ไม่สามารถปฏิเสธความมุ่งมั่นปฏิบัติสิทธิมนุษยชนในเวียดนาม

Vân + Hằng
Chia sẻ
(VOVWORLD) - คณะผู้แทนเวียดนามได้เสร็จสิ้นการเข้าร่วมการประชุมประเมินรายงานระดับชาติครั้งที่ 4 เกี่ยวกับการปฏิบัติกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง หรือ ICCPR  ในระหว่างวันที่ 7-8 กรกฎาคม ณ เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ด้วยผลสำเร็จอย่างงดงาม ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เวียดนามมุ่งมั่นจัดสรรแหล่งพลังที่ดีที่สุดเพื่อค้ำประกันการปฏิบัติสิทธิมนุษยชน สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองตาม ICCPR อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ไม่สามารถปฏิเสธความมุ่งมั่นปฏิบัติสิทธิมนุษยชนในเวียดนาม - ảnh 1คณะผู้แทนเวียดนาม

กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง หรือ ICCPR  คือหนึ่งในสนธิสัญญาระหว่างประเทศที่สำคัญที่สุดด้านสิทธิมนุษยชน โดยได้รับการอนุมัติจากสมัชชาใหญ่สหประชาชาติเมื่อปี 1966 และได้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 1976

เวียดนามได้ให้สัตยาบัน ICCPR เมื่อปี 1982 โดยได้ให้ความสำคัญและปฏิบัติคำมั่นและพันธกรณีระหว่างประเทศในกรอบสนธิสัญญาระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่เวียดนามเป็นภาคี รวมถึง ICCPR

การส่งสารที่เสมอต้นเสมอปลายเกี่ยวกับการถือมนุษย์เป็นศูนย์กลาง

ในการประชุมประเมินรายงานระดับชาติครั้งที่ 4 เกี่ยวกับการปฏิบัติ ICCPR คณะผู้แทนเวียดนามได้ส่งสารที่ชัดเจนและเสมอต้นเสมอปลายเกี่ยวกับการถือมนุษย์เป็นศูนย์กลาง เป็นเป้าหมายและพลังขับเคลื่อนให้แก่กระบวนการพัฒนาประเทศ โดยถึงแม้จะประสบความยากลำบากมากมาย แต่เวียดนามก็มุ่งมั่นและจัดสรรแหล่งพลังที่ดีที่สุดเพื่อค้ำประกันการปฏิบัติสิทธิมนุษยชน สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองตาม ICCPR ซึ่งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติได้รับทราบและชื่นชมพัฒนาการของเวียดนาม เช่น การให้สัตยาบันสนธิสัญญาระหว่างประเทศสำคัญด้านสิทธิมนุษยชน 7 ใน 9 ฉบับ จัดทำและปรับปรุงระเบียบกลไกเพื่อป้องกันการเลือกปฏิบัติ มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ การป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น โดยคณะผู้แทนเวียดนามได้จัดสรรข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการค้ำประกันและส่งเสริมสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองหลังจากการประชุมประเมินรายงานระดับชาติเมื่อปี 2019 จนถึงปัจจุบันอย่างสมบูรณ์และครบถ้วน เดินหน้าหารือและชี้แจงเกี่ยวกับนโยบาย กฎหมาย การจัดทำระเบียบกลไก การปรับปรุงกฎหมายและปฏิรูปด้านตุลาการ มาตรการค้ำประกันการปฏิบัติสิทธิมนุษยชนและแนวทางการปฏิบัติในเวลาข้างหน้า ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังการประชุม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงยุติธรรม เหงวียนแทงติ่ง ตัวแทนคณะผู้แทนเวียดนามได้ยืนยันว่า

ทุกกิจกรรมของพรรคและรัฐต่างถือประชาชนเป็นศูนย์กลางและเป็นเป้าหมายหลัก โดยเฉพาะกระบวนการปรับโครงสร้างองค์กรบริหารราชการให้กระทัดรัดได้สะท้อนให้เห็นถึงมาตรการเชิงยุทธศาสตร์ของเวียดนาม ซึ่งเวียดนามได้ยกเลิกสำนักงานบริหารราชการระดับกลางและระดับอำเภอ ปรับโครงสร้างองค์กรของกระทรวง หน่วยงานและปฏิบัติรูปแบบการปกครองท้องถิ่น 2 ระดับ ผลักดันการกระจายอำนาจให้แก่ท้องถิ่นและการตรวจสอบผลการปฏิบัติเพื่อรับใช้ประชาชนและทำให้องค์กรบริหารราชการดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งนี่ก็เป็นการปฏิบัติตามข้อเสนอของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ นั่นคือเวียดนามต้องผลักดันงานด้านการบังคับใช้กฎหมาย ลดช่องว่างระหว่างการจัดทำและบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนประชาชนจะได้รับประโยชน์จากเป้าหมายและคุณค่าของระบบกฎหมาย”

ไม่สามารถปฏิเสธความมุ่งมั่นปฏิบัติสิทธิมนุษยชนในเวียดนาม - ảnh 2ภาพการประชุม

จะมีการประกาศแผนการปฏิบัติระดับชาติเพื่อปฏิบัติ ICCPR อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

รัฐมนตรีช่วย เหงวียนแทงติ่ง ยังเผยว่า ICCPR มีขอบเขตกว้าง เนื้อหาที่ลึกซึ้ง สามารถเข้าใจและอธิบายในมุมมองต่างๆอย่างกว้างขวาง ดังนั้น การปฏิบัติ ICCPR ก็ต้องมีความมุ่งมั่นและมีแหล่งพลังมากพอสมควร ซึ่งเวียดนามได้เผชิญกับความท้าทายต่างๆ เช่น ความตระหนักรู้เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนของหน่วยงานทุกระดับและเขตต่างๆไม่เหมือนกัน ระเบียบกลไกและกฎหมายยังไม่ตอบสนองความต้องการในสภาวการณ์ใหม่ ซึ่งการแปรข้อกำหนดของ ICCPR ให้เป็นข้อกำหนดทางกฎหมายที่เป็นรูปธรรมนั้นต้องทำการวิจัยอย่างรอบคอบเพื่อค้ำประกันความพร้อมเพรียงและเหมาะสม

แต่ย่างไรก็ตาม เวียดนามก็มีความสะดวกต่างๆ นั่นคือคำมั่นทางการเมืองที่เข้มแข็ง ทัศนะที่เสมอต้นเสมอปลายของพรรคและรัฐที่ถือสิทธิมนุษยชนเป็นเป้าหมายสำคัญในกระบวนการพัฒนา ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากยุทธศาสตร์ นโยบาย แผนการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม ระบบกฎหมายที่นับวันได้รับการปรับปรุงอย่างสมบูรณ์ มีการแก้ไขและประกาศใช้กฎหมายเพื่อแปรข้อกำหนดของ ICCPR ให้เป็นรูปธรรม มีส่วนร่วมยกระดับประสิทธิภาพของการปกป้องสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง

รัฐมนตรีช่วย เหงวียนแทงติ่ง ยังเผยว่า หลังการประชุมนี้ กระทรวงยุติธรรมจะยื่นเสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาประกาศใช้แผนปฏิบัติการระดับชาติเพื่อปฏิบัติ ICCPR และข้อเสนอของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นยกระดับความตระหนักรู้และความรับผิดชอบของแถวขบวนเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับทัศนะและแนวทางสำคัญของพรรคเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน ซึ่งทุกแนวทางและนโยบายต่างถือมนุษย์เป็นศูนย์กลาง การกำหนดแนวทางและนโยบายต้องมาจากชีวิตประจำวัน สิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของประชาชน แปรสนธิสัญญาระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่เวียดนามเป็นภาคีให้เป็นข้อกำหนดทางกฎหมายที่เป็นรูปธรรมและสมบูรณ์ ค้ำประกันระบบกฎหมายที่มีประชาธิปไตย ยุติธรรม สมบูรณ์ ทันการณ์ ครบถ้วน เป็นเอกภาพ สามารถเข้าถึงได้ง่าย ถือสิทธิและผลประโยชน์ที่ชอบธรรมของประชาชนเป็นศูนย์กลาง.

คำติชม