นาย กว่างวันข่อ ชี้ถนนที่เต็มไปด้วยหลุมระเบิดที่ตนได้ร่วมซ่อมแซม |
“ ผู้บัญชาการของเราแจ้งว่า เราสามารถปลดปล่อยเดียนเบียนได้แล้ว นายพล เดอ กัสตรีส์ได้มอบตัวแล้ว เรากลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เราโห่ร้องและปรบมือด้วยความดีใจ”
น้ำตาที่ไหลอาบแก้มของนาย กว่างวันข่อ ในตำบลเหมื่องแอ๊ อำเภอถวนโจว จังหวัดเซินลาเมื่อหวนนึกถึงช่วงเวลาในวันปลดปล่อยเดียนเบียนฟู ซึ่งตัวเขาได้มีส่วนร่วมต่อชัยชนะที่ก้องกระเดื่องไปทั่วโลกนี้ แม้สุขภาพจะอ่อนแอ แต่นาย ข่อ ในวัย 95 ปี ยังคงจดจำได้ดีเกี่ยวกับข้อมูลเกี่ยวกับฐานที่มั่นทุกแห่งของฝ่ายศัตรู รวมทั้งถนนที่เต็มไปด้วยหลุมระเบิดที่ตนได้ร่วมซ่อมแซม ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญที่ช่วยเชื่อมการติดต่อระหว่างแนวหลังกับแนวรบ นายข่อเล่าว่า
“เราไปช่วยทหารปรับสภาพถนนหนทางต่างๆ ตั้งแต่เวลาประมาณ 5 โมงเย็น แล้วก็เข้าป่ากับชาวบ้านเพื่อตัดไม้ เก็บดินเก็บหินเพื่อนำมาซ่อมแซมถนน ต้องทำในช่วงกลางคืนเพราะตอนกลางวันฝ่ายศัตรูจะใช้เครื่องบินยิง เราต้องหลบซ่อน เครื่องบินบินผ่านก็รีบออกมาทำ ช่วงนั้นลำบากมาก เราต้องซ่อมแซมช่วงกลางคืนจึงไม่ได้นอน ทำเสร็จกลับถึงบ้านก็ตี 5 แล้ว”
ช่องเขาฟาดินตั้งอยู่บนเส้นทางระหว่างจังหวัดเซินลาและจังหวัดเดียนเบียน โดยได้รับฉายาว่า เป็น 1 ใน 4 ช่องเขาที่สูงชันคดเคี้ยวที่สุดในเขตตะวันตกเฉียงเหนือและเป็นช่องทางเข้าสู่ยุทนาการเดียนเบียนฟู ดังนั้น ทหารฝรั่งเศสมักจะหาวิธีทำลายเพื่อตัดการลำเลียงเสบียงและอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่ทหารเวียดนามในสมรภูมินี้ โดยแต่ละวัน เครื่องบินของฝรั่งเศสจะลาดตระเวณที่ช่องเขาแห่งนี้นับสิบครั้ง ทำการทิ้งระเบิดและคลัสเตอร์บอมบ์อย่างหนักหน่วง
เล่าเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับยุทธนาการเดียนเบียนฟู |
ในยุทธนาการเดียนเบียนฟู มีทหาร เยาวชนอาสาและทหารพลาธิการนับพันคนได้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บที่ช่องเขาฟาดินแห่งตำนานนี้ นาย หล่อวันฮวาน ประธานคณะกรรมการประชาชนตำบลเหมื่องแอ๊ อำเภอถวนโจว จังหวัดเซินลา ซึ่งเป็นตำบลที่ติดกับช่องเขาฟาดินและอำเภอต่วนย้าว จังหวัดเดียนเบียนเผยว่า ที่ตำบล มีทหารเกือบ 30 นาย เยาวชนอาสาและทหารพลาธิการอีกนับร้อยคนที่เข้าร่วมยุทธนาการเดียนเบียนฟู
“เรื่องราวที่เกิดขึ้นได้กลายเป็นความรุ่งโรจน์และเป็นกำลังใจให้คนรุ่นหลังปฏิบัติตาม สันติภาพในวันนี้มาจากการสละเลือดเนื้อของคนรุ่นก่อน ในทุกๆ ปี เราจะจัดการพูดคุยเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในช่วงสงครามเพื่อช่วยให้คนรุ่นหลังตระหนักได้ดีเกี่ยวกับคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของช่องเขาฟาดินและชัยชนะเดียนเบียนฟู”
เมื่อปี 2020 ช่องเขาฟาดินได้รับการรับรองเป็นมรดกแห่งชาติโดยกระทรวงวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว ซึ่งเส้นทางที่คดเคี้ยวและกล้าหาญในช่วงสงครามนั้นได้กลายเป็นเส้นทางหลักที่ช่วยเชื่อมระหว่างจังหวัดเดียนเบียนกับจังหวัดเซินลาและจังหวัดต่างๆ ในเขตที่ราบลุ่มเพื่อพัฒนาการค้าขาย ซึ่งในช่วงเวลานี้ บนเนินเขาฟาดิน ทางการท้องถิ่นกำลังเร่งก่อสร้างสุสานทหารพลีชีพเพื่อชาติในเขตโบราณสถานทางประวัติสาสตร์และวัฒนธรรมช่องเขาฟาดินรวมพื้นที่กว่า 15,300 ตารางเมตรให้แล้วเสร็จโดยเร็ว นาย เหงียนดั๊กหลึก เลขาธิการพรรคสาขาอำเภอถวนโจว์ เผยว่า
“การก่อสร้างกิจการนี้ก็เพื่อยกย่องสดุดีคุณค่าทางประวัติศาสตร์พิเศษของช่องเขาฟาดิน ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้นแล้ว ที่นี่จะกลายเป็นไฮไลท์ของเขตโบราณสถานแห่งนี้ เป็นจุดนัดพบทางจิตวิญญาณของประชาชนและนักท่องเที่ยว ซึ่งมีส่วนร่วมพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัดเซินลาและสร้างก้าวกระโดดในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของอำเภอฯ”
70 ปี หลังยุทธนาการเดียนเบียนฟู ช่องเขาฟาดินยังถือเป็นพยานแห่งประวัติศาสตร์ที่สะท้อนจิตใจแห่งการตั้งใจรบและตั้งใจชนะในยุทธนาการเดียนเบียนฟู และเพื่อสานต่อประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์นี้ ชาวบ้านที่นี่กำลังพยายามบรรลุเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในยุคแห่งสันติภาพและสร้างสรรค์ชีวิตความเป็นอยู่ให้นับวันดีขึ้น.