( VOVworld )- มีสถานที่หลายแห่งที่ยังคงเก็บรักษาพยานวัตถุเกี่ยวกับการปฏิวัติอันมหัศจรรย์ของชาวเวียดนามในเดือนสิงหาคมปี ๑๙๔๕ แต่สถานที่ที่เก็บข้อมูลและสิ่งของวัตถุที่สมบูรณ์เกี่ยวกับช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ที่ได้เปลี่ยนแปลงชะตากรรมของประชาชาติเวียดนาม นี่คือ ห้องจัดแสดงที่ ๙ ของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เวียดนาม เลขที่ ๒๕ ถนน โตนด๋าน กรุงฮานอย โดยในช่วงฤดูไม้ผลัดใบปีนี้มีผู้คนหลั่งไหลมาชมเพื่อที่จะได้หวนกลับไปอยู่ในบรรยากาสอันฮึกเหิมของการลุกขึ้นต่อสู้ของชาวเวียดนามทั้งประเทศโดยเฉพาะชาวฮานอย
|
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เวียดนาม
|
พวกเรามาที่นี่ใกล้เย็นแต่ยังมีผู้เข้ามาชมเป็นจำนวนมาก คุณเกิ๋มเฟือง เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของพิพิธภัณฑ์กำลังบรรยายให้กับผู้เข้าชมกลุ่มหนึ่ง “ นี่คือแผนที่เกี่ยวกับการลุกขึ้นสู้ยึดอำนาจตามจังหวัดและนครต่างๆในเดือนสิงหาคมปี ๑๙๔๕ ซึ่งหลอดไฟแดงแต่ละดวงจะเป็นเครื่องหมายบอกจุดทำการลุกขึ้นสู้ตั้งแต่จุดแรกไปจนถึงจุดสุดท้าย จุดที่มีธงแดงดาวเหลืองก็หมายความว่า ที่นั่นได้มีการจัดตั้งทางการบริหารปฏิวัติแล้ว แผนที่นี้ระบุปฏิทินการลุกขึ้นสู้ตั้งแต่เหนือจรดใต้ โดยวันที่ ๑๙ สิงหาคมที่กรุงฮานอย วันที่ ๒๓ ที่กรุงเก่าเว้ วันที่ ๒๕ ที่ไซ่ง่อน โดยวันสุดท้ายคือวันที่ ๒๘ สิงหาคม และวันแรกคือวันที่ ๑๖ สิงหาคม เป็นอันว่า การลุกขึ้นสู้เพื่อทำการปฏิวัติของประชาชนเวียดนามในทั่วประเทศได้รับชัยชนะภายใน ๒ สัปดาห์เท่านั้น ”
|
บุกยึดทำเนียบของตัวแทนพระองค์ประจำกรุงฮานอย
|
ที่พิพิธภัณฑ์ยังจัดวางแสดงสิ่งของธรรมดาที่ชาวเวียดนามใช้เป็นอาวุธในการลุกขึ้นสู้ครั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นค้อน เคียว ดาบ ไม้ หอก ภาพเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ชาวเวียดนามทุกคนลุกขึ้นเพื่อกอบกู้เอกราชโดยเดินสำแดงกำลังและเดินขบวนไปบุกยึดทำเนียบของตัวแทนพระองค์ประจำกรุงฮานอย การชุมนุมที่จตุรัสหญ่าฮ้าตเลิ้นหรือ โรงละครใหญ่ในกรุงฮานอย การลุกขึ้นยึดอำนาจ ที่เมืองเว้และไซง่อน รวมทั้งสิ่งของของนักรบปฏิวัติอาทิเช่นปืนสั้นของพลเอกหวอเงียนย้าปที่ใช้ในวันก่อตั้งกองกำลังประชาสัมพันธ์ปลดปล่อยและในการบัญชาให้กองทัพบุกทำลายค่ายไฟคัดและหน่าเหงิ่นปี ๑๙๔๔ จานเข็มทิศและนาฬิกาที่ทหารท้องถิ่นบาเตอ จังหวัดกว่างหง่ายยึดจากกองทัพญี่ปุ่นเมื่อปี ๑๙๔๕ และหม้อหุงข้าวทองแดงของกองกำลังประชาสัมพันธ์ปลดปล่อย นอกจากนี้ ที่นี่ยังจัดแสดงสิ่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวันของประชาชนเช่น ปี่ทองแดงของบาตหลวงบุ่ยแทงทื้อที่นับถือศาสนาโปรเตสเเตนท์ที่ใช้ในวันลุกขึ้นสู้ ณ เซินเตย นายเจิ่นห่งแอง นักศึกษามหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศที่เว้ได้กล่าวว่า “ ผมรู้สึกศรัทธาต่อสงครามต่อต้านศัตรูผู้รุกรานที่ยาวนานและเต็มไปด้วยความยยากลำบากของชาติ แม้กองทัพและประชาชนเวียดนามในสมัยนั้นจะมีอาวุธที่ธรรมดาแต่ก็สามารถรบชนะฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกาได้ บรรพบุรุษต้องเสียเลือดเนื้อเพื่อเอกราชของประเทศ ”
|
ประธานโฮจิมินห์อ่านปฏิญญาเอกราช
|
จุดที่โดดเด่นของห้องคือที่วางแสดงรูปปั้นของประธานโฮจิมินห์ที่กำลังอ่านปฏิญญาเอกราชข้างหลังคือรูปจำลองอัฒจรรย์ ณ จตุรัส บาดิ่งในวันที่ ๒ กันยายน ๑๙๔๕ แห่งประวัติศาสตร์ ณ ที่นี่ ผู้เข้าชมจะได้ชมภาพยนตร์เกี่ยวกับพิธีประกาศเอกราชอันศักดิ์ของประชาชาติเวียดนาม คุณ อีซาเบธ นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียที่มาเยี่ยมชมห้องจัดวางแสดงที่ ๙ ของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์กล่าวว่า “ นับเป็นครั้งแรกที่ดิฉันมาที่นี่และได้ศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเวียดนามจึงได้เข้าใจความพยายามของชาวเวียดนามในการต่อสู้เพื่อปกป้องประเทศ กอบกู้เอกราชและเสรีภาพให้กลับคืนมา โดยเฉพาะภายใต้การบัญชาที่ปรีชาสามารถของประธานโฮจิมินห์ เวียดนามจึงสามารถกอบกู้เอกราชกลับคืนมาจากการถูกปกครองเยี่ยงทาสได้ ”
ฤดูไม้ผลัดใบปีนี้ สิ่งของวัตถุที่จัดแสดง ที่นี่ได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการปฏิวัติ ๖๗ ปี ของเวียดนามในเดือนสิงหาคมที่ได้รับชัยชนะอย่างมหัศจรรย์ ซึ่งแสดงให้เห็นพลังชีวิตที่หาญกล้า จิตใจและความคาดหวังในสันติภาพของชาวเวียดนามตลอดกาลนาน สิ่งของวัตถุเหล่านี้ยังทำหน้าที่เล่าเรื่องประวัติศาสตร์ให้ชนรุ่นหลังและชาวต่างประเทศต่อไปว่า บรรพบุรุษของเวียดนามได้โค่นล้มระบอบการปกครองของนักล่าเมืองขึ้นและฟาสซิสต์ นำประชาชาติเวียดนามหลุดพ้นจากความเป็นทาสเพื่อเป็นผู้กำหนดชะตากรรมด้วยตนเอง ./.