เวียดนามได้มีส่วนร่วมและกำลังพยายามมากขึ้นเพื่อร่วมกับโลกขจัดภัยคอรัปชั่น

Chia sẻ
(VOVWORLD) -การทุจริตคอรัปชั่นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในทุกประเทศแม้จะเป็นประเทศที่พัฒนาหรือประเทศที่ด้อยพัฒนา ดังนั้นจำเป็นต้องมีส่วนร่วมจากทุกชาติเพื่อต่อต้านและขจัดภัยร้ายนี้ในทั่วโลก สำหรับเวียดนาม พรรคและรัฐได้ให้ความสำคัญและชี้นำปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเด็ดขาดในงานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นโดยเฉพาะนับตั้งแต่เมื่อเวียดนามได้ลงนามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริตเดือนธันวาคมปี2003มาจนถึงปัจจุบัน

เวียดนามได้มีส่วนร่วมและกำลังพยายามมากขึ้นเพื่อร่วมกับโลกขจัดภัยคอรัปชั่น - ảnh 1ท่านเลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ๋องย้ำ "ไม่มีข้อยกเว้น" ในการต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น

พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ระบุชัดว่า การทุจริตคอรัปชั่นเป็นภัยคุกคามจากภายในที่เสี่ยงจะทำลายระบอบและการพัฒนาของประเทศ ดังนั้นงานด้านการป้องกันและต่อต้านการทุจริตได้กลายเป็นแนวทางสำคัญของพรรคและรัฐที่ได้รับการชี้นำอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังสมัชชาพรรคฯสมัยที่12 เดือนมกราคมปี 2016 งานด้านการป้องกันและต่อต้านการทุจริตได้มีก้าวพัฒนาอย่างเข้มแข็งและบรรลุผลงานที่สำคัญๆ สร้างและจุดประกายพลังเชิงบวกในสังคมและยังได้รับการชื่นชมจากนานาประเทศในสภาวการณ์ที่การปฏิบัติงานด้านนี้ของประเทศต่างๆทั่วโลกไม่บรรลุความคืบหน้ามากนักแม้จะมีความตั้งใจดำเนินการอย่างเข้มแข็งก็ตาม

หัวเลี้ยวที่สำคัญที่สุดในงานด้านการป้องกันและต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นในเวียดนามคือการจัดตั้งคณะกรรมการชี้นำส่วนกลางเกี่ยวกับการป้องกันและต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2013โดยท่านเลขาธิการใหญ่พรรคฯ เหงวียนฟู้จ๋องรับผิดชอบต่อกรมการเมืองและคณะเลขาธิการพรรคส่วนกลางในการชี้นำ ประสานงาน ตรวจสอบเร่งรัดการดำเนินงานกิจกรรมการป้องกันและปราบปรามภัยคอรัปชั่นต่างๆในขอบเขตทั่วประเทศ ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจในระดับสูงของผู้นำสำนักงาน ด้วยอำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย งานด้านการป้องกันและต่อต้านการทุจริตได้มีความก้าวหน้าอย่างแข็งขัน บนพื้นฐานของการปรึกษาหารือกับคณะกรรมการฯ สำนักงานพรรคส่วนกลางได้กำหนดแนวทางการปรับปรุงกลไก นโยบาย กฎหมายและมาตรการในการดำเนินภารกิจการปราบปรามการคอรัปชั่นอย่างเคร่งครัด เด็ดขาดเพื่อสร้างก้าวเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรม โดยแนวทางที่ถูกต้องนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นจากผลงานการปฏิบัติตั้งแต่ต้นวาระสมัชชาพรรคฯสมัยที่12 มาจนถึงปัจจุบัน

ในด้านระบบระเบียบการบริหารงาน พรรคฯได้กำหนดว่ามาตรการป้องกันและต่อต้านการทุจริตต้องรอบด้านและคลอบคลุมทุกด้านของชีวิตสังคม ตั้งแต่กิจกรรมขององค์กรพรรคระดับต่างๆไปจนถึงเศรษฐกิจสังคม มีการประกาศใช้ข้อกำหนดและกฎระเบียบต่างๆเพื่อผลักดันงานด้านการสร้างสรรค์พรรค สร้างสรรค์ระบบการเมืองและการป้องกันและต่อต้านการคอรัปชั่น รวมทั้งส่งผลดีต่อการป้องปรามและป้องกัน เป็นเงื่อนไขเพื่อตรวจสอบและแก้ไขกรณีฝ่าฝืนต่างๆ โดยทั้งทางคณะกรรมการกลางพรรค กรมการเมือง คณะเลขาธิการส่วนกลาง ไปจนถึงสำนักงานที่ปรึกษาของพรรคได้กำหนดแนวทาง มาตรการใหม่ที่เข้มแข็งเคร่งครัดเกี่ยวกับการสร้างและปรับปรุงองค์กรพรรคและการป้องกัน ต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งมีระเบียบการและมติจำนวนมากได้รับการปฏิบัติอย่างจริงจัง ได้รับการเผยแพร่เข้าสู่ชีวิต มีประโยชน์ในการย้ำเตือนและป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ รัฐสภาและรัฐบาลรวมทั้งกระทรวง หน่วยงานต่างๆได้ตรวจสอบเพื่อปรับปรุงแก้ไข เสริมเพิ่มเติมและประกาศใช้ระเบียบการด้านกฎหมายเกี่ยวกับการบริหารเศรษฐกิจและสังคมและการป้องกันการคอรัปชั่น ช่วยแก้ไขข้อจำกัดหรือช่องโหว่ที่อาจจะทำให้เกิดปัญหาทุจริตคอรัปชั่นหรือการเรียกรับผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม งานด้านเจ้าหน้าที่ก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างรอบด้าน การปฏิรูประเบียบราชการในกิจกรรมของสำนักงานต่างๆได้รับการชี้นำส่งเสริมตามแนวทางที่เปิดเผย โปร่งใสจนบรรลุผลงานที่สำคัญในเชิงบวก รวมไปถึงการประกาศข้อกำหนดอื่นๆที่สร้างเงื่อนไขที่เปิดกว้างมากขึ้นเพื่อให้กำลังใจทั้งสังคมเข้าร่วมภารกิจต่อต้านการคอรัปชั่น

ในด้านการดำเนินงาน สำนักงานตรวจตราตรวจสอบและตรวจเงินแผ่นดินได้รับการเสริมสร้างด้านโครงสร้างองค์กร มีการกำหนดอำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเคร่งครัด สามารถตรวจสอบ เปิดโปงและแก้ไขกรณีฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ เพิ่มความเข้มงวดของระเบียบการและมีส่วนร่วมยกระดับประสิทธิภาพของงานด้านการป้องกันและต่อต้านภัยคอรัปชั่น โดยเฉพาะการที่คณะกรรมการตรวจตราส่วนกลางได้ดำเนินงานอย่างเข้มงวด เด็ดขาด ถูกต้องยุติธรรมในการสืบสวนกรณีฝ่าฝืนที่รุนแรงและยื่นเสนอต่อส่วนกลางเกี่ยวกับมาตรการลงโทษสำหรับเจ้าหน้าที่ระดับสูงรวมทั้งองค์กรพรรคที่ทำผิดกฎระเบียบต่างๆ ซึ่งถือเป็นก้าวกระโดดในงานด้านการตรวจตราตรวจสอบของพรรคเพื่อเพิ่มความเคร่งครัดเข้มงวดในกฎระเบียบขององค์กรพรรคและกลไกการบริหารของรัฐ เพิ่มประสิทธิภาพงานด้านการปราบปรามการคอรัปชั่นซึ่งได้รับการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ สมาชิกพรรคและประชาชนเป็นอย่างมาก นอกจากนั้น เวียดนามไม่เพียงแต่พยายามปฏิบัติตามอนุสัญญาการต่อต้านการทุจริตของสหประชาชาติเท่านั้น หากเวียดนามยังได้ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ แลกเปลี่ยนและเรียนรู้ประสบการณ์อย่างแข็งขัน และให้ความร่วมมือในการต่อต้านการทุจริตกับหลายประเทศในประชาคมเอเปก อาเซียน ยุโรป และองค์กรระหว่างประเทศต่างๆเพื่อปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพของการต่อต้านการทุจริต มีส่วนร่วมที่เข้มแข็งในความพยายามต่อต้านการทุจริตในทั่วโลก ซึ่งก็มีวิธีการแก้ปัญหาต่างๆของเวียดนามได้รับการชื่นชมจากประชาคมระหว่างประเทศเพื่อถอดประสบการณ์และจะนำไปประยุกต์ใช้ต่อไป

จากความมุ่งมั่นและความพยายามอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อปี 2020เวียดนามได้จัดอยู่ในลำดับที่ 104/180 ในตารางการจัดอันดับดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอรัปชั่น CPI ของโลกจากองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ซึ่งถือเป็นการรับทราบของโลกต่อความพยายามในการต่อต้านการคอรัปชั่นของเวียดนามและสิ่งนี้ก็ยิ่งมีความหมายในสภาวการณ์ที่คะแนนของประเทศที่ติดกลุ่มแรกๆลดลงและมีหลายประเทศอาเซียนถูกลดอันดับในตารางดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอรัปชั่น CPI

ก่อนหน้านี้ ศาสตราจารย์คาร์ล เธเยอร์ จากสถาบันกลาโหมออสเตรเลีย ได้ให้ข้อสังเกตต่องานด้านการต่อต้านการทุจริตในเวียดนามว่า "นี่ไม่ใช่แค่การจัดการกับเจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่งที่ทำผิด แต่ยังแก้ไขช่องโหว่ในระบบการปกครอง และหลักนิติธรรม" ส่วนศาสตราจารย์เดนนิส แมคคอร์แนค จากมหาวิทยาลัยโลโยลาแมริแลนด์ ประเทศสหรัฐ ซึ่งก็ได้กล่าวในมุมมองเดียวกันว่า เป็นที่ชัดเจนว่าสิ่งต่าง ๆได้เปลี่ยนไปเมื่อกฎหมายต่อต้านการทุจริตของเวียดนามเข้มงวดขึ้น ปัจจุบัน นักลงทุนต่างชาติเชื่อว่าเวียดนามกำลังมุ่งมั่นที่จะผลักดันการต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น สร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่โปร่งใส และปราศจากการทุจริตและการรับเงินใต้โต๊ะ ส่วนนาย มีเกล์ จานโก ผู้เชี่ยวชาญด้านอาเซียนจาก องค์กรวิจัยเศรษฐศาสตร์ของอังกฤษได้กล่าวว่า "การลงทุนจากต่างประเทศยังคงอยู่ในระดับที่เข้มแข็งและมีเสถียรภาพอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2016 เมื่อท่านเลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ๋อง ได้ผลักดันการต่อต้านการทุจริต

ผลลัพธ์ในเชิงบวกและการชื่นชมของประชาคมระหว่างประเทศเป็นแรงจูงใจให้เวียดนามปฏิบัติภารกิจนี้ให้ดียิ่งขึ้นในอนาคตและมีส่วนร่วมอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในความพยายามของประชาคมระหว่างประเทศในการขจัดภัยทุจริตคอรัปชั่นในทั่วโลก.

คำติชม