มัสยิด 104 ในตำบลเฟือกนาม |
ศาสนาอิสลามได้รับการเผยแผ่ในเวียดนามเมื่อศตวรรษที่ 19 โดยมี ศาสนาอิสลามบานีและศาสนาอิสลามปัจจุบัน เวียดนามมีผู้นับถือศาสนาอิสลามประมาณ 2 หมื่น 5 พันคน โดยส่วนใหญ่อาศัยในจังหวัดต่างๆทางภาคใต้ ชาวมุสลิมศรัทธาในพระอัลเลาะห์ ละหมาดวันละ 5 ครั้งและเข้าร่วมพิธีละหมาดที่มัสยิดในทุกๆวันศุกร์
นาง ต่ายถิมี อาศัยที่หมู่บ้านวันเลิม 4 ตำบลเฟือกนาม จังหวัดนิงถวน ได้เผยว่า“ดิฉันไปละหมาดที่มัสยิดเพื่อขอพรให้สมาชิกในครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรง อยู่ดีกินดี ขอให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล ส่วนในเดือนรอมฎอน จะอดอาหารตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตก”
จังหวัดนิงถวนมีผู้นับถือศาสนาอิสลามประมาณ 3 พันคน มีมัสยิด 4 แห่ง โดย 2 แห่งตั้งอยู่ที่ตำบลเฟือกนาม ทางการตำบลเฟือกนาม ได้อำนวยความสะดวกให้แก่การประกอบศาสนกิจของชาวบ้าน นาย ฟู้วันเดี๋ยบ รองประธานคณะกรรมการประชาชนตำบลเฟือกนาม ได้เผยว่า“ที่ตำบลเฟือกนามมี 4 ศาสนาได้แก่ศาสนาพุทธ ศาสนาพราหมณ์ ศาสนาอิสลามบานีและศาสนาอิสลาม โดยรองประธานสภาประชาชนตำบลฯเป็นผู้นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งผู้นับถือศาสนาประกอบศาสนกิจอย่างเท่าเทียมกันและสามัคคีกัน ส่วนสำหรับมัสยิดก็ได้รับการก่อสร้างให้มั่นคงสวยงามและมีการจัดกิจกรรมการกุศลและช่วยเหลือผู้ที่มีฐานะยากจนในท้องถิ่น”
เมื่อเดือนมีนาคมปี 2011 ที่มัสยิด 104 ในตำบลเฟือกนาม ได้มีการจัดพิธีเปิดตัวรักษาการคณะกรรมการดูแลชมรมชาวมุสลิมจังหวัดนิงถวน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มีความหมายพิเศษต่อผู้นับถือศาสนาอิสลาม นาย โจว์วันเหงะ คณะกรรมการกลางอิสลามมัสยิด 101 ในตำบลเฟือกนามที่เรียกว่า “ฮาคิม”และรองหัวหน้ารักษาการคณะกรรมการดูแลชมรมชาวมุสลิมจังหวัดนิงถวนได้เผยว่า“เมื่อปี 1960 ชาวอินเดียได้เข้ามาเผยแผ่ศาสนาอิสลาม โดยมัสยิด 101 คือมัสยิดแห่งแรกในจังหวัดนิงถวน ชาวมุสลิมในมัสยิด 101 และมัสยิด 104 มีความสามัคคีกันและช่วยเหลือจุนเจือกันเสมอ ซึ่งทาง“ฮาคิม”จะสอดแทรกการประชาสัมพันธ์แนวทางของรัฐและแนวร่วมปิตุภูมิ เผยแพร่กฎหมายศาสนาและสิทธิเสรีภาพด้านความเชื่อและการนับถือศาสนาในพิธีละหมาด ทางการปกครองท้องถิ่นให้ความสนใจและอำนวยความสะดวกให้แก่เรา โดยอนุญาตให้คนต่างถิ่นและชาวต่างชาติสามารถเข้าไปละหมาดที่มัสยิดได้”
ชาวบ้านตำบลเฟือกนาม |
ชาวมุสลิมในตำบลเฟือกนามส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม โดยอัตราครอบครัวยากจนอยู่ที่ร้อยละ 2 คณะกรรมการดูแลชมรมชาวมุสลิมจังหวัดนิงถวนได้แนะนำให้ทาง“ฮาคิม”จัดกิจกรรมศาสนาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ผู้ที่มีสมณศักดิ์ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านแข่งขันทำงาน พัฒนาธุรกิจครัวเรือนและเข้าร่วมขบวนการแข่งขันรักชาติอย่างเข้มแข็ง นาย บ๋าวด่ายติ๋ง หัวหน้าคณะกรรมการฮาคิมมัสยิด 104 ได้เผยว่า“ที่นี่มี 93 ครอบครัว รวม 334 คน โดยมีครอบครัวยากจน 5 ครอบครัว ซึ่งได้รับการช่วยเหลือจากรัฐแล้ว ส่วนในเทศกาลที่สำคัญของชาวจาม ผู้นำส่วนกลางและท้องถิ่นจะมาแสดงความยินดีและมอบของขวัญให้แก่ชาวบ้าน”
ชนเผ่าจามที่นับถือศาสนาอิสลามในตำบลเฟือกนาม อำเภอถวนนาม จังหวัดนิงถวนมีความขยันหมั่นเพียรและเป็นมิตร ปฏิบัติตามแนวทาง นโยบายและกฎหมายของรัฐเป็นอย่างดี เดินพร้อมกับประชาชาติในการสร้างสรรค์บ้านเกิดให้สงบสุขและมีความอิ่มหนำผาสุก.