เวียดนามค้ำประกันสิทธิของประชาชนชนกลุ่มน้อยอยู่เสมอ

Vân
Chia sẻ
(VOVWORLD) - เวียดนามได้ประสบความสำเร็จในการชี้แจงรายงานแห่งชาติฉบับที่5เกี่ยวกับการปฏิบัติตามอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบ หรือ CERD ครั้งที่ 5 ในการประชุมคณะกรรมการ CERD ครั้งที่ 111 ณ เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในระหว่างวันที่ 29 -30 พฤศจิกายน โดยเฉพาะการค้ำประกันสิทธิของชนกลุ่มน้อย เช่น การแก้ปัญหาความยากจนและการค้ำประกันสวัสดิการสังคม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการให้ความสนใจและนโยบายด้านการลงทุนที่มีประสิทธิภาพของพรรคและรัฐในเขตชนกลุ่มน้อยเพื่อค้ำประกันสิทธิและผลประโยชน์ที่ชอบธรรมของประชาชนที่นี่

 

เวียดนามค้ำประกันสิทธิของประชาชนชนกลุ่มน้อยอยู่เสมอ - ảnh 1สิทธิของกลุ่มชาติพันธุ์เป็นหนึ่งในสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ (baodantoc.vn)

สิทธิของกลุ่มชาติพันธุ์เป็นหนึ่งในสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ซึ่งถูกระบุในเอกสารทางกฎหมายในกลุ่มสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองและเอื้อประโยชน์ให้แก่กลุ่มชาติพันธุ์ในทุกประเทศ โดยอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบ หรือ CERD เป็น 1 ใน 9 อนุสัญญาด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ซึ่งที่เวียดนาม สิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนชนกลุ่มน้อยได้รับความเคารพและปฏิบัติอย่างเป็นระบบ

การประเมินผลตามสถานการณ์จริง

ที่เวียดนาม พรรคและรัฐได้มีนโยบายแบบก้าวกระโดดเกี่ยวกับการพัฒนาเขตชนกลุ่มน้อยและเขตเขา โดยนอกจากประกาศใช้เอกสารกฎหมายและเอกสารแนะนำการปฏิบัติเพื่อค้ำประกันสิทธิมนุษยชนและสิทธิพลเมือง รวมถึงสิทธิของประชาชนชนกลุ่มน้อย เช่น การจัดงบประมาณ 4 หมื่น 1 พัน 5 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับโครงการลงทุนและช่วยเหลือการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในเขตชนกลุ่มน้อยและเขตเขาระยะปี 2016-2020 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เวียดนามมีโครงการเป้าหมายแห่งชาติเกี่ยวกับเขตชนกลุ่มน้อยและเขตเขา โดยในระยะปี 2021-2025 มีการจัดงบประมาณเกือบ 4.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับปฏิบัติ 10 โครงการด้านชนกลุ่มน้อยและปัจจุบัน ท้องถิ่นต่างๆกำลังปฏิบัติโครงการเหล่านี้และมีการผลักดันการเบิกจ่ายเงินลงทุน นาง กาวถิหนี เป็นครอบครัวมีฐานะยากจนที่หมู่บ้านสวยก๊า ตำบลแค้งจุง อำเภอแค้งหวิง จังหวัดแค้งหว่าได้เผยว่า

รัฐได้ช่วยเหลือที่อยู่อาศัยและการฝึกสอนอาชีพให้แก่ครอบครัวดิฉัน ซึ่งตอนนี้ ดิฉันได้เปิดร้านอาหารและมีรายได้ที่มั่นคงและพยายามหลุดพ้นจากความยากจน”

ส่วนครอบครัวนาย เซินเกื่อง ที่ ตำบลแถงเกว๊อ อำเภอหมีเซวียน จังหวัดซอกจังที่ได้รับเงินช่วยเหลือจากโครงการเป้าหมายแห่งชาติเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจในเขตชนกลุ่มน้อยและเขตเขา ได้เผยว่า

ครอบครัวผมขอขอบคุณรัฐที่ช่วยเหลือในการพัฒนาฝูงวัว เช่น การซื้ออุปกรณ์เพื่อตัดหญ้าเลี้ยงวัวและสนับสนุนวัวพันธุ์ 1 ตัว”

ส่วนสิทธิในการมีส่วนร่วมต่องานด้านการบริหารภาครัฐและสังคมของประชาชนชนกลุ่มน้อยได้รับการยกระดับ โดยมีผู้แทนสภาแห่งชาติสมัยที่ 15 ที่เป็นชนกลุ่มน้อย 89 คนจาก 499 คน ซึ่งสูงที่สุดเมื่อเทียบกับวาระก่อนๆ การศึกษาของประชาชนชนกลุ่มน้อยก็ได้รับการยกระดับประชาชนกลุ่มชาติพันธุ์ทั้งหมดและผู้ที่มีฐานะยากจนมีบัตรประกันสุขภาพ นอกจากนี้ ยังมีการมอบอำนาจและมีพัฒนาการในการดูแลสุขภาพให้แก่สตรีชนกลุ่มน้อย โดยที่จังหวัดยาลาย ก่อนหน้านั้น สตรีจะคลอดลูกที่บ้านและต้องเชิญหมอผีมาทำพิธีเซ่นไหว้เทวดาฟ้าดิน แต่ตอนนี้ สตรีกว่าร้อยละ 93 คลอดลูกที่สถานีอนามัย ส่วนชีวิตความเป็นอยู่ของชนกลุ่มน้อยก็ได้รับการยกระดับให้ดีขึ้น

การพัฒนาเขตชนกลุ่มน้อยคือนโยบายที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษของพรรคและรัฐ

เวียดนามได้มีพัฒนาการที่สำคัญในการส่งเสริมสิทธิของประชาชนชนกลุ่มน้อย โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมบริหารภาครัฐและสังคม การค้ำประกันสิทธิของชนกลุ่มน้อย เช่น การแก้ปัญหาความยากจนและการค้ำประกันสวัสดิการสังคม เป็นต้น ซึ่งเพื่อให้แนวทางและนโยบายของพรรคและรัฐเกี่ยวกับการพัฒนาเขตชนกลุ่มน้อยได้รับการปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพและกว้างขวาง รวมถึงในหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลความเจริญเพื่อให้ประชาชนชนกลุ่มน้อยได้รับประโยชน์และเป็นเป้าหมายของการปฏิบัติ นาย อีทง รัฐมนตรีช่วยและรองหัวหน้าคณะกรรมการชาติพันธุ์ได้เผยว่า

ทางคณะกรรมการฯกำลังวางแผนปฏิบัติโครงการเป้าหมายแห่งชาติเกี่ยวกับเขตชนกลุ่มน้อยและเขตเขา โดยเฉพาะ 10 โครงการด้านชนกลุ่มน้อยอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดทำร่างกฎหมายที่ดินเพื่อค้ำประกันที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยและที่ดินเพื่อทำเกษตรกรรมสำหรับชนกลุ่มน้อยที่มีฐานะยากจน”

เวียดนามมีกลุ่มชาติพันธุ์ รวม 54 เผ่า โดยเป็นชนกลุ่มน้อย 53 เผ่า รวมประชากรกว่า 14 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 14.68 ของประชากรทั่วประเทศ โดยหลังการปฏิบัติแนวทางการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศในตลอดเกือบ 40 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบัน เวียดนามยังคงค้ำประกันสิทธิและผลประโยชน์ของประชาชนทุกคน รวมถึงประชาชนชนกลุ่มน้อย อันเป็นการยืนยันถึงความสำเร็จของงานด้านสิทธิมนุษยชนและการค้ำประกันสิทธิของประชาชนชนกลุ่มน้อยและเป็นการพิสูจน์อย่างมีชีวิตชีวาเกี่ยวกับการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและสิทธิของประชาชนชนกลุ่มน้อยในเวียดนาม.

คำติชม