ฤดูใบไม้ร่วงและการเดินทางลงเขาของชาวเผ่าลาหู่

Khắc Kiên
Chia sẻ
(VOVWORLD) -ชนเผ่าลาหูอยู่ในกลุ่มชาติพันธุ์ทิเบต - พม่าและมีชื่อเรียกหลายชื่อ เช่น XaLaCang  Co Xung Kha Quy เป็นต้น ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยใน 54 กลุ่มชาติพันธุ์ของเวียดนาม ซึ่งตั้งหลักอาศัยอยู่ ในเขตชายแดนอำเภอเหมื่องแต่ จ.ลายโจว ผ่านการดำรงชีวิตแบบทำนาเลื่อนลอย ตามป่าต้นน้ำตามฤดูใบไม้ร่วงมาหลายชั่วอายุคนจวบจนบัดนี้ ชาวลาหูได้ละทิ้งวิถีชีวิตแบบการโยกย้ายถิ่นฐานอย่างเสรีเพื่อลงจากภูเขาไปตั้งหลักอาศัยมั่นคงถาวรในเขตที่ราบ

ฤดูใบไม้ร่วงและการเดินทางลงเขาของชาวเผ่าลาหู่ - ảnh 1บ้านแห่งความรักที่ทหารชายแดนช่วยสร้างให้แก่ชุมชนเผ่าลาหู

ตั้งแต่สมัยโบราณ ชาวลาหูเคยชินกับการตั้งหลักอาศัยอยู่ในเขตเขาสูงและป่าลึก อยู่โดดเดี่ยวจากโลกภายนอก กลัวที่จะสื่อสารกับคนแปลกหน้า ไม่รู้ภาษากลาง ขาดความรู้จึงไม่มีที่ดินที่นาเป็นของตัวเอง นาย ลี ซาปู ชาวบ้านนูมา ตำบลปาอู๋ กำลังนั่งข้างกองไฟในบ้านใหม่ที่สร้างโดยกองกำลังทหารชายแดนจังหวัดลายโจว์ ได้เล่าด้วยความปลื้มปิติยินดีว่า เมื่อหลายปีก่อนครอบครัวของเขาจะต้องโยกย้ายพากันไปหาที่พักใหม่ทุกปี “ชุมชนเราใช้ชีวิตแบบเลื่อนลอยในป่าทึบและส่วนใหญ่จะทำไร่ทำนา ที่ไหนที่ปลูกข้าวไร่ หรือข้าวโพดแล้วก็จะไปหาที่อื่นปลูกต่อไป ถ้าไม่มีข้าวกินก็ไปขุดหัวมันหรือหาสิ่งที่สามารถกินได้ บ้านก็เป็นแค่เพิงชั่วคราว ไม่มีผ้าห่มไม่มีเสื้อผ้า ตอนกลางคืนมีแค่ฟืนเผาที่ให้ความอบอุ่น ชีวิตลำบากมากและอยู่แต่ในป่าเท่านั้น”

ในกระบวนการอพยพลงไปตั้งหลักแหล่งอาศัยในที่ราบของชุมชนเผ่าลาหู หน่วยทหารชายแดนของจังหวัดลายโจวได้มีส่วนร่วมเป็นอย่างมากในการรณรงค์ โน้นน้าวและให้การสนับสนุนชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง ซึ่งใช้เวลามากพอสมควรกว่าที่ชาวลาหู่จะมีความเข้าใจสิ่งที่หน่วยทหารชายแดนได้พูดและอธิบายเพื่อลงเขาตั้งถิ่นฐานใช้ชีวิตใหม่ คุณ ลูลีกา จากหมู่บ้าน ฮาซี ตำบลปาอู๋ อำเภอ เหมื่องแต่ หนึ่งในคนกลุ่มแรกที่ลงจากเขามาตั้งบ้านในที่ราบเมื่อปี 2006 ได้เล่าว่า “การดำรงชีวิตอยู่ในป่านั้นลำบากอย่างยิ่ง บนเขาไม่มีที่สักการะบรรพบุรุษ ไปที่ไหนก็ต้องจัดแท่นบูชาที่นั่น เมื่อทหารชายแดนมาอธิบายและโน้นน้าวให้เข้าใจว่า ถ้าลงจากเขาไปตั้งชีวิตใหม่ก็จะลดความทุกข์ยากลงได้ ลูกหลานจะได้ไปโรงเรียน ไม่หิวไม่หนาวอีกต่อไป เมื่อเห็นหนึ่งแล้วสองแล้วสามครอบครัวได้ตามทหารชายแดนลงเขาไปที่หมู่บ้านใหม่เราก็ตามไป เมื่อมาที่หมู่บ้านใหม่ เรามีบ้านที่กว้างขวางเพื่ออาศัย พร้อมได้รับการช่วยเหลือในการดำรงชีวิต ชาวบ้านดีใจมาก”

ฤดูใบไม้ร่วงและการเดินทางลงเขาของชาวเผ่าลาหู่ - ảnh 2กองกำลังทหารป้องกันชายแดนร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นสร้างบ้านให้แก่ประชาชน

จากเริ่มแรกที่มีไม่กี่ครัวเรือน จำนวนครอบครัวที่เชื่อและทำตามคำแนะนำของทหารชายแดนให้ลงเขาไปตั้งหลักอาศัยใหม่ในที่ราบได้เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2020 คณะกรรมการพรรคสาขานครโฮจิมินห์ กระทรวงรักษาความมั่นคงทั่วไปและทางการจังหวัดลายโจว์ได้จัดทำโครงการ 245 เพื่อสนับสนุนครัวเรือนยากจนที่มีปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยในอำเภอเหมื่องแต่ รวมทั้งชาวเผ่าลาหู โดยภายในเวลาไม่ถึง 3 เดือน ได้มีการสร้างบ้านมากกว่า 1,000 หลังให้แก่ประชาชน พันโท ฟาน วัน ฮัว รองผู้บัญชาการ เสนาธิการกองบัญชาการทหารชายแดนลายโจว์กล่าวว่า“โครงการนี้เริ่มดำเนินการในฤดูฝน ดังนั้นในช่วงแรกจึงประสบปัญหาหลายประการ ทางกองบัญชาการทหารชายแดนจังหวัดได้สนับสนุนให้เจ้าหน้าที่และทหารผลักดันมาตรการต่างๆอย่างเข้มแข็ง ซึ่งด้วยความเข้าใจในขนบธรรมเนียมของคนในท้องถิ่น เจ้าหน้าที่และทหารได้ส่งเสริมบทบาทและความรับผิดชอบของตนอย่างเต็มที่เพื่อดำเนินการตามแนวทางของคณะกรรมการประชาชนจังหวัดลายโจว์ ในระหว่างการดำเนินการ ให้มอบหมายหน้าที่และให้กำลังใจกันจนสามารถเสร็จสิ้นแผนการในฤดูฝนได้”

นาย ถ่างมี้แส่ จากหมู่บ้าน มูซี ตำบลปาอู๋ เผยว่า ชีวิตของชุมชนเผ่าลาหูของเราประสบความยากลำบากมากมาย ข้าวไม่พอกิน อาหารหลักคือหัวมันที่หาได้จากป่า แต่ด้วยความสนใจของพรรค ทหารชายแดนที่ตั้งใจรณรงค์ให้เราไปตั้งหลักแหล่งตามหมู่บ้านใหม่ ตอนนี้หมู่บ้านใหญ่มาก มีบ้านกว้างขวางกว่าเดิม ทหารชายแดนก็แนะนำวิธีการทำนาดำ วิธีการเก็บเกี่ยวและการให้ปุ๋ย เป็นต้น ตอนนี้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนดีขึ้นและหมู่บ้านก็มีความเจริญมากขึ้น”

ในอดีตชาวลาหูเคยมีความคาดหวังว่าที่จะมีที่ตั้งหลักแหล่งอาศัยทำกินที่มั่นคง เพื่อให้ผู้สูงอายุไม่ต้องขึ้นเขาสูงอย่างลำบาก และแล้วความหวังง่ายๆนั้นก็ได้กลายเป็นจริงเมื่อภาพหมู่บ้านชุมชนเผ่าลาหูที่มีบ้านหลังใหม่ที่เปี่ยมด้วยความรักใคร่ระหว่างทหารและประชาชนนับวันได้เพิ่มจำนวนมากขึ้น./.

คำติชม