แม้ต้องเผชิญกับคลื่นทะเลตลอดทั้งปีแต่อำเภอเกาะเจื่องซายังคงเต็มไปด้วยสีเขียวจากต้นไม้ที่เติบโตอย่างสมบูรณ์บนแผ่นดินที่ก่อกำเนิดมาจากแนวปะการัง ต้นไม้ที่มีมากที่สุดบนเกาะแห่งนี้คือต้นงวงช้างทะเล ซึ่งได้สร้างสีเขียวให้แก่เกาะและเป็นที่หลบร้อนพักผ่อนของทหารทุกนายหลังการฝึก ที่บริเวณกลางเกาะซองตื๋อเตย มีต้นงวงช้างทะเลขนาดสองคนโอบ  ใบสีขาว นี่คือต้นไม้โบราณที่มีอายุมากที่สุดบนเกาะและเป็นสัญลักษณ์เกี่ยวกับอธิปไตยเหนือเกาะแห่งนี้อีกด้วย พันโทมายวันเทวี๊ยด ทหารบนเกาะซองตื๋อเตยเผยว่า “ต้นไม้มรดกในเกาะซองตื๋อเตยที่ได้รับการรับรองเป็นมรดกนั้นเป็นการยืนยันถึงอธิปไตยของเวียดนามและจิตใจของบรรพบุรุษในการาปกป้องผืนแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์นี้ ซึ่งช่วยให้ทหาร เจ้าหน้าที่และประชาชนบนเกาะสานต่อจิตใจดังกล่าวต่อไปและพัฒนาเกียรติประวัตอันล้ำค่าของบรรพบุรุษเพื่อปกป้องอธิปไตยเหนือทะเลและเกาะแก่งอันศักดิ์สิทธิ์ของปิตุภูมิ”

เกาะเซินกาที่มีชื่อเสียงเนื่องจากมีต้นกระทิงจำนวนมาก ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำถิ่นของเขตตะวันตกภาคใต้แต่สามารถปลูกได้ดีบนเกาะแห่งนี้ ที่เกาะเซินกามีต้นกระทิงหลายต้นที่มีอายุกว่า 30 ปี ต้นกระทิงถูกนำมาปลูปบนเกาะนี้โดยทหารนายหนึ่งที่มีพื้นเพเป็นคนเขตตะวันตกภาคใต้ ตั้งแต่นั้นมาต้นกระทิงได้เติบโตและขยายพันธ์ุอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเกาะ

ส่วนที่เกาะนามเอี๊ยด มีต้นจิกทะเลที่มี 8 ลำต้น อายุ 100 ปีและมีรากบนพื้นดินยาวถึงสิบเมตร ซึ่งถือเป็นต้นไม้พิเศษเพราะโดยทั่วไปต้นจิกทะเลจะมีแค่ 1 ลำต้นเท่านั้น ร้อยโทหว่างวันทึ๊ก ทหารบนเกาะนามเอี๊ยดกล่าวว่า หลังจากการฝึกทางทหารหรือเล่นกีฬา ทหารทุกนายชอบมานั่งใต้ร่มต้นจิกทะเลนี้ “สิ่งที่สร้างความประทับใจต่อทหารรุ่นใหม่เหมือนผมคือเมื่อเดินทางถึงเกาะนามเอี๊ยดก็เห็นทิวต้นจิกทะเลเขียวขจี ได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับเกาะและต้นไม้โบราณบนเกาะที่ช่วยปกป้องเกาะจากคลื่นพายุ”

หมู่เกาะเจื่องซาหรือสเปรตลีย์นับวันยิ่งพัฒนามากขึ้น ส่วนต้นไม้บนหมู่เกาะก็ได้รับการปกป้องแม้ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่แปรปรวน ซึ่งต้นไม้บนเกาะเปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งจิตใจที่ทรหดของทหารและประชาชนที่นี่ที่ยืนหยัดปกป้องเกาะกลางทะเลของประเทศ./.