​เศรษฐกิจโลกในสภาวการณ์ที่สงครามการค้าสหรัฐ-จีนยังไม่คลี่คลายลง

Hồng Vân/VOV5
Chia sẻ
(VOVWORLD) - ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสองเศรษฐกิจรายใหญ่ที่สุดของโลกคือสหรัฐและจีนในหลายเดือนที่ผ่านมาได้เริ่มส่งผลกระทบในลงทบต่อตลาดโลก โดยนอกจากการทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์สำคัญๆปิดติดลบแล้ว ค่าเงินของหลายๆประเทศก็อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ในระยะยาว ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐกำลังกลายเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
​เศรษฐกิจโลกในสภาวการณ์ที่สงครามการค้าสหรัฐ-จีนยังไม่คลี่คลายลง - ảnh 1นาย สีจิ้นผิง ประธานประเทศจีนและนาย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ (AFP) 

สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนกำลังยืดเยื้ออยู่ในขณะที่จะทำให้ศักยภาพของเศรษฐกิจโลกตกอยู่ในภาวะมืดมน และกระบวนการโลกาภิวัตน์อาจประสบอุปสรรค์ นอกจากนั้น ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสองเศรษฐกิจรายใหญ่นี้จะส่งผลให้เศรษฐกิจอื่นๆต้องเข้าร่วม และจุดชนวนสงครามการค้าระดับโลก เนื่องจากการขยายตัวของโลกส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับกิจกรรมการแลกเปลี่ยนการค้า

ส่งผลกระทบในทางลบต่อตลาดต่างๆ

ส่วนค่าเงินของจีน อินเดีย อินโดนีเซีย เมียนมาร์และหลายๆประเทศเริ่มมีสัญญาณอ่อนค่าลง โดยตั้งแต่เดือนมิถุนายน ค่าเงินรูปีของอินเดียได้อ่อนค่าต่ำที่สุดเป็นประวัติกาล ค่าเงินหยวนของจีนอ่อนค่าลงร้อยละ 3.2  โดยระดับผลกระทบที่ประเทศต่างๆเผชิญมีความแตกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับระดับการพึ่งพาสองเศรษฐกิจรายใหญ่ที่สุดของโลกนี้ และส่งผลกระทบต่อการพิจารณาการลงทุนในเอเชียของนักลงทุน เนื่องจากสงครามสหรัฐ-จีนถือเป็นปัจจัยหลักที่สร้างความวิตกกังวล ซึ่งทำให้ค่าเงินของประเทศต่างๆในเอเชียอ่อนค่าลง

สำหรับสาธารณรัฐเกาหลี ถึงแม่ค่าเงินวอนจะยังไม่อ่อนค่าลง แต่สาธารณรัฐเกาหลีก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากสงครามการค้าสหรัฐ-จีน เนื่องจากนี่คือ 2หุ้นส่วนการค้าชั้นนำของประเทศนี้ ตามรายงานของสมาพันธ์การค้าระหว่างประเทศสาธารณรัฐเกาหลี คาดว่า จีดีพีของสาธารณรัฐเกาหลีจะลดลงร้อยละ 0.018 หรือคิดเป็น 236.49 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในอีก 1 ปีข้างหน้า ถ้าหากสหรัฐและจีนใช้มาตรการเก็บภาษีตอบโต้กันร้อยละ 25 ต่อสินค้าที่มีมูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

แต่อย่างไรก็ตาม สาธารณรัฐเกาหลีก็ยังไม่ใช่ประเทศที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุด หากเป็นไต้หวัน ประเทศจีน ซึ่งคาดว่า การขยายตัวจีดีพีของไต้หวันจะลดลงร้อยละ 0.025 รองลงมาคือแคนาดา เม็กซิโกและไอร์แลนด์ ซึ่งตัวเลขนี้อาศัยสมมติฐานว่า จีดีพีของสหรัฐและจีนลดงร้อยละ 0.1 และ 0.2 ตามลำดับเนื่องจากสงครามการค้า

การรับมือ

ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกคือสิ่งที่ชัดเจน แต่อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจได้แสดงความเห็นว่า การที่ค่าเงินของประเทศต่างๆในเอเชียลดลงอาจไม่ถึงขั้นเกิดวิกฤตการค้า เนื่องจากสำนักงานดูแลนโยบายการเงินในเอเชียได้ถอดบทเรียนจากการลดค่าเงินในเอเชียเมื่อปี 2013 ปี2015 และปี 2016 จึงมีมาตรการรับมืออย่างทันการณ์และมีความคล่องตัวมากขึ้น เช่นที่อินโดนีเซีย เพื่อเสริมสร้างค่าเงินรูเปีย ทางการอินโดนีเซียได้เพิ่มดอกเบี้ย 4 เท่าในรอบ 3 เดือน สำนักงานดูแลนโยบายการเงินในอินเดียและฟิลิปปินส์ก็เพิ่มดอกเบี้ยในปีนี้ นอกจากนั้น ปัจจุบัน ประเทศต่างๆในเอเชียมีเงินตราต่างประเทศสำรองมากขึ้น และควบคุมการขาดงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในขณะเดียวกัน สำหรับเศรษฐกิจอื่นๆ เช่นสาธารณรัฐเกาหลีก็กำลังค่อยๆลดการพึ่งพาจีนและสหรัฐในระยะยาว พร้อมทั้งขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนการค้ากับประเทศอื่นๆ เช่นอินเดียและประเทศสมาชิกอาเซียน กระทรวงพาณิชย์สาธารณรัฐเกาหลีกำลังเฝ้าติดตามผลกระทบของสงครามการค้าสหรัฐ-จีนต่อการส่งออก และจะผลักดันการช่วยเหลือบริษัทที่กำลังพยายามเจาะตลาดอื่นๆแทน

ในสภาวการณ์ดังกล่าว ในระหว่างวันที่ 22-23 สิงหาคม บรรดานักเจรจาสหรัฐและจีนจะพบปะที่กรุงวอชิงตันเพื่อหารือเกี่ยวกับการยุติความชะงักงันในการแก้ไขความขัดแย้งด้านการค้า ซึ่งคาดว่า ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์และประธานประเทศจีน สีจิ้นผิง จะพบปะกันในฟอรั่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกหรือเอเปกในกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ ณ ประเทศปาปัวนิวกินี ต่อจากนั้นจะพบปะกันในการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศพัฒนาและเศรษฐกิจเกิดใหม่หรือจี 20 ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินาในปลายเดือนพฤศิกายนนี้

เรื่องการเก็บภาษีนำเข้าและสงครามการค้าโลกอาจทำให้การขยายตัวจีดีพีของโลกลดลงร้อยละ 1-3 ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ในกระบวนการพัฒนาเศรษฐกิจที่เปิดกว้าง ผลกระทบในทางลบจากความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนต่อประเทศต่างๆคือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น พร้อมกับการเจรจาของ 2 เศรษฐกิจรายใหญ่ที่สุดของโลก การเป็นฝ่ายรุกและความคล่องตัวในการรับมือของประเทศต่างๆคือสิ่งที่จำเป็นเพื่อลดความเสียหายที่เกิดขึ้น.

คำติชม