นาย ฝ่ามบิ่งมิงห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม (Photo Chinhphu.vn) |
เวียดนามกำหนดหน้าที่ในวาระที่ดำรงตำแหน่งสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2020-2021 คือ ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการปฏิบัติกฎบัตรสหประชาชาติ ยับยั้งการปะทะ ปกป้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะสตรีและเด็กที่อยู่อาศัยในเขตที่เกิดการปะทะ
ผลักดันความร่วมมือพหุภาคี ธำรงสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ
ในเดือนแรกที่ดำรงตำแหน่งประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เวียดนามได้จัดการประชุมเปิดและการประชุมลับนับสิบนัดเพื่อหารือปัญหาระดับภูมิภาคและโลก เช่น สถานการณ์มนุษยธรรมในซีเรีย ตะวันออกกลาง เยเมน สถานการณ์การเมืองและความมั่นคงในประเทศมาลี เป็นต้น ซึ่งมีส่วนร่วมผลักดันบทบาทของกฎหมายสากลเพื่อโลกที่มีสันติภาพ ยุติธรรมและดีขึ้น
สิ่งที่น่าสนใจคือ ข้อเสนอของเวียดนามเกี่ยวกับการจัดการหารือเปิดเมื่อวันที่ 9 มกราคมเพื่อผลักดันการบังคับใช้กฎบัตรสหประชาชาติได้รับเสียงสนับสนุนข้างมากจากบรรดาสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งประเด็นที่ร้อนระอุนี้มีความหมายเป็นรูปธรรมและมีส่วนร่วมเพื่อยืนยันอีกครั้งถึงบทบาทสำคัญของกฎบัตรสหประชาชาติ ความร่วมมือพหุภาคีในการธำรงสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ โดยเฉพาะนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสหประชาชาติ ซึ่งที่ประชุมสามารถออกแถลงการณ์เกี่ยวกับกฎบัตรสหประชาชาติ นาย ฝ่ามบิ่งมิงห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้เผยว่า “ในฐานะประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ในสองสามวันแรก เวียดนามได้รับคำชื่นชมผ่านความสามารถและความรับผิดชอบ ซึ่งสิ่งที่น่ายินดีและไม่น่าแปลกใจคือ ในการประชุมเปิดครั้งนี้ที่เวียดนามเสนอ มี 110 ประเทศเข้าร่วม ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสูง นี่แสดงให้เห็นว่า ข้อเสนอของเวียดนามมีความเหมาะสมกับสถานการณ์และเวลา โดยทุกประเทศต่างเห็นว่า นี่คือช่วงเวลาที่ต้องยกระดับบทบาทและความสำคัญของกฎบัตรสหประชาชาติ นอกจากนี้ก็สามารถเห็นได้ว่า เวียดนามได้เดินถูกทิศทางและค้ำประกันผลประโยชน์ของทุกประเทศ จึงได้รับความสนใจจากทุกประเทศ”
ให้ความสำคัญต่อความเชื่อมโยงระหว่างอาเซียนกับสหประชาชาติ
สิ่งที่น่าสนใจในเดือนที่เวียดนามดำรงตำแหน่งประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติคือการจัดการประชุมเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับสหประชาชาติในการธำรงสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ โดยนี่เป็นครั้งแรกที่เนื้อหานี้ได้รับการหารือในการประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เวียดนามได้ปฏิบัติหน้าที่ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติพร้อมกับประธานอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ฝ่ามบิ่งมิงห์เผยต่อไปว่า “โชคดีที่ในเดือนมกราคมเวียดนามดำรงทั้งตำแหน่งประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและประธานหมุนเวียนอาเซียน จึงได้เสนอข้อมูลเกี่ยวกับอาเซียนต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อขยายความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและองค์กรอื่นๆของสหประชาชาติ นับเป็นครั้งแรกที่เวียดนามยื่นข้อเสนอนี้ในฐานะประธานอาเซียน 2020 และก็เป็นครั้งแรกที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหารือเกี่ยวกับปัญหานี้ ซึ่งช่วยยกระดับบทบาทและภาพลักษณ์ของอาเซียนบนเวทีสหประชาชาติ”
ในขณะเดียวกัน เอกอัครราชทูต โงกวางซวน หัวหน้าคณะผู้แทนเวียดนามประจำสหประชาชาติวาระปี 1993-1999 และองค์การระหว่างประเทศ ณ เมืองเจนีวาในระหว่างปี 2002-2008 ได้แสดงความคิดเห็นว่า “การปฏิบัติหน้าที่นี้ได้ช่วยยกระดับบทบาทและชื่อเสียงของเวียดนาม เพิ่มความไว้วางใจของภูมิภาคและโลกต่อเวียดนาม สองคือ เวียดนามมีศักยภาพในการร่วมกับบรรดาประเทศสมาชิกอาเซียนและสมาชิกสหประชาชาติสร้างประสิทธิภาพในด้านต่างๆ เช่น สันติภาพ ความมั่นคง เศรษฐกิจ การค้าและสังคม
เวียดนามได้เสร็จสิ้นระเบียบวาระการประชุมในเดือนแรกที่ดำรงตำแหน่งประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2020-2021 จากผลงานที่น่ายินดีต่างๆ ซึ่งได้แสดงให้เห็นบทบาทการเป็นสมาชิกที่เข้มแข็ง มีความรับผิดชอบและปฏิบัติตามกฎบัตรสหประชาชาติ มีความประสงค์สร้างสรรค์โลกตามระเบียบและกฎหมายสากล แก้ไขการปะทะและการพิพาทด้วยสันติวิธี ผลักดันความร่วมมือพหุภาคีและการเชื่อมโยงระหว่างอาเซียนกับสหประชาชาติ.