การพบปะสังสรรค์กับอดีตทหารผ่านศึกที่เคยเข้าร่วมยุทธนาการโฮจิมินห์ |
50 ปีได้พ้นไปแต่ความทรงจำเกี่ยวกับการต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่สะพานเตินแก๋งหรือสะพานไซ่ง่อนในปัจจุบันยังคงอยู่ในความทรงจำของอดีตทหารผ่านศึก นาย ดิ่งหยางเฮี้ยว รองหัวหน้าสโมสรนักรบกู้ชาติเมืองถูดึ๊ก นครโฮจิมินห์เผยว่า ในตอนนั้น กองพันที่ 4 ของเขาได้รับมอบหมายหน้าที่ปกป้องสะพานเตินก๋าง โดยได้ทำการต่อสู้กับศัตรูตั้งแต่ตี 3 ถึง 8 โมงเช้าของวันที่ 28 เมษายน ศัตรูได้ระดมกำลังต่างๆและใช้เฮลิคอปเตอร์ทำการโจมตีใส่หน่วยปืนใหญ่ของเราที่แถ่งตวีหะ-ก๊าดล้าย
“หน่วยทหารของเราได้รับคำสั่งให้ทำการโจมตีสกัดศัตรู เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 27 เมษายน เราเคลื่อนทัพไปยังวัดกี่กวางและตั้งใจทำการต่อสู้อย่างสุดความสามารถ”
ในวันสุดท้ายของยุทธนาการโฮจิมินห์ จากการโจมตีและลุกขึ้นสู้อย่างรวดเร็วของกองกำลังปลดปล่อย เมื่อค่ำวันที่ 28 เมษายน กองบัญชาการยุทธนาการสั่งให้หน่วยทหารต่างๆทำการโจมตีใส่ไซ่ง่อนอย่างพร้อมเพรียมกัน จากการปฏิบัติคำสั่งนี้ กองทัพน้อยที่ 3 ของหน่วยทหารเตยเงวียนมีหน้าที่ทำการโจมตีใส่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือไซ่ง่อน โดยมีเป้าหมายหลักคือทำลายการป้องกันของศัตรูที่ฐานทัพด่งหยู่ อำเภอกู๋จี นาย เจิ่นมิงชิ้ง อดีตทหารผ่านศึกนครโฮจิมินห์ได้เผยว่า
“ในตอนนั้น ผมเป็นนักศึกษาปีที่ 1 ของมหาวิทยาลัยโปลิเทคนิคและเกณฑ์ทหารเมื่อวันที่ 26 สิงหาคมปี 1970 กองพลที่ 320 ของผมได้ทำการต่อสู้ที่สมรภูมิกว๋างจิ จากสมรภูมิเตยเงียนเคลื่อนทัพเพื่อเปิดการโจมตีที่บวนมาถวดแล้วปลดปล่อยไซ่ง่อน ในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย กองพลที่ 320 ของผมได้ปลดปล่อยด่งหยู่ อำเภอกู๋จี เมื่อวันที่ 29 เมษายน หน่วยทหารส่วนหนึ่งเคลื่อนทัพสู่ไซ่ง่อน ส่วนที่เหลือเตรียมพร้อมอยู่ที่ฐานทัพ”
ในช่วงสงครามที่ดุเดือดนี้ ต้องนึกถึงส่วนร่วมของกองร้อยทหารปืนใหญ่หญิง ( C83) นาง เลถิต๊าย นครถูดึ๊ก ทหารของกองร้อยทหารปืนใหญ่หญิงได้เผยว่า ทหารหญิงทำการต่อสู้ได้ไม่แพ้ผู้ชาย พวกเธอใส่กางเกงขาสั้นเคลื่อนปืนใหญ่ไปยังสนามรบ
“เมื่อเวลา 11.30 น.ของวันที่ 30 เมษายน พวกเราได้เคลื่อนทัพที่อำเภอเมืองก่าเมา ประชาชนมาต้อนรับเป็นจำนวนมาก เราทำการต่อสู้ พร้อมสละชีพเพื่อช่วงชิงเอกราชและเสรีภาพให้แก่ประเทศ ซึ่งพวกเราหวังว่า คนรุ่นใหม่จะพยายามเสริมสร้างและมีส่วนร่วมเพื่อสร้างสรรค์ประเทศนับวันเจริญสวยงามยิ่งขึ้น”
นาง เลถิต๊าย ทหารของกองร้อยทหารปืนใหญ่หญิง |
ท่ามกลางบรรยากาศแห่งการรำลึกครบรอบ 50 ปีการปลดปล่อยภาคใต้ รวมประเทศเป็นเอกภาพ อดีตทหารผ่านศึก ดิงหยางเฮี้ยว รองหัวหน้าสโมสรนักรบกู้ชาติเมืองถูดึ๊ก นครโฮจิมินห์ได้เผยว่า
“ประชาชนจำนวนมากได้สละเลือดเนื้อ พวกเราสำนึกในบุญคุณของคุณแม่วีรชน ความภาคภูมิใจของประชาชนเวียดนาม โดยเฉพาะประชาชนนครโฮจิมินห์ คือประสบชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่ได้รับการรับรองจากโลกและผลงานสร้างสรรค์และพัฒนาเศรษฐกิจในปัจจุบัน”
50 ปีได้ผ่านพ้นไป อดีตทหารผ่านศึกและอดีตเยาวชนเดินหน้าต่างมีความภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมต่อชัยชนะอันรุ่งโรจน์ของประชาชาติและดีใจที่เห็นการเปลี่ยนแปลงใหม่ด้านเศรษฐกิจสังคมของประเทศ โดยเฉพาะของไซ่ง่อนหรือนครโฮจิมินห์ในปัจจุบัน.