ที่ชั้นเรียนขจัดความไม่รู้หนังสือที่บ้านของนาย ฝุ่งวันหลิ่ง ในหมู่บ้านหลุงสับ ตำบลก๊วกตว๋าน อำเภอกว๋างหว่า จังหวัดกาวบั่ง |
ที่ชั้นเรียนขจัดความไม่รู้หนังสือที่บ้านของนาย ฝุ่งวันหลิ่ง ในหมู่บ้านหลุงสับ ตำบลก๊วกตว๋าน อำเภอกว๋างหว่า จังหวัดกาวบั่ง เราจะได้ยินเสียงหัดอ่านหนังสือและเสียงหัวเราะ เนื่องจากฐานะครอบครัวที่ยากจนทำให้นายหลิ่งไม่ได้เรียนหนังสือ แต่ด้วยความใฝ่เรียนรู้ หลังจากทราบข่าวว่าพรรคสาขาและทางการท้องถิ่นกำลังหาสถานที่สำหรับเปิดชั้นเรียนขจัดความไม่รู้หนังสือให้แก่ชาวบ้าน นาย หลิ่ง จึงอาสาเสนอให้ใช้บ้านของตนเป็นชั้นเรียน
“หลังจากทราบข่าวที่ทางการตำบลฯ อำเภอฯและจังหวัดฯสนับสนุนการเปิดชั้นเรียนขจัดความไม่รู้หนังสือ ชาวบ้านทุกคนรู้สึกปลื้มปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง ตอนนี้ ผมสามารถเขียนชื่อของตนเองและคำศัพท์ต่างๆได้แล้ว”
ส่วนนาย หว่างวันมั้ย อายุ 25 ปี ต้องไปทำงานตั้งแต่ยังเล็กและไม่รู้หนังสือ ซึ่งหลังจากมีการเปิดชั้นเรียนขจัดความไม่รู้หนังสือ เขาได้มุ่งมั่นตั้งใจในการเรียนหนังสือ โดยแม้จะต้องไปทำงานไกลบ้าน แต่ก็พยายามมาเรียนตั้งแต่เช้าและเป็นหนึ่งในผู้ที่มีความขยันหมั่นเพียรมากที่สุด นาย หว่างอามั้ย เผยว่า
“ผมรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ทางการท้องถิ่นเปิดชั้นเรียนขจัดความไม่รู้หนังสือให้แก่ชาวบ้าน ซึ่งการรู้หนังสือจะทำให้การสอบใบขับขี่สะดวกสบายขึ้น”
ครอบครัวชนเผ่าม้งที่หมู่บ้านหลุงสับอาศัยกระจัดกระจายบนภูเขา ซึ่งฐานะที่ยากจนและการไม่ติดต่อกับภายนอกทำให้ชาวบ้านถูกกลุ่มผู้ที่ไม่หวังดีชักชวนเข้าร่วมองค์กรที่ผิดกฎหมาย โดยเมื่อปลายปีที่แล้ว ตำรวจอำเภอกว๋างหว่าได้ร่วมกับหน่วยงาน คณะและทางการท้องถิ่นในการเปิดชั้นเรียนขจัดความไม่รู้หนังสือที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ด้านการประชาสัมพันธ์ ให้การศึกษาและการรณรงค์มวลชนเป็นครูสอน พันตำรวจตรี หวูเจิ่นชิ้ง รองหัวหน้าสถานีตำรวจอำเภอกว๋างหว่า จังหวัดกาวบั่งได้เผยว่า
“ทางตำรวจได้ตรวจสอบและประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านเข้าร่วมชั้นเรียนขจัดความไม่รู้หนังสือเพื่อยกระดับความรู้ ไม่เข้าร่วมองค์กรที่ผิดกฎหมายและการทำกิจกรรมความเลื่อมใสที่ล้าหลัง”
ชั้นเรียนขจัดความไม่รู้หนังสือที่หมู่บ้านหลุงสับจัดขึ้นในทุกๆค่ำวันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดี ซึ่งในช่วงแรกได้ประสบความยากลำบากเป็นอย่างมาก แต่การประชาสัมพันธ์และการเข้าร่วมชั้นเรียนอย่างเข้มแข็งของนาย ฝุ่งวันหลิ่งและนายหว่างอามั้ยได้ทำให้ชาวบ้านมีความเข้าใจและมุ่งมั่นในการเรียนหนังสือ นาย เหงวียนด่ายทั้ง รองหัวหน้าคณะกรรมการประชาสัมพันธ์และให้การศึกาษของพรรคสาขาอำเภอกว๋างหว่าได้ให้ข้อสังเกตว่า หลักสูตรการเรียนการสอนได้รับการจัดทำให้สอดคล้องกับความต้องการและทักษะของชาวบ้าน
“การสอนหนังสือให้แก่ชาวบ้านประสบความยากลำบาก โดยเฉพาะในการอ่านเพราะชาวบ้านพูดภาษากลางไม่เป็น ซึ่งคุณครูต้องสอนทั้งการพูดภาษาเวียดนามและหนังสือให้แก่ชาวบ้าน ส่วนชาวบ้านก็สอนภาษาชนเผ่าม้งให้แก่คุณครู โดยชาวบ้านที่นี่มุ่งมั่นตั้งใจในการเรียนหนังสือและไม่เคยขาดเรียนสักครั้ง”
ตำรวจช่วยขนอุปกรณ์การเรียนให้แก่ชั้นเรียนขจัดความไม่รู้หนังสือ |
ร้อยตำรวจโท เบ๊เจื่องยาง ที่อำเภอกว๋างหว่า จังหวัดกาวบั่งได้เผยว่า ต้องเดินทางขึ้นเขา กว่า 3 กิโลเมตรเพื่อไปสอนหนังสือ ซึ่งในช่วงฝนตก ก็ต้องเดินเท้าขึ้นไปเพราะการขี่รถมอเตอร์ไซด์ไม่สะดวก
“ผมรู้สึกภาคภูมิใจที่เข้าร่วมกิจกรรมขจัดความไม่รู้หนังสือในหมู่บ้านหลุงสับ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มีความหมายและช่วยให้ชาวบ้านมีชีวิตที่ดีขึ้น”
ปัจจุบัน ประชาชนชนเผ่าม้งในหมู่บ้านหลุงสับส่วนใหญ่สามารถอ่านออกเขียนได้และได้ลงลายมือชื่อในเอกสารที่ยืนยันไม่เข้าร่วมองค์กรผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ชาวบ้านได้ประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีในการเพาะปลูกและปศุสัตว์เพื่อสามารถหลุดพ้นจากความยากจน.