รองนายกรัฐมนตรี เจิ่นลิวกวาง

ด้วยความมุ่งมั่นเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องและข้อจำกัดตามข้อเสนอแนะของ EC เพื่อบรรลุเป้าหมายในการยกเลิก “ใบเหลือง” ท้องถิ่นที่มีชายฝั่งทะเลของเวียดนามได้ประกาศใช้แผนปฏิบัติการตามมติที่ 81 ของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมาย ไม่รายงานและไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด โดยเน้นบริหารเรือประมง เฝ้าติดตาม ตรวจสอบและควบคุมกิจกรรมของเรือประมง

ความพยายามจากท้องถิ่น

จังหวัดเกียนยางซึ่งเป็นจังหวัดที่มีเรือประมงมากที่สุดของประเทศ คือ 9,800 ลำ ได้ออกหนังสือขอความร่วมมือให้เจ้าของเรือประมงและเจ้าของสถานประกอบการและแปรรูปสัตว์น้ำ ลูกเรือและชาวประมงในท้องถิ่นได้สนับสนุนการต่อต้านการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ไม่รายงานและไม่ปฏิบัติตามขอเสนอของ EC อย่างเข้มแข็ง โดยในท่าเรือประมง 2 แห่งในท้องถิ่น กองกำลังที่เกี่ยวข้องผลักดันการบริหารเรือประมงเข้าออกท่าเรืออย่างเข้มงวด ไม่ให้เรือออกทะเลทำประมงถ้าหากไม่มีเอกสารตามข้อกำหนดและอุปกรณ์ติดตามการเดินเรือ สภาประชาชนจังหวัดฯได้ประกาศใช้มติเกี่ยวกับการสนับสนุนค่าเช่าอุปกรณ์ติดตามเรือประมง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในความพยายามและความมุ่งมั่นของจังหวัดฯในการป้องกันและลดสถานการณ์เรือประมงที่ละเมิดเขตน่านน้ำต่างประเทศ ช่วยเหลือชาวประมงออกทะเลจับปลา ในการกล่าวปราศรัยในโอกาสลงพื้นที่ตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อเสนอแนะของ EC ในจังหวัดเกียนยางเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน รองนายกรัฐมนตรี เจิ่นลิวกวาง ได้ประเมินว่า

“ผมรับทราบความพยายามเป็นอย่างสูงของทางการจังหวัดฯ ผมมีความประสงค์ว่า เหลือเวลาอีกประมาณ 3 เดือน ทางการจังหวัดฯและประชาชนจะพยายามเพื่อไม่ให้มีเรือถูกยึดเนื่องจากละเมินน่านน้ำของต่างชาติอีกต่อไป ถ้าหากท้องถิ่นต่างๆร่วมกันพยายาม ใบเหลืองก็น่าจะถูกยกเลิก”

ส่วนที่จังหวัดเบ๊นแจ กรมสัตว์น้ำของจังหวัดฯได้ประสานกับทหารชายแดนประจำจังหวัดฯเพื่อตรวจสอบระบบการเฝ้าติดตามการเดินเรือตลอด 24 ชั่วโมงของเรือประมงในจังหวัดฯ แจ้งให้เจ้าของเรือ ลูกเรือและทางการปกครองท้องถิ่นทราบเพื่อประสานงานในการแก้ไขปัญหาเรือขาดการติดต่อหรือข้ามเส้นแบ่งพรมแดนทางทะเลทันที ส่วนที่จังหวัดบ่าเหรียะหวุ่งเต่า จนถึงขณะนี้ จำนวนเรือประมงที่ติดตั้งอุปกรณ์ตรวจสอบการเดินเรืออยู่ที่ 2,631 ลำ บรรลุร้อยละ 95 ตามแผนการที่วางไว้ นาย หวิ่งเซินท้าย ผู้อำนวยการสำนักงานการเกษตรและพัฒนาชนบทจังหวัดบ่าเหรียะหวุงเต่า เผยว่า ทางการจังหวัดฯได้ตั้งจุดตรวจสอบทางทะเลระหว่างหน่วยงานต่างๆเพื่อตรวจสอบและควบคุมเรือประมง และระดมกองกำลังตรวจสอบเพื่อต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมาย ไม่รายงานและไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของ IUU

“ด้วยการยืนยันการรับรองแหล่งกำเนิดสัตว์น้ำตามข้อเสนอแนะของ EC ทางสำนักงานฯ ยังได้สั่งให้ตรวจสอบท่าเรือประมง สถานประกอบการจัดซื้อและแปรรูปสัตว์น้ำโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า เมื่อมีข้อสรุปเบื้องต้นจะให้คำปรึกษาแก่จังหวัดฯ เพื่อรายงานต่อกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทโดยเร็ว อีกทั้ง ให้คำปรึกษาแก่จังหวัดฯ เพื่อปรับปรุงคณะกรรมการชี้นำการต่อต้านการประมงที่ผิดกฎหมายโดยไม่รายงานให้มีความสมบูรณ์ จนถึงขณะนี้ ทางจังหวัดฯได้เพิ่มจุดตรวจชายฝั่งเพื่อเฝ้าติดตามการเดินเรือของเรือประมง”

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบท เลมิงฮวาน

ประชาสัมพันธ์เพื่อเปลี่ยนแปลงจิตสำนึกเกี่ยวกับการทำประมงอย่างยั่งยืน

ในการปล่อยแถวขบวนเจ้าหน้าที่เพื่อต่อต้านการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ไม่รายงานและไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด IUU ตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงปัจจุบัน กองกำลังทหารชายแดนทางทะเลของจังหวัดแทงฮว้าได้ประสานกับทางการปกครองท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดกิจกรรมปล่อยแถวขบวนเจ้าหน้าที่เพื่อประชาสัมพันธ์ ตรวจตราเรือประมงที่ทำประมงในเขตน้ำลึกนับร้อยครั้ง  ซึ่งมีส่วนร่วมเปลี่ยนแปลงจิตสำนึกการทำประมงของชาวประมง นาย โด๋ซวนเกื่อ ประธานคณะกรรมการประชาชนของแขวงหายแทง เมืองงีเซิน เผยว่า

“ในหลายปีที่ผ่านมา กองกำลังทหารชายแดนและคณะกรรมการบริหารท่าเรือประมงได้ร่วมมือเป็นอย่างดีกับแขวง ครอบครัวของเจ้าของเรือ ลูกเรือและเรือทุกลำเพื่อประชาสัมพันธ์และรณรงค์ให้ชาวประมงปฏิบัติตาม IUU อย่างเคร่งครัด เรือในแขวงหายแทงต่างให้คำมั่นที่จะไม่ทำประมงที่ผิดกฎหมาย”

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ในการประชุมกับหน่วยงานสัตว์น้ำเพื่อส่งเสริมแผนการต่อต้านการทำประมง IUU รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบท เลมิงฮวาน ได้ย้ำถึงบทบาทที่สำคัญของการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและการยกระดับจิตสำนึกให้แก่ชาวประมงเกี่ยวกับการทำประมงอย่างยั่งยืนในการปฏิบัติตามข้อเสนอแนะของ IUU ตามความเห็นของรัฐมนตรี เลมิงฮวาน การพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำมีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งสู่การลดการจับปลา ฟื้นฟูทรัพยากรและลดความขัดแย้งในกระบวนการปกป้องทรัพยากรสัตว์น้ำ ดังนั้น ต้องยึดมั่นพยายามประชาสัมพันธ์เพื่อเปลี่ยนแปลงจิตสำนึกของชาวประมงเกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและการปกป้องทรัพยากรสัตว์น้ำ  การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรในทะเลอย่างยั่งยืน อีกทั้ง ฝึกอบรมและให้ความรู้ทักษะความสามารถเกี่ยวกับการเปลี่ยนอาชีพและบทบาทของการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในการแก้ไขปัญหาการทำการประมง IUU ให้แก่ชาวประมง

“ต้องยืนหยัดประชาสัมพันธ์ ยกระดับจิตสำนึกให้แก่เกษตรกรและชาวประมง วิธีการเข้าถึงในขณะนี้คือตั้งแต่ระดับท้องถิ่นไปจนถึงส่วนกลาง ซึ่งเพื่อปฏิบัติเรื่องนี้ได้ ทางการปกครองท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและหน่วยงานสัตว์น้ำในท้องถิ่นต้องยกระดับจิตสำนึก ส่งเสริมความคล่องตัวของชุมชนในการประชาสัมพันธ์และยกระดับจิตสำนึกให้แก่ชาวประมงและเกษตรกร”

คาดว่า ในเดือนตุลาคมปีนี้ คณะตรวจสอบของคณะกรรมาธิการยุโรปจะเดินทางมาเวียดนามเพื่อทำการตรวจตราครั้งที่ 4 โดยการตรวจสอบครั้งนี้มีความสำคัญมากในกระบวนการยกเลิกใบเหลืองให้แก่หน่วยงานสัตว์น้ำเวียดนาม ดังนั้น กระทรวง หน่วยงาน ท้องถิ่นและชาวประมงซึ่งกำลังใช้ประโยชน์โดยตรงและทำการประมงในเขตทะเลของเวียดนามกำลังมุ่งมั่นปฏิบัติเพื่อปฏิบัติตามข้อเสนอ IUU ของ EC และมุ่งสู่อาชีพประมงที่พัฒนาอย่างยั่งยืน.