(VOVWorld)-
ชนเผ่าเวินเกี่ยวเป็นชนเผ่าน้อยชนเผ่าเดียวที่ใช้นามสกุลโฮของประธานโฮจิมินห์เป็นนามสกุลของชนเผ่าตน ทั้งนี้ก็เพื่อสำนึกในบุญคุณต่อการปฏิวัติและประธานโฮจิมินห์ที่ได้นำความอิ่มหนำผาสุขมาให้แก่ชาวเวินเกี่ยวและทุกวันนี้ชาวเวินเกี่ยวได้ปฏิบัติตามแบบอย่างคุณธรรมของประธานโฮจิมินห์เป็นประจำในชีวิตประจำวัน
บ้านใหม่ของชนเผ่าเวินเกี่ยว ณ จังหวัดกว๋างจิ
|
ชาวเวินเกี่ยวในกว๋างจิได้เล่าสืบต่อกันมาถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อฤดูร้อนปี 1946 ประธานโฮจิมินห์ได้ส่งคณะเจ้าหน้าที่จากฐานที่มั่นปฏิวัติเวียดบั๊กเดินทางมาไต่ถามสารทุกข์สุกดิบชนเผ่าเวินเกี่ยวในกว๋างจิและพี่น้องชนเผ่าอื่นๆ คณะเจ้าหน้าที่ดังกล่าวได้นำภาพของประธานโฮจิมินห์มอบให้พี่น้องชนเผ่าน้อยต่างๆในกว๋างจิและมอบเสื้อของขวัญที่ประธานโฮจิมินห์ฝากมาให้ผู้เฒ่าผู้แก่ที่มีอายุยืนถึง 90 ปีแล้ว ซึ่งทำให้พี่น้องชาวเวินเกี่ยวตื้นตันใจมาก พวกเขาได้พากันไปที่ตีนเขากอกลาปางซองทำพิธีสาบานกับฟ้าดินและเทพเจ้าว่าชนเผ่าเวินเกี่ยวและชนเผ่าอื่นๆจะเดินตามเส้นทางปฏิวัติและแนวความคิดของประธานโฮจิมินห์ตลอดไปและในพิธีสาบานนี้หัวหน้าหมู่บ้านและผู้เฒ่าผู้แก่ได้มีความเห็นพ้องกันในการใช้นามสกุลโฮของประธานโฮจิมินห์เป็นนามสกุลของชนเผ่าเวินเกี่ยว ทั้งนี้ได้เป็นสิ่งปลุกเร้าใจให้แก่ลูกหลานของชนเผ่าเวินเกี่ยวมั่นใจเดินตามเส้นทางปฎิวัติอย่างแน่วแน่
เมื่อประเทศชาติช่วงชิงเอกราชกลับคืนมาได้และประชาชนทั่วประเทศได้มีชีวิตอยู่ในสันติภาพอย่างแท้จริงแล้ว ชนเผ่าเวินเกี่ยวก็ได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างสรรค์ประเทศชาติใหม่ ในช่วงแรกชาวเวินเกี่ยวยังยึดถือการทำนาทำไร่แบบเลื่อนลอยอยู่ แต่ผ่านกาลเวลาไม่นานเมื่อได้เข้าถึงความรู้ใหม่ๆและเข้าใจเรื่องเทคโนโลยีมากขึ้นทำให้ชาวเวินเกี่ยวเดี๋ยวนี้รู้จักการทำนาลอย ทำฟาร์มเกษตรและเลี้ยงสัตว์ด้วยรูปแบบการผลิตขนาดใหญ่ ซึ่งทำให้พี่น้องชาวเวินเกี่ยวไม่เพียงแต่หลุดพ้นจากความยากจนเท่านั้นหากยังเพิ่มทวีความสามัคคีช่วยเหลือจุนเจือกันในการพัฒนาเศรษฐกิจครัวเรือนอีกด้วย นายโฮแทงบิ่ง ผู้อาวุโสในหมู่บ้าน กาตัง ตัวเมืองอำเภอลาวบ๋าว เผยว่า "พวกเราทำการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการเรียนรู้และปฎิบัติตามคุณธรรมของประธานโฮจิมินห์เป็นประจำทุกๆปีโดยเฉพาะเมื่อถึงเดือนพฤษภาคมในโอกาสฉลองวันคล้ายวันเกิดของประธานโฮจิมินห์วันที่ 19 พฤษภาคม พี่น้องชาวเวินเกี่ยวก็จะจัดการสังสรรค์สนทนากันถึงแบบอย่างอันดีงามของประธานโฮจิมินห์ ท่านเคยสอนพวกเราว่า ถ้าหากไม่ช่วยกันฟันฝ่าความยากลำบาก ชีวิตความเป็นอยู่ก็จะไม่มั่นคง ยิ่งยากจนก็ยิ่งมีปัญหา เมื่อทำตามคำสอนของการปฎิวัติโดยการทำนา ทำไร่ ปลูกผักและเลี้ยงสัตว์แล้วประชาชนเห็นได้ผลดี จากเมื่อก่อนนี้มีแต่บ้านฝาขัดแตะหลังคามุงหญ้าเดี๋ยวนี้เป็นบ้านก่ออิฐถือปูนร้อยเปอร์เซ็น ทำให้ชาวเวินเกี่ยวยิ่งเพิ่มความเชื่อมั่นต่อการปฎิวัติ ต่อประธานโฮจิมินห์และเข้าร่วมขบวนการศึกษาและปฎิบัติตามแบบอย่างคุณธรรมของท่านมากขึ้นทุกปี "
|
ชาวเวินเกี่ยวในลาวบ๋าวมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาความยากจนโดยการช่วยเหลือและแบ่งปันประสบการณ์ให้แก่กันในการพัฒนาการเกษตร นางเหงวียน ถิ ทู เหี่ยน หัวหน้าสมาคมตรีตัวเมืองอำเภอลาวบ๋าวกล่าวว่า
"ทางสมาคมได้จัดการประชุมแนะนำรูปแบบโครงการเกษตรต่างๆเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพของแต่ละท้องที่ซึ่งส่งผลให้หลายตำบล หมู่บ้านมีฐานะเศรษฐกิจดีขึ้น ครอบครัวยากจนลดลงไปมาก ควบคู่กันนั้นทางสมาคมยังทำการรณรงค์ประชาชนเข้าร่วมขบวนการออมทรัพย์ การประหยัดข้าวสาร การแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน การเลี้ยงดูลูกให้ดีและสร้างครอบครัวที่มีความผาสุข "
จากการปฎิบัติโครงการพัฒนาการเกษตรทำให้ครอบครัวชาวเวินเกี่ยวมีรายได้ค่อนข้างมั่นคงเป็นสิบๆล้านด่งต่อปี อย่างเช่นครอบครัวพ่อเฒ่า โฮ เมอ ในตำบลอาเยย ทำการปลูกป่าผสมผสานกับการปลูกกาแฟและเลี้ยงสัตว์มีรายได้ 50 ล้านด่ง (ประมาณ 2.500 เหรียญสหรัฐ )ต่อปี ส่วนครอบครัวนาย โฮ แทงบิ่ง ผู้อาวุโสในหมู่บ้าน กาตัง เป็นครอบครัวนำหน้าในการปลูกป่าและ ทำฟาร์มเกษตร มีรายได้ประมาณ 200 ล้านด่ง ( ราว หนึ่งหมื่นเหรียญสหรัฐ)ต่อปี นายบิ่งกล่าวว่า “ชีวิตของชนเผ่าเวินเกี่ยวเดี๋ยวนี้ไม่ลำบากยากจนเหมือนสมัยก่อนอีกแล้ว โดยอาศัยการศึกษาเรียนรู้และปฎิบัติตามแบบอย่างคุณธรรมของประธานโฮจิมินห์ ได้ช่วยให้ชาวเวินเกี่ยวไม่เพียงแต่รู้วิธีทำนาลอย ทำฟาร์มปลูกผัก เลี้ยงสัตว์และเลี้ยงปลาเท่านั้นหากยังรู้ใช้เครื่องจักรทำการผลิต เพื่อให้ได้ผลผลิตสูงและการเข้าถึงความรู้ในการพัฒนาเศรษฐกิจเชิงตลาดอีกด้วย ชนเผ่าเวินเกี่ยวเวียดนามจะขอจารึกบุญคุณของการปฎิวัติและประธานโฮจิมินห์ไปชั่วกาลนาน./.