ค่ายฤดูร้อน คาดหว่อง “Khát vọng” หรือ “ความหวัง” ได้จัดขึ้นในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมปีนี้ ณ กรุงฮานอย ภายใต้หัวข้อ “ความหวังเพื่อการพัฒนาที่ก้าวไกล” ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสุข ความอบอุ่น และความรักใคร่ ให้แก่เด็กกำพร้าและเด็กที่มีฐานะยากจนราว 250 คนจากกลุ่มเด็กๆ สมาชิกกว่า 400 คนของครอบครัว “ความหวัง” โดยทุกคนได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่มีความหมาย เช่น ทอล์คโชว์ “การป้องกันตัวเองในโลกออนไลน์” “เส้นทางแห่งการเติบโต” เทศกาลสักการะบูชาบรรพกษัตริย์หุ่งในจังหวัดฟู้เถาะ กิจกรรมการละเล่น และแบ่งปันความฝันของตน เช่น ความฝันอยากเป็นคุณครู เป็นเจ้าของอู่รถ เป็นเจ้าของกิจการเพื่อสร้างงานทำให้คนอื่นๆ ซึ่งเด็กๆ อยู่ด้วยกันอย่างใกล้ชิด
“ผมได้รับเข้าครอบครัว ความหวัง ตั้งแต่ปี 2016 และถึงปีนี้ก็เป็นปีที่ 8 แล้ว ที่นี่เปรียบเสมือนครอบครัวที่แท้จริง ช่วยทำให้ผมเปลี่ยนจากเด็กที่ขี้อาย กลายเป็นคนที่รู้จักรักผู้อื่นมากขึ้น กล้าเปิดใจกับคนอื่น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างนั้น ก็ได้มาจากความช่วยเหลือและความรักใคร่ที่ทุ่มเททั้งชีวิตของคุณแม่ยูง ผมคิดว่าหลังจากที่เรียนจบแล้ว จะทำงานเป็นครู เพราะมันเป็นความฝันตั้งแต่เด็กของผมและเพื่อกลับมาบ้านหลังนี้ ช่วยสอนเด็กๆ ชาวเขาและเด็กๆ ที่ยังไม่ได้เรียนหนังสือ คุณแม่ยูง เป็นผู้ที่ให้ความรักอันยิ่งใหญ่ คอยปกป้องดูแลลูกๆ ทำทุกอย่างเพื่อลูก พยายามมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกๆ ในครอบครัว ความหวัง”
คุนแม่ หวูถิยูง กับเด็กๆ ในครอบครัว “ความหวัง” |
กองทุน ความหวัง ก่อตั้งโดยคุนแม่ หวูถิยูง เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2012 ซึ่งค่ายฤดูร้อน “ความหวัง” มีขึ้นเป็นประจำทุกปีเพื่อเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้รับการศึกษาเกี่ยวกับทักษะและความรู้รอบตัว รวมถึงส่งพลังใจในการฝ่าฟันความยากลำบากและแบ่งปันความรักให้ทั่วถึง เมื่อได้เข้าร่วมบ้านหลังนี้ เด็กๆ จะได้รับการสนับสนุนเงินค่าเล่าเรียนทุกเดือน และได้รับการเยี่ยมเยือนและให้กำลังใจอย่างสม่ำเสมอ พร้อมของขวัญในช่วงตรุษเต๊ดหรืองานเทศกาลต่างๆ และหนังสือในช่วงเปิดเทอม ซึ่วภายหลังเส้นทางแห่งความหวังเป็นเวลา 11 ปี กับเด็กๆ ที่กองทุนฯ และคุณแม่ยูงได้อุปถัมภ์เด็กกว่า 400 คน ปัจจุบัน มีเด็กๆ ที่สำเร็จการศึกษามัธยมตอนปลายและเรียนต่อในมหาวิทยาลัย วิทยาลัย หรือหลักสูตรอาชีวศึกษา รวมถึงเด็กที่ออกไปทำงาน ราว 200 คน นาง หวูถิยูง เผยว่า
“มีเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นในครอบครัวบ้านหลัง คาดหว่อง แห่งนี้ ซึ่งแต่ละคนถือเป็นปาฏิหาริย์ในชีวิต โดยแต่ละเรื่องสร้างทั้งความสะเทือนใจและกำลังใจให้ตัวฉันมีความหวังมากขึ้นในเส้นทางที่ตัวเองได้เลือกไว้ ทุกอย่างที่ได้ลงมือทำเป็นการร่วมแรงร่วมใจของทั้งชุมชนเพื่อช่วยให้เด็กๆ รู้จักการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า มีชีวิตที่ดี และสร้างประโยชน์สู่สังคม ทุกอย่างที่บ้าน คาดหว่อง ได้ก้าวผ่าน พวกเราจะเดินบนเส้นทางนั้นต่อไปเพื่อสร้างพลเมืองที่ดีและเอื้อประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ”
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผู้สนับสนุนและผู้มีใจกุศลที่อยู่เคียงข้างค่ายฤดูร้อน คาดหว่อง นาง ดั่งแทงเติม ผู้สนับสนุนให้แก่กองทุน ความหวัง เผยว่า
“หลังจากให้การสนับสนุนมาเป็นเวลา 2 ปี ฉันรู้สึกชอบองค์กรนี้มากเพราะสามารถสร้างคุณค่ามากมายให้กับสังคม โดยเฉพาะให้แก่เด็กๆ ที่ยากจนและเด็กกำพร้าที่มีใจสู้ ฉันเลยตัดสินใจเดินคู่กับครอบครัวนี้ ฉันกับคุณแม่ยูง ได้เดินทางไปหลายจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อไปหาเด็กๆ ที่ทุกคนแนะนำให้ทราบ โดยมีเด็กหลายคนที่เข้าร่วมบ้านคาดหว่องต้องมีความพยายามอย่างมาก คาดหว่อง ถือเป็นบ้านหลังที่สองที่ให้โอกาสเด็กๆ มีการพัฒนาที่ก้าวไกล พร้อมได้รับรางวัลทุนการศึกษาที่ดีจากโรงเรียนนานาชาติ เช่น มหาวิทยาลัย Fullbright มหาวิทยาลัย British University Vietnam และอื่นๆ อีกมากมาย ”
ค่ายฤดูร้อน “ความหวัง” – ศูนย์รวมเด็กยากไร้ด้อยโอกาสด้วยความหวังเพื่อการพัฒนาที่ก้าวไกล |
เพื่อมอบความรักใคร่และความเชื่อมั่นให้แก่เด็กๆ ผ่านบทเรียนชีวิตต่างๆ นาง เยืองตื๋อกวิ่ง ผู้จัดการบริษัท Duong Gia Media เผยว่า
“ความรู้สึกร่วมกัน นั่นคือ ความรักใคร่และความหวังดี เด็กๆ ตั้งแต่ป.5 จนถึงอายุ 18 ปี จากพื้นที่จังหวัดและเมืองกว่า 30 แห่งทั่วประเทศ ได้รวมตัวกันที่นี่ รักกันเหมือนพี่น้องที่แท้จริงในครอบครัว ทุกคนได้อยู่ในอ้อมกอดของครอบครัว คาดหว่อง เพื่อจุดประกายความปรารถนาดี ได้เห็นการเติบโตของตัวเองในทุกๆ วัน โดยเฉพาะความอบอุ่น มีพี่ที่อาสาดูแลน้องๆ โทรหาเพื่อช่วยสอนน้องๆ ทุกวันสุดสัปดาห์ จนกว่าที่จะได้เจอกันต่อหน้าต่อตา นั่นเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”
ด้วยหัวข้อ “ความหวังเพื่อการพัฒนาที่ก้าวไกล” นั้น นอกเหนือจากการที่ได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเอง ค่ายฤดูร้อน คาดหว่อง ยังได้ส่งเสริมคุณค่าทางมนุษยธรรม โดยแต่ละกิจกรรมถือเป็นงานเทศกาลแห่งความสุขที่เด็กๆ ทุกคนได้กลับมาหากัน แบ่งปันความรักใคร่ และสร้างพลังใจซึ่งกันและกัน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับปีการศึกษาใหม่.