ภาพรวมเศรษฐกิจเวียดนามในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมามีจุดเด่นมากมาย (baodautu.vn) |
ภาพรวมเศรษฐกิจเวียดนามในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมามีจุดเด่นมากมาย รวมถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลในการปรับปรุงกลไกให้มีความสมบูรณ์ การแก้ไขความยากลำบากและอุปสรรค และการให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา รัฐบาลยังคงส่งเสริมการประกาศใช้เอกสารแนะนำการบังคับใช้กฎหมายที่ดินปี 2024 ฉบับแก้ไข กฎหมายที่อยู่อาศัยปี 2023 กฎหมายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2023 และกฎหมายองค์กรสินเชื่อปี 2024 เป็นต้น
ดัชนี้การพัฒนาหลายภาคเติบโตในเชิงบวก
ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา เศรษฐกิจเวียดนามมีแนวโน้มการเติบโตในเดือนหน้าสูงกว่าเดือนที่แล้ว ปีนี้ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเฉพาะ เศรษฐกิจยังคงเติบโตในเชิงบวกทั้งใน 3 ภาคส่วน ได้แก่ การเกษตร บริการและอุตสาหกรรม ที่น่าสนใจคือ ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นใน 60 จากจำนวนทั้งหมด 63 จังหวัดและนคร คาดว่า จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ผลงานนี้ได้แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในวงกว้าง นอกจากนั้น เศรษฐกิจมหภาคยังคงมีเสถียรภาพ อัตราเงินเฟ้อได้รับการควบคุม ความสมดุลที่สำคัญได้รับการค้ำประกัน ดัชนีราคาผู้บริโภคหรือ CPI เฉลี่ยใน 7 เดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.12 เพิ่มขึ้น 0.04% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน การส่งออกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้เปรียบดุลการค้ากว่า 1 หมื่น 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีส่วนร่วมค้ำประกันดุลการชำระเงิน ดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือ FDI สูงถึง 1 หมื่น 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.9 นอกจากนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อหรือ PMI ในเดือนกรกฎาคมบรรลุ 54.7 คะแนน ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2018 นาง ฟานถิทั้ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมได้ย้ำว่า
“ดัชนีดังกล่าวได้บ่งบอกว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมในปัจจุบันกำลังฟื้นตัวอย่างเข้มแข็งเมื่อเทียบกับปี 2023 ภาคอุตสาหกรรมการผลิตและการแปรรูปกลับมามีบทบาทนำหน้าในระบบเศรษฐกิจอีกครั้ง กำลังการผลิตของสถานประกอบการอุตสาหกรรมภายในประเทศฟื้นตัวอย่างเข้มแข็ง และพร้อมที่จะใช้ประโยชน์จากโอกาสในการเข้าถึงตลาดใหม่ๆ ในเวลาที่จะถึง”
การที่เศรษฐกิจเวียดนามยังคงมีตัวชี้วัดในเชิงบวกได้ช่วยสร้างศักยภาพที่สดใสให้แก่ช่วงครึ่งหลังของปีนี้และในระยะยาว องค์กรระหว่างประเทศ สถาบันการเงินและผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากยังคงชื่นชมผลงานและศักยภาพเศรษฐกิจของเวียดนามเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ ธนาคาร ADB ได้เพิ่มการคาดการณ์การเติบโตของเวียดนามในปี 2024 เป็นร้อยละ 6 สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคอาเซียน+3 คาดการณ์ว่า การเติบโตของเวียดนามจะอยู่ที่ร้อยละ 6.3 ส่วนธนาคาร HSBC คาดการณ์ว่า จะเติบโตร้อยละ 6.5 เวียดนามยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติ นาย ทาเคโอะ นากาจิมะ หัวหน้าสำนักงานตัวแทน Jetro ฮานอยได้เผยว่า
“จากผลการสำรวจของ Jetro ฮานอยปรากฎว่า สถานประกอบการที่กำลังประกอบธุรกิจในเวียดนามร้อยละ 70 เผยว่า พวกเขากำลังมีความต้องการขยายการผลิตด้วยรูปแบบการประกอบธุรกิจใหม่ๆ ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ จำนวนโครงการจดทะเบียนใหม่ได้ลดลงร้อยละ 20 แต่จำนวนเงินลงทุนของสถานประกอบการที่ประกอบธุรกิจเป็นเวลาหลายปีมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น”
นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง กล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมประจำเดือนกรกฎาคมของรัฐบาล ( baochinhphu.vn) |
ระดมพลังทุกแหล่งเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ
นับตั้งแต่ต้นปีนี้ รัฐบาล กระทรวงและหน่วยงานตั้งแต่ระดับส่วนกลางไปจนถึงระดับท้องถิ่นได้กำหนดที่จะระดมพลังทุกแหล่งอย่างเต็มที่ พยายามบรรลุเป้าหมายที่ได้วางไว้ให้แก่ปี 2024 โดยเฉพาะ เป้าหมายการเติบโตอยู่ที่ประมาณร้อยละ 6.5 ซึ่งเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าวจะส่งเสริมการเติบโตในทุกด้าน รวมถึงพลังขับเคลื่อนแบบดั้งเดิมคือการลงทุน การส่งออกและการบริโภค อีกทั้ง ยกระดับคุณภาพและส่งเสริมแรงผลักดันใหม่มากขึ้น คือการเติบโตสีเขียว การเติบโตของเศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจแบ่งปันและเศรษฐกิจฐานความรู้ ระดมพลังทุกแหล่งเพื่อส่งเสริมการผลิต การประกอบธุรกิจ การสร้างงานทำและการสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนเพื่อมีส่วนร่วมต่อการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ เดินหน้าส่งเสริม 3 ก้าวกระโดดเชิงยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชิงยุทธศาสตร์ กลไกและการฝึกอบรมบุคลากรที่มีคุณภาพสูง ควบคู่กับการส่งเสริมกิจกรรมการต่างประเทศ เศรษฐกิจต่างประเทศและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกเพื่อมีส่วนร่วมเสริมสร้าง ยกระดับบทบาท สถานะและชื่อเสียงของเวียดนามบนเวทีโลก
ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมประจำเดือนกรกฎาคมของรัฐบาลเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ย้ำถึงหน้าที่และมาตรการหลักในเดือนสิงหาคม ตั้งแต่บัดนี้จนถึงปลายปีและในเวลาที่จะถึงว่า
“ยึดมั่นเป้าหมายคือ รักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค ควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่สภาแห่งชาติได้กำหนดไว้ ส่งเสริมการเติบโตมากขึ้น ค้ำประกันความสมดุลที่สำคัญและมีความได้เปรียบเพิ่มขึ้น ปัญหาหนี้สาธารณะ หนี้รัฐบาลและการใช้จ่ายเกินงบประมาณต้องได้รับการควบคุมเป็นอย่างดี ประเด็นที่ 2 คือ เราต้องค้ำประกันเสถียรภาพทางการเมือง ความเป็นระเบียบเรียบร้อยทางสังคมและอธิปไตยในเขตชายแดนของประเทศ ซึ่งเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ ผลงานในเดือนหน้าจะต้องดีกว่าเดือนก่อน ไตรมาสหน้าต้องสูงกว่าไตรมาสก่อน และในปี 2024 ผลงานที่ได้บรรลุจะต้องครอบคลุมขึ้นกว่าปี 2023”
เวียดนามได้ย่างเข้าสู่ไตรมาสที่ 3 ของปี 2024 ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งของปี 2024 เพื่อพยายามบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ในปี 2024 ในระดับสูงสุด การพัฒนาอย่างเข้มแข็งของเศรษฐกิจเวียดนามในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาจะเป็นปัจจัยสำคัญเพื่อมีส่วนร่วมช่วยให้เศรษฐกิจบรรลุการขยายตัวจีดีพีร้อยละ 6 – 6.5 ในปีนี้.