เสริมสร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-อิตาลีและความสัมพันธ์หุ้นส่วนเวียดนาม-สำนักวาติกัน

Anh Huyen - VOV5
Chia sẻ
(VOVWorld)-วันนี้๒๑พฤศจิกายน ท่าน เจิ่นด่ายกวาง ประธานประเทศพร้อมคณะผู้แทนระดับสูงเวียดนามได้เดินทางไปเยือนประเทศอิตาลีและสำนักวาติกันเป็นเวลา๕วัน  ซึ่งการเยือนครั้งนี้มีความหมายพิเศษในการเสริมสร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-อิตาลีและสร้างพื้นฐานที่มั่นคงให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสำนักวาติกันในเวลาที่จะถึง
(VOVWorld)-วันนี้๒๑พฤศจิกายน ท่าน เจิ่นด่ายกวาง ประธานประเทศพร้อมคณะผู้แทนระดับสูงเวียดนามได้เดินทางไปเยือนประเทศอิตาลีและสำนักวาติกันเป็นเวลา๕วัน  ซึ่งการเยือนครั้งนี้มีความหมายพิเศษในการเสริมสร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-อิตาลีและสร้างพื้นฐานที่มั่นคงให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสำนักวาติกันในเวลาที่จะถึง

เสริมสร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-อิตาลีและความสัมพันธ์หุ้นส่วนเวียดนาม-สำนักวาติกัน - ảnh 1
ท่าน เจิ่นด่ายกวาง ประธานประเทศเวียดนาม (Photo: vietnamplus.vn)

อิตาลีตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทวีปยุโรปเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีความผูกพันกับประวัติศาสตร์อาณาจักรโรมในสมัยโบราณ  ปัจจุบัน  เศรษฐกิจอิตาลีมีความหลากหลาย  โดยมีหน่วยงานอุตสาหกรรมที่ทันสมัย  ติดอันดับ๙ของโลก  นอกเหนือจากหุ้นส่วนเดิมแล้ว  อิตาลีกำลังเน้นผลักดันความร่วมมือ การแลกเปลี่ยนทางการค้ากับเศรษฐกิจเกิดใหม่ในภูมิภาคเอเชียได้แก่จีน อินเดียและอาเซียน  รวมทั้ง เวียดนาม
ผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์อย่างเข้มแข็ง

เวียดนามและอิตาลีสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อวันที่๒๓มีนาคมปี๑๙๗๓  ในช่วงต้นปีคริสตศักราช๙๐ ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้รับการเสริมสร้างและพัฒนาอย่างรวดเร็ว  โดยอิตาลีเป็นประเทศแรกในยุโรปตะวันตกที่ให้การสนับสนุนการผลักดันความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรป  ในฟอรั่มระหว่างประเทศ  รวมทั้ง การปรับความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับองค์กรการเงินและการค้าระหว่างประเทศให้เป็นปกติ   ทั้งสองประเทศได้ธำรงการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูงและในการพบปะครั้งต่างๆ ผู้นำอิตาลีได้ยืนยันถึงความตั้งใจเกี่ยวกับการผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือในทุกด้านกับเวียดนาม  ถือเวียดนามเป็นประเทศที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในการพัฒนาความสัมพันธ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเป็นจุดนัดพบของบรรดาสถานประกอบการอิตาลีตั้งแต่บัดนี้จนถึงปี๒๐๒๐  ส่วนเมื่อต้นปี๒๐๑๓  ทั้งสองประเทศได้สถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในโอกาสการเยือนอิตาลีของท่าน เหงวียนฟู้จ๋อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม
ในหลายปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-อิตาลีได้รับการเสริมสร้างและผลักดันในหลายด้าน  รวมทั้ง การธำรงการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูง  สำหรับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน มูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างสองประเทศได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว  โดยอยู่ที่๓.๓พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี๒๐๑๓และเพิ่มขึ้นเป็น๔.๓พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี๒๐๑๕
ปัจจุบัน อิตาลีมีโครงการลงทุน๗๗โครงการในเวียดนาม รวมยอดเงินลงทุน๓๖๐ล้านดอลลาร์สหรัฐ  อยู่อันดับ๓๑ในจำนวนทั้งหมด๑๑๒ประเทศและดินแดนที่ลงทุนในเวียดนามทั้งในด้านอุตสาหกรรมการแปรรูป การผลิต  รองเท้า การก่อสร้าง การผลิตเหล็กและเครื่องสุขภัณฑ์  โดยเฉพาะ รัฐบาลอิตาลีได้ระบุเวียดนามในรายชื่อ๑๐ตลาดเกิดใหม่ที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในการพัฒนาความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุน
ควบคู่กันนั้น  ความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและการศึกษาระหว่างเวียดนามกับอิตาลีก็ได้มีก้าวพัฒนาที่มั่นคง  ทุกๆปี กระทรวงการต่างประเทศอิตาลีได้มอบทุนการศึกษาระดับปริญญาโทด้านภาษาอิตาลีให้แก่เวียดนาม รัฐบาลอิตาลีได้ประสานกับองค์การยูเนสโกในการช่วยเหลือเวียดนามบูรณะซ่อมแซมโบราณสถานหมีเซิน  รวมยอดเงินลงทุนกว่า๔แสนดอลลาร์สหรัฐ  นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังจัดสัปดาห์วัฒนธรรมเพื่อผลักดันการพบปะสังสรรค์และส่งเสริมความเข้าใจระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ
เสริมสร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-อิตาลีและความสัมพันธ์หุ้นส่วนเวียดนาม-สำนักวาติกัน - ảnh 2
สำนักวาติกัน

การสนทนาเป็นพื้นฐานเพื่อสร้างสรรค์และพัฒนาความสัมพันธ์เวียดนามกับสำนักวาติกัน
ในโอกาสนี้ ท่านประธานประเทศเวียดนามยังเดินทางไปเยือนสำนักวาติกัน  ซึ่งวัตถุประสงค์ของการเยือนครั้งนี้ก็เพื่อยืนยันแนวทางของเวียดนามคือ ให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์กับสำนักวาติกัน  ยืนหยัดการสนทนากับสำนักวาติกันบนพื้นฐานของหลักการที่ได้บรรลุคือให้ความเคารพและไม่แทรกแซงกิจการภายในของกัน  เวียดนามมีความประสงค์ว่า สำนักวาติกันจะส่งเสริมให้ชมรมชาวคริสต์ในเวียดนามมีความผูกพันกับประเทศและประชาชาติ  ซึ่งเป็นพื้นฐานให้แก่การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสำนักวาติกัน
 เมื่อหวนมองดูความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสำนักวาติกันในเวลาที่ผ่านมา อาจยืนยันได้ว่า กระบวนการสนทนาได้มีส่วนร่วมพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่าย  โดยการสนทนาอยู่บนพื้นฐานของการให้ความเคารพข้อตกลงที่ได้บรรลุ ซึ่งได้สร้างความเข้าใจระหว่างกัน  จนนำไปสู่การบรรลุความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์และผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคีเพื่อผลประโยชน์ร่วมและของแต่ละฝ่าย  การสนทนาครั้งต่างๆได้ช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น การแต่งตั้งบุคลากรให้แก่สำนักงานอาร์ชบิชอปในเวียดนาม  การศึกษาในต่างปะเทศของบรรดานักบวช   การที่สมาคมคริสตศาสนาเวียดนามเชิญองค์การและบุคคลจากต่างประเทศมาเวียดนามเพื่อประกอบศาสนากิจ
 บนพื้นฐานความสัมพันธ์อันดีงามนี้  แน่นอนว่า การเยือนอิตาลีและสำนักวาติกันของประธานประเทศเจิ่นด่านกวางจะเป็นก้าวพัฒนาใหม่และสร้างพื้นฐานที่มั่นคงให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับอิตาลีและสำนักวาติกันในเวลาที่จะถึง.

คำติชม