 เลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม ได้พบปะกับตัวแทนของเครือข่ายนวัตกรรมเวียดนามและผู้เชี่ยวชาญชาวเวียดนามที่อาศัยในประเทศสาธารณรัฐเกาหลี |
ปัจจุบันนี้ มีการจัดตั้งเครือข่ายนวัตกรรมเวียดนามใน 22 ประเทศและดินแดน โดยมีสมาชิกที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ นักวิทยาศาสตร์ หัวหน้าวิศวกรและสถาปนิกในอุตสาหกรรมที่สำคัญๆ กว่า 2,000 คน ซึ่งเป็นกองกำลังที่ยิ่งใหญ่และมีส่วนร่วมต่อภารกิจการก้าวสู่การเป็นประเทศพัฒนาในปี 2045 ของเวียดนามให้กลายเป็นความจริง
ยืนยันปัญญาชนเป็นทรัพสินของประเทศ
ผู้นำพรรคและรัฐเวียดนามได้ยืนยันหลายครั้งว่า วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมไม่เพียงแต่เป็นกุญแจแห่งการพัฒนาเท่านั้น หากยังเป็นภารกิจที่สำคัญเพื่อสร้างสรรค์อนาคตของเวียดนาม บนเจตนารมณ์ดังกล่าว เวียดนามได้ปฏิบัติก้าวกระโดดต่างๆ ทั้งกลไก ความคิดในการบริหารและวิธีการดำเนินงาน โดยกำหนดว่า แถวขบวนปัญญาชน ผู้เชี่ยวชาญและนักวิทยาศาสตร์ทั้งภายในและต่างประเทศเป็นแกนหลักเพื่อสร้างสรรค์ระบบนิเวศที่เปลี่ยนแปลงใหม่อย่างรอบด้านและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ดังนั้น ในการเยือนต่างประเทศครั้งต่างๆ ผู้นำพรรคและรัฐเวียดนามต่างส่งเสริมสารนี้อย่างเข้มแข็ง เลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม ย้ำว่า
“โลกกำลังอยู่ในระยะการเปลี่ยนแปลงใหม่แห่งยุคสมัยด้วยการพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ภูมิปัญญาของมนุษย์และอารยธรรมของโลกอย่างเข้มแข็ง โดยปัญญาชนและนักวิทยาศาสตร์มีบทบาทสำคัญพิเศษ ซึ่งไม่เพียงแต่วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมช่วยเพิ่มผลิตภาพแรงงานเท่านั้น หากยังเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่การขยายตัวและเป็นปัจจัยชั้นนำในการพัฒนาอย่างรวดเร็วและยั่งยืนของเวียดนาม”
วันที่ 10 สิงหาคม หลังจากที่เดินทางถึงกรุงโซล เลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม ได้พบปะกับตัวแทนของเครือข่ายนวัตกรมเวียดนามและผู้เชี่ยวชาญชาวเวียดนามที่อาศัยในสาธารณรัฐเกาหลี โดยยืนยันอีกครั้งถึงปัจจัยชี้ขาดในความสำเร็จของการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ นำเวียดนามเข้าสู่ศักราชแห่งการผงาดคือแหล่งบุคลากรที่มีคุณภาพสูงและการร่วมแรงร่วมใจของแถวปัญญาชน ผู้เชี่ยวชาญและนักธุรกิจทั้งภายในและต่างประเทศ โดยกล่าวว่า
“เครือข่ายนวัตกรรมเวียดนาม ณ สาธารณเกาหลีได้ส่งเสริมบทบาทการเป็นสะพานเชื่อมที่สำคัญระหว่างระบบนิเวศนวัตกรรมและเปลี่ยนแปลงใหม่ภายในประเทศกับโลก ส่งเสริมการเชื่อมโยงกับผู้เชี่ยวชาญ ปัญญาชนและนักธุรกิจเวียดนามในสาธารณรัฐเกาหลีกับสำนักงาน องค์กรและสถานประกอบการภายในประเทศ เป็นฝ่ายรุกในการแนะแนวความคิดริเริ่มเปลี่ยนแปลงใหม่นวัตกรรมต่างๆ ผลักดันการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์เพื่อนำความดีเลิศและความก้าวหน้าของโลกมาเผยแพร่ในเวียดนาม ควบคู่กันนั้น ต้องส่งเสริมจิตใจแห่งความสามัคคี การช่วยเหลือจุนเจือกันเพื่อสร้างความเป็นเอกภาพ มีส่วนร่วมต่อการพัฒนาของประเทศ”
 เลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม ในการพบปะกับปัญาชนชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศในกรอบการเยือนประเทศสิงคโปร์เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา |
เดินพร้อมกับการพัฒนาของประเทศ
การพบปะกับนักวิทยาศาสตร์และปัญญาชนชั้นนำ ณ สาธารณรัฐเกาหลี สหรัฐ สิงคโปร์ ฝรั่งเศสและอีกหลายประเทศของเลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม และผู้นำระดับสูงของเวียดนามในเวลาที่ผ่านมาถือเป็นคำยืนยันถึงความตั้งใจอันแน่วแน่และความคาดหวังเกี่ยวกับอนาคตอันใกล้นี้คือ เวียดนามจะกลายเป็นประเทศที่เข้มแข็งในด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี กิจกรรมต่างๆ เช่น พิธีมอบรางวัล VinFuture และข้อตกลงที่ได้ลงนามกับเครือบริษัทวิทยาศาสตร์ชั้นนำกำลังเปิดโอกาสที่ยิ่งใหญ่ให้แก่เวียดนามและสร้างความเชื่อมั่นต่ออนาคตที่สดใส รองศ.ดร. บุ่ยก๊วกบ๋าว ชาวเวียดนามที่อาศัยในประเทศฝรั่งเศสแสดงความคิดเห็นว่า
“หวังว่า ผมเองก็สามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาของเวียดนาม เวียดนามกำลังพัฒนา จึงต้องการเรียนรู้จากประเทศที่ทันสมัย รวมไปถึงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี หวังว่าผมจะมีส่วนช่วยเชื่อมโยงปัญญาชนเวียดนามกับต่างประเทศ นำความรู้ที่ตนได้ศึกษาในต่างประเทศมาเวียดนามเพื่อถ่ายทอดให้แก่คนรุ่นใหม่”
ในความเป็นจริง ในเวลาที่ผ่านมา กองทุน VinFuture สามารถดึงดูดนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของโลกมาเวียดนามนับร้อยคน โดยมหาวิทยาลัยต่างๆ เช่น เวียดนาม - เยอรมนี เวียดนาม - ญี่ปุ่น มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮานอยได้ร่วมมือกับรัฐบาลฝรั่งเศสฝึกอบรมวิศวกรและดอกเตอร์ที่มีทักษะความสามารถสูงนับพันคน ส่วนศูนย์นวัตกรรมแห่งชาติก็มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงสถานประกอบการเวียดนามกับเครือบริษัทชั้นนำของโลก ซึ่งรูปแบบเหล่านี้ต่างสะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมืออย่างเปิดเผยและการปฏิบัติอย่างจริงใจในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมตามจิตใจของมติ 57 ของกรมการเมืองเกี่ยวกับก้าวกระโดดในการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรมและการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลแห่งชาติ
การนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นพลังขับเคลื่อนอย่างก้าวกระโดดในการพัฒนาไม่เพียงแต่เป็นเป้าหมายเท่านั้น หากยังเป็นยุทธศาสตร์หลักของเวียดนามอีกด้วย โดยการเชื่อมโยงและส่งเสริมศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ของแถวขบวนปัญญาชน ผู้เชี่ยวชาญทั้งภายในและต่างประเทศถือเป็นนโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายเพื่อปฏิบัติความคาดหวังเกี่ยวกับการพัฒนาประเทศเวียดนามอย่างรวดเร็ว เข้มแข็ง ครอบคลุมและเป็นฝ่ายรุก.