“ธุรกิจสตาร์ทอัพกับเส้นทางการผสมผสาน”

Bui Hang/VOV5
Chia sẻ
(VOVworld)-เพื่อปฏิบัติเป้าหมายแห่งการผสมผสานนั้น ชมรมผู้ประกอบการมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ซึ่งเราจะมาศึกษาดูว่าพวกเขามีความคิดและปฏิบัติกันอย่างไรบ้างผ่านบทความของนักข่าวบุ่ยหั่งที่พาดหัวว่า “ธุรกิจสตาร์ทอัพกับเส้นทางการผสมผสาน”

(VOVworld)-เพื่อปฏิบัติเป้าหมายแห่งการผสมผสานนั้น ชมรมผู้ประกอบการมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ซึ่งเราจะมาศึกษาดูว่าพวกเขามีความคิดและปฏิบัติกันอย่างไรบ้างผ่านบทความของนักข่าวบุ่ยหั่งที่พาดหัวว่า “ธุรกิจสตาร์ทอัพกับเส้นทางการผสมผสาน”

ภายในเวลาเพียง 2 ปี ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า อาซานโซ ก็สามารถครองส่วนแบ่งตลาดภายในประเทศและเจาะตลาดโลก นายฝามวันตาม นักธุรกิจรุ่นใหม่เจ้าของแบรนด์ อาซานโซ ได้พยายามพิสูจน์ให้เห็นว่าความใฝ่ฝันในการสร้างชื่อเสียงให้แก่ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าสัญชาติเวียดนามกำลังกลายเป็นความจริง หลังจากเมื่อปี 2014 เครื่องรับโทรทัศน์ยี่ห้อ อาซานโซ สามารถจำหน่ายได้กว่า 1 แสนเครื่องภายหลังการก่อตั้งเพียง 1 ปี ถึงปี 2016 ยอดจำหน่ายได้เพิ่มขึ้นเป็น 5 แสนเครื่องโดยสามารถแข่งขันกับเครื่องหมายการค้าระดับโลก และเขาก็ไม่หยุดอยู่เพียงแค่นี้หากยังคงพยายามยืนยันชื่อเสียงของผลิตภัณฑ์ made in vietnam ในตลาดโลกผ่านการส่งออกไปยังคิวบา ลาวและกัมพูชา โดยกำลังซื้อของตลาดเหล่านี้นับวันเพิ่มมากขึ้นและจะกลายเป็นตลาดรองรับขนาดใหญ่หลังจากที่บริษัท อาซานโซ ก่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าแห่งที่สองในปี 2017 นาย ฝามวันตาม เผยว่า
ได้มีบริษัทของเกาหลีติดต่อหารือกับเราเกี่ยวกับการขอเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งผมก็คุยกับเขาว่าไม่เน้นเรื่องรายรับ หากต้องรักษาเครื่องหมายการค้าของอาซานโซในตลาดของประเทศเขา ซึ่งเราอยากปรับเปลี่ยนความคิดของผู้บริโภคต่างประเทศว่าเวียดนามก็มีสินค้าหลายอย่างที่เป็นจุดแข็งมิใช่ว่าเมื่อพูดถึงสินค้าเวียดนามก็คิดถึงแต่สินค้าเกษตร สิ่งทอหรือสัตว์น้ำเพียงอย่างเดียว

“ธุรกิจสตาร์ทอัพกับเส้นทางการผสมผสาน” - ảnh 1

“ธุรกิจสตาร์ทอัพกับเส้นทางการผสมผสาน” - ảnh 2

สำหรับชมรมผู้ประกอบการในประเทศ นายเหงวียนต๊วนกวิ่ง ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่เป็นที่รู้จักกันดี เพราะเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารของกลุ่มบริษัทใหญ่ต่าง ๆ และสามารถสร้างผลงานที่สำคัญๆ เช่น บริษัทไซ่ง่อนเปโตร บริษัทไซ่ง่อนกาส บริษัทจิวเวลรี่ พีเอ็นจี เป็นต้น ซึ่งหลังจากได้ประสบความสำเร็จและสามารถสร้างชื่อเสียงให้แก่ตนเอง นายเหงวียนต๊วนกวิ่ง ได้เริ่มทดลองความสามารถกับธุรกิจสตาร์ทอัพตอนอายุ 44 ปี โดยเป็นผู้จัดการบริษัทหุ้นส่วนหนังสือ อัลฟาบุ๊ค เมื่อกล่าวถึงเรื่องธุรกิจสตาร์ทอัพและการผสมผสานของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ นาย เหงวียนต๊วนกวิ่ง ได้เผยว่าการผสมผสานและนำเครื่องหมายการค้าเวียดนามสู่ตลาดโลกนั้นมิใช่เพียงกระชับการส่งออกสินค้าเวียดนามเท่านั้นหากต้องสร้างความเชื่อมโยงระหว่างเครื่องหมายการค้าของเวียดนามกับห่วงโซ่มูลค่าโลก ผู้ประกอบการเวียดนามต้องเป็นส่วนหนึ่งในห่วงโซ่นั้น ซึ่งหมายความว่าไม่จำเป็นต้องมีสินค้าส่งออก แต่คุณอาจจะเป็นผู้ผลิตสินค้าหรือการบริการต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนบริษัทใหญ่ที่ส่งออกสินค้าหรือการบริการนั้น ๆ ในต่างประเทศ

ปัจจุบัน ยังมีเครื่องหมายการค้าของเวียดนามไม่มากนักที่สามารถครองส่วนแบ่งที่มั่นคงในตลาดโลก โดยการสร้างเครื่องหมายการค้ายังอยู่ในระยะเตรียมพร้อมและต้องการการลงทุนมากกว่านี้ ซึ่งผู้ประกอบการรุ่นใหม่ต้องพยายามประกอบธุรกิจให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืนตั้งแต่เริ่มต้นเพื่อสร้างพื้นฐานให้แก่การพัฒนาในอนาคต.

คำติชม