เวียดนามมีส่วนร่วมที่เข้มแข็งในการสนทนาแชงกรีลา 2019

Huyen
Chia sẻ
(VOVWORLD) - การสนทนาแชงกรีลา 2019 ฟอรั่มด้านความมั่นคงที่สำคัญที่สุดของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกได้เสร็จสิ้นลงหลังประชุมเป็นเวลา 3 วัน ณ ประเทศสิงคโปร์ นี่เป็นโอกาสเพื่อให้ฝ่ายต่างๆแสดงทัศนะและท่าทีต่อปัญหาที่ร้อนระอุในปัจจุบัน เช่น ระเบียบด้านความมั่นคงที่กำลังเปลี่ยนแปลงในเอเชีย การแข่งขันเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศมหาอำนาจและความมั่นคงทางทะเล ซึ่งในการสนทนาแชงกรีลาปีนี้ เวียดนามได้มีส่วนร่วมที่เข้มแข็ง เชิดชูหลักการสันติภาพและแสดงทัศนะที่ชัดเจนเพื่อแก้ไขปัญหาการพิพาทต่างๆ
เวียดนามมีส่วนร่วมที่เข้มแข็งในการสนทนาแชงกรีลา 2019 - ảnh 1รัฐมนตรี โงซวนหลิกกล่าวปราศรัยต่อการสนทนา (VNA) 

นี่เป็นครั้งแรกที่การสนทนาแชงกรีลามีผู้แทนเข้าร่วมมากที่สุด โดยมีคณะผู้แทนของรัฐบาลจาก 57 ประเทศและดินแดน รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรี ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการชั้นนำในภูมิภาค 28 คนเข้าร่วม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการให้ความสนใจเป็นพิเศษของประเทศต่างๆต่อสันติภาพ เสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาค

ปัญหาความท้าทายต่างๆ

ในภาพรวมความมั่นคงโลกและภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกในเวลาที่ผ่านมา สามารถเห็นได้ว่า มีปัญหาความท้าทายต่างๆที่ซับซ้อน การแข่งขันที่นับวันรุนแรงมากขึ้นทั้งในระดับภูมิภาคและโลก ปัญหาความขัดแย้งในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะในด้านการเมือง การทูต เศรษฐกิจ การค้า ทรัพยากร สิ่งแวดล้อม อธิปไตย ทะเลและเกาะแก่ง ความมั่นคงทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งเกี่ยวข้องกับปัญหาความมั่นคงทั้งแบบใหม่และแบบเก่า

ในสถานการณ์ที่เป็นจริง ปัญหาการพิพาทด้านการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีที่เกี่ยวข้องกับปัญหาการปลอดนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี ความท้าทายด้านความมั่นคงในทะเลตะวันออก ล้วนเป็นประเด็นร้อนในการสนทนาครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ฝ่ายต่างๆจะมีคำประกาศที่แข็งกร้าว แต่ต่างก็ยอมรับว่า การป้องกันการปะทะจะไม่เพียงแต่เอื้อประโยชน์ต่อฝ่ายต่างๆเท่านั้น หากยังเอื้อประโยชน์ต่อภูมิภาคและโลกอีกด้วย โดยในการประชุมในหัวข้อ “การแก้ไขปัญหาการพิพาทท่ามกลางบรรยากาศแห่งสันติภาพบนเจตนารมณ์แห่งการเป็นหุ้นส่วนและความรับผิดชอบต่อชุมชน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจีน เว่ย เฟิ่ง เหอได้ยืนยันอีกครั้งถึงความสำคัญของการธำรงการติดต่อและการพัฒนาความสัมพันธ์ด้านกลาโหมในเชิงสร้างสรรค์กับสหรัฐ ส่วนรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ Patrick Shanahan ได้ย้ำถึงความจำเป็นของการสนทนาและการปรับปรุงความสัมพันธ์กับจีนบนพื้นฐานของการให้ความเคารพอธิปไตยและเอกราชของทุกประเทศ

นอกจากนี้ บทวิเคราะห์ของผู้แทนหลายคนในการสนทนาแชงกรีลา ครั้งนี้ต่างยืนยันว่า การปฏิบัติของประเทศมหาอำนาจมีบทบาทที่สำคัญเพราะถ้าเกิดการปะทะก็จะไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบในทางลบต่อประเทศที่เกี่ยวข้องเท่านั้น หากยังส่งผลกระทบในทางลบต่อทั้งภูมิภาคและโลกอีกด้วย ดังนั้น ต้องแก้ไขปัญหาการพิพาทผ่านบรรยากาศที่สันติและการสนทนา

เวียดนามส่งสาส์นที่เชิดชูเจตนารมณ์แห่งการสนทนาอย่างสันติ

บนเจตนารมณ์ดังกล่าว ในการการสนทนาแชงกรีลาครั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเวียดนามโงซวนหลิกได้ส่งสาส์น์ที่เข้มแข็งว่า การสนทนาแชงกรีลาต้องสร้างบรรยากาศแห่งการสนทนาที่มีความรับผิดชอบต่อชุมชนและต้องยืดหลักเจตนารมณ์แห่งการเป็นหุ้นส่วนถึงจะสามารถแก้ไขปัญหาการพิพาทได้

ในทางเป็นจริง คำประกาศและส่วนร่วมของเวียดนามในการสนทนาแชงกรีลาครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่เมื่อเทียบกับทัศนะของเวียดนามต่อปัญหาความมั่นคงในเวลาที่ผ่านมาและยังสอดคล้องกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนในปัจจุบัน โดยเฉพาะความท้าทายด้านความมั่นคงในทะเลตะวันออก นั่นคือแม้จะมีความแตกต่างด้านผลประโยชน์ แต่ถ้าหากทุกประเทศต่างถือสันติภาพและเสถียรภาพเหนือกว่าสิ่งอื่นใดก็จะนำไปสู่ความร่วมมือ การแสวงหามาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาความแตกต่างและการพิพาทท่ามกลางบรรยากาศแห่งสันติภาพ การประสานงานเพื่อบริหารความไร้เสถียรภาพ ป้องกันปัญหาต่างๆที่อาจทำให้เกิดการปะทะและสงคราม นี่เป็นกระบวนการที่ยาวนานและซับซ้อน ซึ่งต้องการความมุ่งมั่นทางการเมืองในระดับสูงและความร่วมแรงร่วมใจในการปฏิบัติของทุกประเทศ

ในการสนทนาครั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมโงซวนหลิกได้กล่าวถึงการที่เวียดนามจะปฏิบัติหน้าที่ประธานอาเซียนในปี 2020 โดยจะมีกิจกรรมด้านกลาโหมต่างๆในกรอบการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียนและ 8 ประเทศหุ้นส่วน คาดว่า จะมีการออกแถลงการณ์ฮานอยของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียนเกี่ยวกับการยกระดับประสิทธิภาพความร่วมมือด้านกลาโหม การเสริมสร้างความสามัคคีและความเป็นเอกภาพของอาเซียนเพื่อรับมือความท้าทายในภูมิภาค นอกจากนี้ เวียดนามจะเสนอวิสัยทัศน์เอเชีย-แปซิฟิกในกรอบความร่วมมือด้านกลาโหมอาเซียนขยายวงที่ระบุถึงปัญหาความมั่นคงในช่วงปี 2010-2020และในอีก 10ปีข้างหน้า ซึ่งถือเป็นก้าวเดินที่เป็นรูปธรรมเพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการสนทนาแชงกรีลาครั้งนี้ให้ดำเนินไปอย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพในภูมิภาค.

คำติชม