรับทหารที่ปลดประจำการและเยาวชนอาสาเข้าเป็นสมาชิกเพื่อรักษาเกียรติประวัติ จากนั้นจะขยายผลออกไปเพื่อให้การศึกษาเกียรติประวัติของทหารให้แก่คนรุ่นหลัง ”

  ทหารผ่านศึกและทหารผู้ป่วยแต่ละคนของสโมสร ฯมีชีวิตที่แตกต่างกันที่ต้องทนรับกับความลำบากในชีวิตประจำวันและความเจ็บปวดจากแผลในสงครามที่กำเริบแต่พวกเขายังนำเสียงเพลงของตนมาบริการชาวบ้านและเพื่อนร่วมรบที่อาศัยอยู่ในเขตที่ห่างไกลความเจริญและสมรภูมิเก่า อันเป็นการสะท้อนจิตใจแห่งความเป็นเพื่อนร่วมรบที่หาค่ามิได้ ./.