เวียดนามพร้อมร่วมมืออย่างเข้มแข็ง เท่าเทียมเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน

Lai Hoa
Chia sẻ
(VOVWORLD) - นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เพิ่งเสร็จสิ้นการเยือนคูเวต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนแอลจีเรียอย่างเป็นทางการ  เข้าร่วมการประชุมสุดยอด G20 ปี 2025 และกิจกรรมทวิภาคีในแอฟริกาใต้ การปฏิบัติภารกิจของนายกรัฐมนตรีได้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม โดยยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับคูเวต แอลจีเรียและแอฟริกาใต้ ยืนยันถึงบทบาทและชื่อเสียงของเวียดนามในการประชุม G20 ย้ำถึงสารของเวียดนามเกี่ยวกับความพร้อมที่จะร่วมมือกับประเทศต่างๆ อย่างเข้มแข็ง เท่าเทียมเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน
เวียดนามพร้อมร่วมมืออย่างเข้มแข็ง เท่าเทียมเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน - ảnh 1นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง กล่าวสุนทรพจน์ที่ประชุมสุดยอด G20 ปี 2025

 

ในกรอบการปฏิบัติภารกิจเป็นเวลา 9 วัน นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เข้าร่วมเกือบ 70 กิจกรรมเพื่อส่งเสริมความร่วมมือทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี

เสียงพูดของประเทศกำลังพัฒนา

ผลงานสำคัญของการปฏิบัติภารกิจของนายกรัฐมนตรีคือการมีส่วนร่วมในเชิงรุกและกระตือรือร้นของคณะผู้แทนเวียดนามในการประชุมสุดยอด G20

ในการประชุมฯ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้กล่าวสุนทรพจน์สำคัญ โดยกล่าวถึงประเด็นสำคัญที่กลุ่ม G20 กำลังให้ความสนใจในสภาวการณ์ปัจจุบันและเสนอมาตรการส่งเสริมการเติบโต โดยย้ำว่า กลุ่ม G20 จำเป็นต้องเป็นผู้เดินหน้าในการสร้างกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศที่ให้ความเคารพกัน แสวงหามาตรการเพื่อแก้ไขการปะทะ และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้แก่การพัฒนา

บทสุนทรพจน์ของนายกรัฐมนตรีได้รับการชื่นชมและความเห็นพ้องจากหลายประเทศ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เลหว่ายจุง เผยว่า

“สารของเวียดนามได้รับการชื่นชมเป็นอย่างสูงจากนานาประเทศ เนื่องจากเวียดนามได้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาอย่างยั่งยืนและครอบคลุม การสร้างงานทำและมีศักยภาพที่เกี่ยวข้องกับแร่ธาตุ รวมทั้งแร่ธาตุหายาก มีสถานะและบทบาทสำคัญ ส่วนสำหรับมาตรการที่นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เสนอในการประชุม G20 คือการส่งเสริมงความสามัคคี ความร่วมมือ เสริมสร้างกลไกที่มีอยู่ และมาตรการปฏิรูปเพื่อค้ำประกันสันติภาพและการพัฒนาที่ยั่งยืน”

นายกรัฐมนตรีได้พบปะหารือกับผู้นำประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ 30 แห่งนอกรอบการประชุมสุดยอด G20 เกี่ยวกับแนวทางและสถานการณ์การพัฒนาในปัจจุบันของเวียดนาม ความพยายามและความสำเร็จของเวียดนามในการปรับปรุงกลไก นโยบายให้มีความสมบูรณ์ โดยเวียดนามได้ย้ำถึงความพร้อมที่จะเข้าร่วมและมีส่วนร่วมต่อโครงการริเริ่มระดับโลก ไม่เพียงแต่ในฐานะ “ผู้ได้รับผลประโยชน์” เท่านั้น หากยังเป็นผู้ที่พร้อมจะร่วมมืออย่างเข้มแข็ง เท่าเทียม เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันกับทุกประเทศ

เวียดนามพร้อมร่วมมืออย่างเข้มแข็ง เท่าเทียมเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน - ảnh 2การประชุมสุดยอด G20 ปี 2025

เวียดนามยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับ 3 ประเทศในตะวันออกกลางและแอฟริกา

ในระดับทวิภาคี จุดเด่นของการปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีคือการที่เวียดนามได้ยกระดับความสัมพันธ์ให้เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับ 3 ประเทศ โดยคูเวต แอลจีเรียและแอฟริกาใต้ กลายเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ 3 ประเทศแรกของเวียดนามในตะวันออกกลาง-แอฟริกา

ในประเทศคูเวต นายกรัฐมนตรีฝ่มมิงชิ้งและบรรดาผู้นำคูเวตได้ออกแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการสถานปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ โดยย้ำว่า พลังงานเป็นด้านร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการส่งเสริมความร่วมมือที่ลึกซึ้งมากขึ้นในด้านการสำรวจและขุดเจาะปิโตรเลียม อุตสาหกรรมปิโตรเคมี และพลังงานหมุนเวียน นาย ทาริก สุไลมาน อัล-รูมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันคูเวตยืนยันว่า

“กระทรวงน้ำมันคูเวตจะทำงานร่วมกับกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ ของเวียดนามเพื่อแปรแผนปฏิบัติการของกรอบความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-คูเวตให้เป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ ซึ่งนอกจากการแก้ไขอุปสรรคต่างๆ แล้ว ทางกระทรวงฯ จะเสนอแนวทางและสร้างแรงผลักดันใหม่ๆ ในความร่วมมือและการลงทุน ในอนาคตอันใกล้ ด้วยกรอบความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนระหว่างเวียดนาม-คูเวต โดยเฉพาะในด้านพลังงานจะมีก้าวพัฒนาอย่างเข้มแข็ง”

ส่วนการสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-แอลจีเรียได้เปิดพื้นที่ความร่วมมืออย่างกว้างขวางในทุกด้าน  นายกรัฐมนตรีแอลจีเรีย ซิฟี กรีบ ประเมินว่า

“การเยือนแอลจีเรียของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง มีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงกรอบทางนิตินัยด้านความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้มีความสมบูรณ์ ด้วยการลงนามเอกสารความร่วมมือที่สำคัญหลายฉบับในด้านการค้า ที่อยู่อาศัยและการเงิน การพบปะหารือต่างๆได้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ทวิภาคี และเสริมสร้างจิตใจแห่งความสามัคคีระหว่างประชาชนสองประเทศในการรับมือภัยคุกคามด้านความมั่นคงทั้งแบบดั้งเดิมและแบบใหม่”

ในขณะเดียวกัน ที่ประเทศแอฟริกาใต้ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง และประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ซีริล รามาโฟซา ได้ประกาศยกระดับความสัมพันธ์เวียดนาม-แอฟริกาใต้ให้เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ซึ่งถือเป็นตัวอย่างของความร่วมมือระหว่างประเทศทางตอนใต้ โดยทั้งสองฝ่ายยังยืนยันถึงคำมั่นในการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน ซึ่งถือเป็นเสาหลักของความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ส่งเสริมการเปิดตลาดสินค้าระหว่างกัน และมุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนให้ถึง 4-5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในอีก 2-3 ปีข้างหน้า

ทั้งนี้ ผลการปฏิบัติภารกิจของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ณ คูเวต แอลจีเรียและการเข้าร่วมกิจกรรมทวิภาคีในแอฟริกาใต้ รวมถึงการเข้าร่วมการประชุมสุดยอด G20 มีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเปิดโอกาสเพื่อให้เวียดนามแปรความมุ่งมั่นอันแรงกล้าในการพัฒนาของประชาชาติ และดึงดูดแหล่งพลังระหว่างประเทศอย่างเต็มที่เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาประเทศในศักราชใหม่.

คำติชม