Team Lee กับภาพเหมือนของทหารพลีชีพเพื่อชาติ |
ในระหว่างการเดินทางเกือบ 500 ก.ม. เพื่อนำภาพเหล่านี้จากกรุงฮานอยไปยังจังหวัดเดียนเบียน ถึงแม้สภาพอากาศจะร้อนมากและมีความยากลำบากมากมาย แต่ทุกคนในทีมต่างรู้สึกทราบซึ้งใจมากเมื่อได้เดินทางถึงผืนแผ่นดินแห่งประวัติศาสตร์เดียนเบียนฟู นาย เลเกวี๊ยดทั้ง หัวหน้าของ Team Lee กล่าวว่า
“เราใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมงในการเดินทางไปยังจังหวัดเดียนเบียน เราไม่เคยไปเดียนเบียน จึงรู้สึกตื่นเต้นมาก ทีมเราได้มอบภาพเหมือนทหารพลีชีพเพื่อชาติ 30 ภาพในจำนวนทั้งหมด 32 ภาพเพราะมีทหารพลีชีพ 2 คนที่ไม่มีภาพและไม่มีข้อมูลเพื่อสร้าง”
การสร้างภาพเหมือน 30 ภาพนี้ถือเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ของ Team Lee ซึ่งล้วนเป็นหนุ่มสาวที่เกิดในยามสันติแต่การซ่อมแซมและสร้างภาพเสมือนนี้เกี่ยวข้องถึงประวัติศาสตร์ของประชาชาติมาก แต่จากการสนับสนุนของเทคโนโลยี 4.0 Team Lee ได้ประสบความสำเร็จในภารกิจนี้ นาย หว่างกวางจุง สมาชิกของ Team Lee กล่าวว่า
“ในการฟื้นฟูภาพเหมือนของทหารพลีชีพเพื่อชาตินั้น มีภาพต้นฉบับที่ไม่ชัด แต่ยากที่สุดคือชุดทหารที่มีรายละเอียดมาก ทีมเราต้องถามเจ้าหน้าที่ในพิพิธภัณฑ์เดียนเบียนฟูและก็หารือปรึกษาในทีมเป็นเวลาหลายคืนเพื่อจะได้ฟื้นฟูภาพให้เหมือนภาพต้นฉบับที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม เราไม่เพียงแต่ซ่อมแซมและสร้างภาพเหมือนเท่านั้น หากยังมีความประสงค์ที่จะช่วยเชื่อมโยงระหว่างอดีตกับปัจจุบันและอนาคตอีกด้วย ช่วยให้คนรุ่นใหม่ไม่ลืมประวัติศาสตร์และเดินพร้อมกันเพื่อแสดงความสำนึกในบุญคุณต่อครอบครัวทหารพลีชีพเพื่อชาติ”
การสร้างภาพเหมือน 30 ภาพนี้ถือเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ของ Team Lee |
ภาพเหมือนของวีรชนกองกำลังติดอาวุธประชาชนเวียดนามในยุทธนาการเดียนเบียนฟูในกรอบกระจกที่มีชีวิตชีวาและสมจริงทุกรายละเอียดที่จัดทำขึ้นใหม่ถูกวางไว้ใต้ภาพเก่าที่เป็นภาพขาวดำซึ่งได้สร้างความซาบซึ้งใจให้แก่ผู้ที่ได้ชมเป็นอย่างมาก “ภาพเหมือนที่ได้รับการซ่อมแซมนั้นมีชีวิตชีวาและสวยมาก เมื่อเรามองที่ภาพก็เห็นเชื่อ อายุของทหารพลีชีพเพื่อชาติ รู้สึกภูมิใจมาก”“ภาพสวยมาก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจิตใจของทหารพลีชีพเพื่อชาติและความคิดถึงของพวกเราต่อพวกเขา กิจกรรมนี้ของ Team Lee น่าชื่นชมมาก”
นาง หวูถิเตวี๊ยดงา ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ฯ รับมอบภาพจาก Team Lee |
ภาพเหมือนของวีรชนกองกำลังติดอาวุธประชาชนเป็นภาพสีถูกจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ชัยชนะเดียนเบียนฟูที่จังหวัดเดียนเบียน เช่น ภาพวีรชน เบ๊วันด่าน ที่ได้ใช้ร่างกายเป็นฐานวางปืน วีรชนโตหวิงเหยี่ยมที่ใช้ร่างกายขวางล้อเกวียนที่ดึงปืนใหญ่ไม่ให้ไหลลงเขาและวีรชน ฟานดิ่งยอด ใช้ร่างกายขวางรูป้อมปืน เป็นต้น ซึ่งช่วยให้ผู้ชมต่างรู้สึกเหมือนว่า พวกเขายังมีชีวิตอยู่ นาง หวูถิเตวี๊ยดงา ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ฯ เผยว่า
“เมื่อได้รับภาพ 30 ภาพ นี้ เรารู้สึกซาบซึ้งใจมากเพราะทุกภาพมีชีวิตชีวามาก แววตาและใบหน้าของทหารพลีชีพเพื่อชาติทุกคนเหมือนตอนกำลังมีชีวิตอยู่ Team Lee ได้ปฏิบัติภารกิจนี้ด้วยใจเพื่อนำข้อมูลและภาพที่สวยงามและรุ่งโรจน์ที่สุดของทหารพลีชีพเพื่อชาติให้สาธารณชนได้ชม”
หลังการก่อตั้งมาเป็นเวลา 2 ปี Team Lee ได้ซ่อมแซมและสร้างภาพเหมือนของทหารพลีชีพกว่า 1,000 ชุดเพื่อมอบให้แก่ญาติมิตรของพวกเขา นี่ถือเป็นการแสดงความสำนึกในบุญคุณของคนรุ่นใหม่ต่อคนรุ่นก่อนที่ได้สละเลือดเนื้อเพื่อเอกราชของประเทศ.