เปิดระยะใหม่ของความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับอียิปต์และแองโกลา

Anh Huyen- VOV5
Chia sẻ

(VOVWORLD) -ในระหว่างวันที่ 3 -9 สิงหาคม ประธานประเทศ เลืองเกื่อง พร้อมภริยาและคณะผู้แทนระดับสูงของเวียดนามจะเดินทางไปเยือนอียิปต์และแองโกลาอย่างเป็นทางการ ซึ่งการเยือนครั้งนี้มีความหมายที่สำคัญ เปิดระยะใหม่แห่งการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสองประเทศนี้

เปิดระยะใหม่ของความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับอียิปต์และแองโกลา - ảnh 1นาย ฟานฮวีหยุง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำอียิปต์

นี่เป็นการเยือนอียิปต์อย่างเป็นทางการครั้งแรกของประธานประเทศเวียดนามภายหลัง 7 ปีนับตั้งแต่ปี 2018 ส่วนสำหรับแองโกลา นี่เป็นเยือนระดับสูงสุดของผู้นำเวียดนามนับตั้งแต่ปี 2008 และมีขึ้นประจวบกับโอกาสที่ทั้งสองประเทศรำลึกครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต  ซึ่งผลงานต่างๆของการเยือนนี้จะเป็นแนวทางที่สำคัญ ส่งผลในระยะยาวต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีในเวลาที่จะถึง

สร้างก้าวกระโดด ยกระดับความสัมพันธ์เวียดนาม-อียิปต์

การเยือนอียิปต์อย่างเป็นทางการของประธานประเทศ เลืองเกื่อง ในระหว่างวันที่ 3 -6  สิงหาคม มีความหมายเชิงยุทธศาสตร์ ส่งผลในระยะยาวต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในสภาวการณ์ที่ทั้งสองประเทศกำลังย่างเข้าสู่ศักราชใหม่ ศักราชแห่งการพัฒนาใหม่ นาย ฟานฮวีหยุง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำอียิปต์ได้ย้ำว่า 

“การเยือนครั้งนี้ของประธานประเทศ เลืองเกื่อง เป็นกิจกรรมทางการเมืองการต่างประเทศที่สำคัญของทั้งสองประเทศและมีความหมายพิเศษ มีส่วนช่วยยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคี เสริมสร้างความไว้วางใจทางการเมือง กระชับความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านาน สร้างพลังขับเคลื่อน เปิดระยะแห่งความร่วมมือใหม่ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนระหว่างเวียดนามกับอียิปต์และประเทศในภูมิภาคแอฟริกา”

ในกรอบการเยือน ประธานประเทศ เลืองเกื่อง จะมีการเจรจากับประธานาธิบดีอียิปต์ อับดุล ฟัตตาห์ อัสซีซี และพบปะกับผู้นำต่างๆของอียิปต์ บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ทวิภาคีที่กำลังพัฒนาอย่างดีงาม คาดว่า ทั้งสองฝ่ายจะยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีขึ้นเป็นความเป็นหุ้นส่วนในทุกด้าน เปิดศักยภาพความร่วมมืออีกมาก โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ อียิปต์ก็เป็นตลาดที่สำคัญของเวียดนามในภูมิภาคแอฟริกาเหนือ โดยมูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างสองประเทศอยู่ที่กว่า 541 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงที่สุดในภูมิภาค เอกอัครราชทูต ฟานฮวีหยุง เผยว่า

“ทั้งสองประเทศมีจุดแข็งที่สนับสนุนกันเพื่อร่วมกันพัฒนา ทั้งสองประเทศต่างเป็นตลาดใหญ่ที่มีประชากรกว่า 100 ล้านคน มีสถานะเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญในโลก ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมความคิดริเริ่มการลงทุนอนาคตครั้งที่ 8 ณ ประเทศซาอุดิอาระเบียเมื่อเดือนตุลาคมปี 2024 นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เห็นพ้องกับนายกรัฐมนตรีอียิปต์ โมสตาฟา   มัดบูลี ในการส่งเสริมให้สถานประกอบการทั้งสองประเทศผลักดันการลงทุนด้านรถไฟฟ้า การวิจัยซอฟต์แวร์ พลังงานหมุนเวียน พลังงานแสงอาทิตย์ การปรับเปลี่ยนแห่งสีเขียว การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจทัล อุตสาหกรรมอาหารฮาลาล ความมั่นคงด้านอาหารเพื่อมุ่งสู่การพัฒนาความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่”

ผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือเวียดนาม-แองโกลาในหลายด้าน

เวียดนามและแองโกลาเป็นสองประเทศที่มีความสัมพันธ์มิตรภาพ ความร่วมมือที่มีมาช้านานในหลายด้าน ทั้งสองประเทศได้สนับสนุนกันในกระบวนการต่อสู้เพื่อช่วงชิงเอกราช รวมประเทศเป็นเอกภาพ สร้างสรรค์และพัฒนาประเทศ รวมทั้งในฟอรั่มระดับภูมิภาคและโลก  ซึ่งการเยือนแองโกลาอย่างเป็นทางการของประธานประเทศ เลืองเกื่อง ในระหว่างวันที่ 6 - 9 สิงหาคม จะเป็นโอกาสเพื่อให้ทั้งสองประเทศตรวจสอบ ประเมินผลความร่วมมือในเวลาที่ผ่านมา กำหนดแนวทางการพัฒนาและมาตรการขยายความสัมพันธ์ร่วมมือทวิภาคีในเวลาที่จะถึง ในกรอบการเยือน คาดว่า ทั้งสองประเทศจะลงนามเอกสารที่สำคัญต่างๆ ที่เอื้อให้แก่ทั้งสองฝ่ายผลักดันความร่วมมือด้านต่าง ๆ รวมถึงเศรษฐกิจ

แองโกลาเป็นประเทศที่มีศักยภาพการพัฒนาอีกมากเนื่องจากมีแหล่งบุคลากรที่อุดมสมบูรณ์ มีความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคสูง เน้นผลักดันความหลากหลายของเศรษฐกิจ ยกระดับทักษะความสามารถในการผลิตภายในประเทศ โดยเฉพาะด้านการเกษตร การผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค พัฒนาระบบคมนาคมและโทรคมนาคม ส่วนเวียดนามกำลังผลักดันการส่งออกสินค้าไปยังประเทศต่างๆ รวมทั้งตลาดแอฟริกา การที่ประธานประเทศเวียดนามเยือนแองโกลา ซึ่งเป็นประธานหมุนเวียนของสหภาพแอฟริกา เป็นโอกาสที่สำคัญเพื่อผลักดันความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับสหภาพแอฟริกา แองโกลาและอาเซียน ส่งเสริมบทบาทการเป็นสะพานเชื่อมให้แก่ความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างอาเซียนกับสหภาพแอฟริกา

การเยือนอียิปต์และแองโกลาครั้งนี้ของประธานประเทศ เลืองเกื่อง เป็นกิจกรรมการต่างประเทศที่สำคัญของเวียดนามในปีนี้ โดยมีความหมายเชิงยุทธศาสตร์ ส่งผลในระยะยาวต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสองประเทศ เสริมสร้างความไว้วางใจทางการเมืองและเปิดศักยภาพความร่วมมือใหม่ในเวลาที่จะถึง.

           


 

คำติชม