นายโห่กวางกัวได้เผยว่า ได้เริ่มทำการวิจัยพันธุ์ข้าว ST25 เมื่อปี 1991 โดยเขาและเพื่อนร่วมงานมีความตั้งใจในการฟื้นฟูพันธุ์ข้าวคุณภาพดีที่มีชื่อเสียงของจังหวัดซอกจัง“กว่าที่จะได้พันธุ์ข้าวST25 ซึ่งเป็นข้าวที่อร่อยที่สุดในโลก เราต้องใช้เวลาในการศึกษาวิจัยนานถึง 25ปี โดยในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 จังหวัดซอกจังได้ส่งออกข้าวพันธุ์ดีไปยังยุโรป แต่หลังจากนั้น ก็ค่อยๆลดลง ซึ่งเรามีความปรารถนาว่า จะฟื้นฟูพันธุ์ข้าวคุณภาพดีที่มีชื่อเสียงของจังหวัดซอกจัง”
ความพยายามและการทุ่มเทแรงกายแรงใจในการวิจัยและคิดค้นพันธุ์ข้าว ST ของวิศวกรการเกษตรโห่กวางกัวและทีมงานในตลอดกว่า 25 ปีที่ผ่านมาก็ประสบความสำเร็จ โดยในช่วงปี 2017ถึงปี 2019 พันธุ์ข้าว ST ได้ติด 1ใน 3 พันธุ์ข้าวที่อร่อยที่สุดในโลก และในปี 2019ก็ได้รับรางวัลที่ 1 ในการประกวด World’s Best Rice ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่พันธุ์ข้าวที่มีอายุวันเก็บเกี่ยวสั้นและให้ผลผลิตสูงของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับรางวัลดังกล่าว วิศวกรการเกษตรโห่กวางกัวเผยว่า"พวกเราได้พยายามปรับปรุงพันธุ์ข้าวผ่านการเรียนรู้ประสบการณ์ของเขตปลูกข้าวต่างๆ เมื่อปี 2017 โครงการนี้ได้ประสบผลที่น่ายินดี ซึ่งเป็นครั้งแรกที่พันธุ์ข้าวที่มีอายุวันเก็บเกี่ยวสั้นและให้ผลผลิตสูงของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ติด 1 ใน 3 พันธุ์ข้าวที่อร่อยที่สุดในโลก สำหรับพันธุ์ข้าวที่ได้รับรางวัลดังกล่าวก่อนหน้านั้นล้วนเป็นพันธุ์ข้าวอายุวันเก็บเกี่ยวค่อนข้างนาน ให้ผลผลิตต่ำและมีมูลค่าไม่สูงนัก"
พันธุ์ข้าว ST25 มีเมล็ดยาว สีขาวใส และมีกลิ่นหอม การดูดซึมน้ำเข้าสู่เมล็ดข้าวอยู่ในระดับต่ำ คุณโห่กวางกัวเผยว่า รู้สึกประทับใจต่อการที่ผู้บริโภคเวียดนามหันมาให้ความสนใจพันธุ์ข้าว ST25 ที่ได้รับรางวัลที่ 1 ในการประกวด World’s Best Rice ประจำปี 2019 ซึ่งสามารถเอาชนะข้าวจากกัมพูชาและไทย โดยทุกคนชื่นชอบและต้องการหาซื้อมาลองทาน"สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า คนเวียดนามมีความภาคภูมิใจในประชาชาติ มีความรับผิดชอบและให้ความสนใจผลิตภัณฑ์ของเวียดนาม เมื่อก่อนนี้ คนเวียดนามชอบกินข้าวจากกัมพูชาและไทยเพราะข้าวเวียดนามไม่เคยได้รับรางวัลใดๆจึงทำให้ไม่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค"
นอกจากนี้ วิศวกรการเกษตรโห่กวางกัวยังพยายามแสวงหามาตรการอนุรักษ์และพัฒนาพันธุ์ข้าวคุณภาพดีเพื่อสืบทอดให้แก่คนรุ่นหลัง ซึ่งก็ได้รับความสนใจและการชี้นำจากหน่วยงานภาครัฐและรัฐบาล แต่ถึงกระนั้นก็ต้องการการเข้าร่วมของประชาชนทุกภาคส่วน โดยเฉพาะความร่วมมือและการเชื่อมโยงระหว่างเกษตรกร ภาครัฐ นักวิทยาศาสตร์และสถานประกอบการมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง วิศวกรการเกษตรโห่กวางกัวให้ข้อสังเกตว่า"ในฐานะเป็นนักวิทยาศาสตร์ พวกเราพยายามอนุรักษ์พันธุกรรมข้าวเพื่อสืบทอดให้แก่คนรุ่นหลัง ซึ่งต้องการการเข้าร่วมและความช่วยเหลือจากสังคมเพื่อสร้างสรรค์และพัฒนาเครื่องหมายการค้าข้าวเวียดนาม"
ทั้งนี้และทั้งนั้นแสดงให้เห็นว่า ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจและผลการวิจัยต่างๆ วิศวกรการเกษตรโห่กวางกัวและทีมงานจะอนุรักษ์พันธุ์ข้าว ST25 ทำการวิจัยและคิดค้นพันธุ์ข้าวใหม่ๆเพื่อยืนยันถึงชื่อเสียงของผลิตภัณฑ์เกษตรและข้าวเวียดนามในตลาดโลก.