นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซูงะ โยชิฮิเดะ และภริยา นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกและภริยา |
เวียดนามและญี่ปุ่นได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อ 47 ปีก่อน ปัจจุบัน ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศกำลังอยู่ในระยะพัฒนาที่ดีงามที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งความไว้วางใจทางการเมืองระหว่างสองประเทศนับวันได้รับการเสริมสร้าง ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจมีความใกล้ชิดและการพบปะระดับประชาชนก็นับวันพัฒนากว้างขวางและเข้มแข็ง
เวียดนามคือหุ้นส่วนที่สำคัญในนโนบายด้านเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น
สำหรับด้านเศรษฐกิจ ปัจจุบัน ญี่ปุ่นเป็นผู้อุปถัมภ์เงินโอดีเอรายใหญ่ที่สุด เป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับ 2 และเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับที่ 4 ของเวียดนาม ในเวลาที่จะถึง รัฐบาลญี่ปุ่นจะผลักดันการปฏิบัติโครงการส่งเสริมให้สถานประกอบการขยายการลงทุนในการสร้างห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในเวียดนาม คาดว่า การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือเอฟดีไอจะเพิ่มสูงขึ้นทั้งในด้านการผลิตและการบริการเนื่องจากความต้องการและมาตรฐานการครองชีพของชาวเวียดนามเพิ่มขึ้น โดยการผลักดันการลงทุนในเวียดนามของเครื่องหมายการค้าใหญ่ เช่น Uniqlo และ Muji ถือเป็นการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน และการเยือนเวียดนามครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นจะเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อผลักดันกระแสการลงทุนจากญี่ปุ่นในเวียดนาม
ควบคู่กับศักยภาพการเพิ่มเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ปัจจุบัน ญี่ปุ่นเป็นตลาดส่งออกและนำเข้ารายใหญ่อันดับ 3 ของเวียดนาม ตามข้อมูลสถิติจากทบวงศุลกากร ใน 5 เดือนแรกของปีนี้ แม้จะเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด –19แต่มูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างสองประเทศยังคงเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นาย ต๋าดึ๊กมิง ผู้ช่วยทูตฝ่ายการพาณิชย์เวียดนามประจำญี่ปุ่นได้ให้ข้อสังเกตว่า
“ตลาดญี่ปุ่นเป็นตลาดส่งออกที่มีศักยภาพสำหรับสินค้าเวียดนาม ดังนั้น การผลักดันสินค้าส่งออกของเวียดนามจะมีโอกาสมากมาย ความต้องการใช้สินค้าของต่างประเทศ โดยเฉพาะ สินค้าเวียดนามของชาวญี่ปุ่นก็เพิ่มขึ้น เมื่อพวกเขามีความเชื่อมั่นต่อประเทศส่งออก พวกเขาก็อยากใช้ผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากประเทศเหล่านั้น”
งานเทศกาลดอกซากุระญี่ปุ่นฮานอย |
ผลักดันความสัมพันธ์มิตรภาพที่ใกล้ชิดแน่นแฟ้น
นอกจากการผลักดันการเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจ การขยายความร่วมมือในด้านวัฒนธรรม สังคม การพบปะระดับประชาชนก็จะมีส่วนร่วมที่สำคัญต่อการเชื่อมโยงระหว่างรัฐบาลและประชาชนทั้งสองประเทศ ซึ่งกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ เช่น งานเทศกาลดอกซากุระญี่ปุ่นฮานอย งานเทศกาลญี่ปุ่น-เวียดนามในนครโฮจิมินห์ การประกวดความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นและงานนิทรรศการแนะนำเอกลักษณ์วัฒนธรรมพื้นเมืองของญี่ปุ่นได้มีส่วนช่วยกระชับความสัมพันธ์มิตรภาพระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ ญี่ปุ่นกำลังผลักดันการช่วยเหลือเวียดนามในการอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมที่สำคัญ เช่น พระราชวังเว้และเขตโบราณสถานหว่างแถ่งทังลอง เป็นต้น สำหรับความร่วมมือด้านวัฒนธรรม การศึกษา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยียังมีโอกาสมากมายเพื่อพัฒนาในเวลาที่จะถึง เอกอัครราชทูต เหงวียนฟู้บิ่ง รองนายกสมาคมมิตรภาพเวียดนาม-ญี่ปุ่น อดีตเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำญี่ปุ่นได้ประเมินว่า การที่ผู้นำญี่ปุ่นเลือกเวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศแรกที่มาเยือนในวาระดำรงตำแหน่งของตนเป็นการแสดงให้เห็นว่า ผู้นำญี่ปุ่นให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์ร่วมมือกับเวียดนาม ซึ่งสร้างพื้นฐานให้แก่ระยะใหม่ของความร่วมมือระหว่างสองประเทศ
“ในเวลาที่ผ่านมา มีความท้าทายต่างๆทั้งภายในประเทศญี่ปุ่นและเศรษฐกิจโลกมีความผันผวนอย่างซับซ้อนแต่นโยบายของญี่ปุ่นต่อเวียดนามไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยยังคงมีความเสมอต้นเสมอปลายและนับวันใกล้ชิดกันมากขึ้น ผมเห็นว่า ความเสถียรภาพนี้มาจากการที่ผลประโยชน์ระหว่างสองประเทศมีความสอดคล้องกันและความไว้วางใจระหว่างประชาชนและผู้นำทั้งสองประเทศนับวันได้รับการเสริมสร้าง”
ผลความร่วมมือที่ทั้งสองประเทศได้บรรลุในเวลาที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่นได้กลายเป็นตัวอย่างให้แก่ความสัมพันธ์มิตรภาพเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน สร้างพื้นฐานให้แก่ความร่วมมือเพื่อเสถียรภาพและสันติภาพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และภูมิภาคที่ใหญ่กว่า ในสภาวการณ์ที่ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์อย่างกว้างลึกระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่นกำลังพัฒนาอย่างดีงามและจริงจังในหลายด้าน การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นพร้อมภริยาได้แสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจทางการเมืองระหว่างสองประเทศที่นับวันได้รับการเสริมสร้าง.