การปฏิบัติภารกิจของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ก็เพื่อปฏิบัติแนวทางการต่างประเทศของเวียดนาม เป็นกิจกรรมที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่และเป้าหมายต่างๆที่ถูกระบุในมติที่ 59 ของกรมการเมืองพรรคฯเกี่ยวกับการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกในสถานการณ์ใหม่ ดังนั้น การปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง มีความหมายสำคัญพิเศษทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี
เสริมสร้างความร่วมมือกับภูมิภาคลาตินอเมริกา
นี่เป็นครั้งแรกที่เวียดนามเข้าร่วมการประชุมสุดยอด BRICS ขยายวงในฐานะเป็นประเทศหุ้นส่วน ซึ่งจะช่วยให้เวียดนามมีอีกเวทีเพื่อแลกเปลี่ยนจุดยืนและประสบการณ์และร่วมกันแก้ไขปัญหาระดับโลก โดยเฉพาะปัญหาที่เกี่ยวข้องถึงการพัฒนาเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและความมั่นคงระหว่างประเทศ
สำหรับหัวข้อของการประชุมครั้งนี้คือ “เสริมสร้างความร่วมมือซีกโลกใต้เพื่อการสร้างธรรมาภิบาลที่ครอบคลุมและยั่งยืนยิ่งขึ้น” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม เหงวียนมิงหั่ง ได้ยืนยันว่า
“นี่เป็นหัวข้อที่ตอบสนองผลประโยชน์ของประเทศที่กำลังพัฒนาในระยะปัจจุบัน ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีจะร่วมกับบรรดาผู้นำประเทศ BRICS ประเทศหุ้นส่วนและประเทศรับเชิญหารือเกี่ยวกับมาตรการส่งเสริมความร่วมมือและความสามัคคีระหว่างประเทศ ผลักดันความร่วมมือซีกโลกใต้เพื่อสร้างสรรค์ระบบธรรมาภิบาลโลกที่โปร่งใส ครอบคลุม ยั่งยืนและตอบสนองผลประโยชน์ของประเทศต่างๆ โดยเพาะประเทศที่กำลังพัฒนา”
การเข้าร่วมการประชุม BRICS ขยายวงครั้งนี้ยังช่วยให้เวียดนามขยายความร่วมมือกับบรรดาประเทศสมาชิก BRICS ประเทศต่างๆ โดยเฉพาะตลาดอเมริกาใต้ที่มีศักยภาพ โดยในพิธีเปิดสำนักงานผู้ช่วยทูตฝ่ายอุตสาหกรรมและการเกษตรของสถานทูตอาร์เจนตินาประจำกรุงฮานอยเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา นาย Agustín Tejeda Rodriguez รองปลัดกระทรวงเศรษฐกิจอาร์เจนตินาที่ดูแลตลาดสินค้าการเกษตร อาหารและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกได้แสดงความประสงค์ที่จะผลักดันความร่วมมือกับเวียดนาม
“ความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างอาร์เจนตินากับเวียดนามในหลายปีที่ผ่านมาได้รับการผลักดันอย่างเข้มแข็ง และทั้งสองฝ่ายยังมีศักยภาพการพัฒนาอีกมาก ดังนั้น อาร์เจนตินามีความประสงค์ที่จะร่วมมือกับเวียดนามเพื่อลดอุปสรรคด้านการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ”
ความหมายที่สำคัญในระดับทวิภาคี
ในระดับทวิภาคี ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับบราซิลกำลังพัฒนาอย่างดีงามในกรอบหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ นี่เป็นการปฏิบัติภารกิจที่บราซิลครั้งแรกของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง นับตั้งแต่ที่ทั้งสองประเทศยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2024 และเป็นการปฏิบัติภารกิจของนายกรัฐมนตรีเวียดนามเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันที่บราซิล ซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในลาตินอเมริกาและติดท็อป 3 ในทวีปอเมริกา
การเยือนครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง จะมีส่วนร่วมปฏิบัติและส่งเสริมผลงานที่มีประสิทธิภาพและจริงจังในด้านการค้า การเกษตร การลงทุน ความร่วมมือในด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาประเทศ รัฐมนตรีช่วย เหงวียนมิงหั่ง ได้ยืนยันว่า
“การเยือนครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมผลงานที่เป็นรูปธรรมต่างๆเกี่ยวกับการเปิดตลาดสำหรับสินค้าของทั้งสองฝ่าย นี่เป็นผลงานที่สำคัญในสภาวการณ์ที่เวียดนามกำลังเพิ่มความหลากหลายของตลาด ผลิตภัณฑ์และห่วงโซ่อุปทาน บราซิลเป็นตลาดใหญ่สำหรับสินค้าการส่งออกของเวียดนาม ซึ่งผลงานที่จะได้รับการส่งเสริมในครั้งนี้จะมีส่วนร่วมเพิ่มความหลากหลายของตลาดในสภาวการณ์ที่การค้าโลกมีความผันผวนที่ซับซ้อนในปัจจุบัน”
ในสภาวการณ์นี้ การปฏิบัติภารกิจของนายกรัฐมนตรีเวียดนามจะมีส่วนช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์กับบราซิล รวมทั้งความสัมพันธ์กับตลาดที่มีศักยภาพสูงในภูมิภาคลาตินอเมริกาและ แคริบเบียน การปฏิบัติภารกิจของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง จะช่วยยกระดับบทบาทและสถานะของเวียดนามในฟอรั่มพหุภาคี เป็นการยืนยันว่า เวียดนามเป็นเพื่อน เป็นหุ้นส่วนที่น่าชื่อถือของประเทศต่างๆในโลก.