ดร.เหงวียนหญะทุ่มเลตลอดชีวิต เพื่อศึกษาเกี่ยวกับทะเลและเกาะแก่ง

Huong Ly-Bui Hang
Chia sẻ

( VOVworld )- มีอาจารย์ท่านหนึ่งได้ทุ่มเทแรงกายและสติปัญญาของตนเพื่อศึกษาประวัติศาสตร์ของหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซลและเจื่องซาหรือสเปรตลีย์ของประเทศมาตลอด ๔๐ ปี  ทั้งนี้ได้มีส่วนร่วมสำคัญในการต่อสู้เพื่อปกป้องอธิปไตยของเวียดนามเหนือหมู่เกาะสองแห่งดังกล่าว อาจารย์ท่านนี้คือ เหงวียนหญะ ดร.ประวัติศาตร์ค่ะ



 ( VOVworld )- มีอาจารย์ท่านหนึ่งได้ทุ่มเทแรงกายและสติปัญญาของตนเพื่อศึกษาประวัติศาสตร์ของหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซลและเจื่องซาหรือสเปรตลีย์ของประเทศมาตลอด ๔๐ ปี  ทั้งนี้ได้มีส่วนร่วมสำคัญในการต่อสู้เพื่อปกป้องอธิปไตยของเวียดนามเหนือหมู่เกาะสองแห่งดังกล่าว อาจารย์ท่านนี้คือ เหงวียนหญะ ดร.ประวัติศาตร์ค่ะ

ดร.เหงวียนหญะทุ่มเลตลอดชีวิต  เพื่อศึกษาเกี่ยวกับทะเลและเกาะแก่ง - ảnh 1


แม้อายุจะมากแล้วและงานล้นมือ แต่เมื่อกล่าวถึงหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซลและเจื่องซาหรือสเปรตลีย์ ดร.เหงวียนหญะยังคงคุยกับพวกเราจนลืมเวลา ท่านเล่าว่า เมื่อเดือนมกราคมค.ศ.๑๙๗๔ จีนได้เปิดการโจมตีและยึดหมู่เกาะหว่างซาของเวียดนาม ซึ่งขณะนั้นท่านเป็นหัวหน้าโครงการเรียบเรียงหนึงสือชุดประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ของมหาวิทยาลัยคุรุศาสตร์ไซ่ง่อน ซึ่งเป็นวารสารวิชาการที่มีชื่อเสียงสมัยนั้น  ในฐานะหัวหน้าโครงการและเป็นพลเมืองคนหนึ่งของประเทศ ท่านได้ให้ตีพิมพ์วารสารเกี่ยวกับหว่างซาหรือพาราเซลเพื่อศึกษาหาความจริงและเปิดเผยความจริงสู่สาธารณชน  หนึ่งปีให้หลังในโอกาสรำลึกเหตุการหว่างซาถูกจีนยึดครอง  ท่านได้จัดงานนิทรรศการเกี่ยวกับหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซลและเจื่องซาหรือสเปรตลีย์โดยได้จัดแสดงเอกสารข้อมูลและภาพถ่ายจำนวนมากที่ยืนยันอธิปไตยของเวียดนามเหนือหมู่เกาะสองแห่งนี้

ตั้งแต่ปีค.ศ.๑๙๗๕มาจนถึงปัจจุบัน ดร.เหงวียนหญะยังคงศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซล โดยได้เดินทางไปยังหลายพื้นที่เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับหมู่เกาะหว่างซาที่ยังหลงเหลืออยู่เช่นจังหวัดกว่างหงาย กว่างนาม แค้งหว่าและเกียนยาง ตลอดจนเกาะหลีเซินและเกาะกู่ลาวแร้ที่แสนไกลเพื่อหาหลักฐานยืนยันว่าหมู่เกาะหว่างซาเป็นของเวียดนาม ซึ่งการทุ่มเทและความอดทนของท่านได้รับการชื่นชมและเคารพจากเพื่อนๆและวงการนักวิจัย  นายเหงวียนจ่องซ้วต เลขาธิการคณะกรรมการเรียบเรียงและร่างโครงการ” ประวัติศาสตร์การต่อต้านศัตรูผู้รุกรานที่ภาคใต้ ” เปิดเผยว่า “ การวิจัยนี้น่าสนใจเพราะเป็นการวิจัยเพื่อยืนยันอธิปไตยของประเทศเหนือทะเลและเกาะแก่ง  สภาสังคมศาสตร์นครได้ให้ความสนใจและเชิญดร.หญะเข้าร่วมโครงการวิจัยหลายโครงการ  ผมเคารพวิธีการวิจัยและการทุ่มเทต่อการวิจัยของเขา ซึ่งแสดงให้เห็นความหลงไหลและจิตใจแห่งความมุ่งมั่นของอาจารย์หญะในโครงการวิจัยที่ลำบากนี้ และดร.เหงวียนหญะสามารถทำได้ดี

ดร.เหงวียนหญะได้รวบรวมผลงานวิจัยทุกชิ้นเป็นวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกในหัวข้อ “ กระบวนการยืนหยัดอธิปไตยของเวียดนามเหนือหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซลและเจื่องซาหรือสเปรตลีย์ ” ซึ่งได้รับการชื่นชมจากสภาวิทยาศาสตร์ เพราะโครงการวิจัยมีลักษณะทันเหตุการณ์และมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เพื่อปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศ  ศาสตราจารย์ประวัติศาสตร์ฟานฮุยเล ประธานสภาประวัติศาสตร์เวียดนามเห็นว่า “ นักประวัติศาสตร์และนักวิชาการถือการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับหว่างซาหรือพาราเซลเป็นหน้าที่ของตนต่อประเทศ  พวกเขาได้ทำโครงการวิจัยหลายโครงการ แต่ผลงานที่โดดเด่นคือวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับหว่างซาและเจื่องซาของดร.เหงวียนหญะ

ตลอดระยะเวลาทุ่มเทให้แก่การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับอธิปไตยของประเทศเหนือหมู่เกะหว่างซาและเจื่องซา ดร.เหงวียนหญะถือดินแดนแห่งนี้เป็นเลือดเนื้อของตน  ท่านมีความประสงค์เผยแพร่โครงการวิจัยนี้สู่สายตาคนเวียดนามและประชาชนประเทศต่างๆโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่เพื่อเพิ่มความรู้และยกระดับจิตสำนึกให้พวกเขาในการปกป้องอธิปไตยเขตแดนของประเทศ ดร.เหงวียนหญะเปิดเผย  “ ผมได้โพสต์โครงการนี้บนเว็บไซต์hannguyennguyennha.com เพื่อให้ทุกคนรวมถึงหอสมุดที่มีวิชาเอเชียศึกษาหรือสาขาเอเชียศึกษาสามารถค้นหาข้อมูลที่ถูกต้อง  ผมคิดว่า ณ เวลานี้ หว่างซาเป็นการปลุกเร้าความรักชาติให้แก่ทุกคนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่เพื่อปกป้องและสร้างสรรค์ประเทศ

ดร.เหงวียนหญะไม่เพียงแต่เดินหน้าในการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับหว่างซาหรือพาราเซลและเจื่องซาหรือสเปรตลีย์เท่านั้น หากยังริเริ่มขบวนการวิชาการเพื่อทะเลตะวันออก  ท่านกำลังเข้าร่วมการปรับปรุงเอกสาร ๕๐๐หน้ากระดาษเกี่ยวกับอำนาจอธิปไตยของเวียดนามเหนือหว่างซาและเจื่องซาเพื่อส่งไปยังโรงเรียนต่างๆและมอบหนังสือ “ หลักฐานเกี่ยวกับอำนาจอธิปไตยของเวียดนามเหนือหมู่เกาะหว่างซาและเจื่องซา ”ให้แก่หอสมุดภายในประเทศและต่างประเทศ  รศ.ดร.ฟานแทงบิ่นห์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งชาตินครโฮจิมินห์กล่าวถึงดร.เหงวียนหญะว่า  “ ปัญหาใหญ่สุดทางด้านวิชาการคือการเรียบเรียงให้เป็นระบบและพัฒนามันให้มีคุณค่า  อาจกล่าวได้ว่า ดร.เหงวียนหญะได้ทำงานอย่างไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย ด้วยใจรักและมีความซื่อสัตย์ ซึ่งถือเป็นนักรักชาติเวียดนามท่านหนึ่ง

เอกสารที่มีค่าจากการค้นหาและศึกษาวิจัยของดร.เหงวียนหญะเป็นการทุ่มเทมากว่า ๔๐ ปีของท่านเพื่อหาความจริงและยืนยันว่า หว่างซาและเจื่องซาเป็นของเวียดนาม ซึ่งเป็นความรักชาติของกุลบุตรของประเทศเวียดนามท่านหนึ่งคือ ดร.เหงวียนหญะ ./.

 


คำติชม