อินเดีย-เวียดนาม ร่วมกันมุ่งสร้างสันติภาพและความรุ่งเรือง

Huyen-Chau Anh/VOV
Chia sẻ
(VOVworld)- ตามคำเชิญของนายกฯอินเดีย ท่านเหงวียนฟู๊จ๋องเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้เริ่มการเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่19-22พฤศจิกายนซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการยืนยันนโยบายของเวียดนามที่ให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์กับอินเดียเท่านั้น หากยังเพื่อขยายและกระชับความร่วมมือแห่งความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-อินเดียอีกด้วย

(VOVworld)- ตามคำเชิญของนายกฯอินเดีย ท่านเหงวียนฟู๊จ๋องเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้เริ่มการเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่19-22พฤศจิกายนซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการยืนยันนโยบายของเวียดนามที่ให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์กับอินเดียเท่านั้น หากยังเพื่อขยายและกระชับความร่วมมือแห่งความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-อินเดียอีกด้วย

อินเดีย-เวียดนาม ร่วมกันมุ่งสร้างสันติภาพและความรุ่งเรือง - ảnh 1
ท่านเลขาธิการใหญ่พรรคให้การต้อนรับเอกอัครราชทูตอินเดียประจำเวียดนาม

เวียดนาม-อินเดียสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อวันที่7มกราคมปี1972 สถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่21เมื่อปี2003และเมื่อเดือนกรกฎาคมปี2007ในโอกาสนายกฯเวียดนามท่านเหงวียนเตินหยุงเยือนอินเดียทั้งสองฝ่ายได้ลงนามแถลงการณ์ประกาศยกระดับเป็นความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ซึ่งนับเป็นจุดสูงสุดแห่งกระบวนการพัฒนาความสัมพันธ์เวียดนาม-อินเดีย เป็นก้าวเดินใหม่ในความสัมพันธ์อันดีงามที่ผ่านการทดสอบมายาวนานในเส้นทางแห่งประวัติศาสตร์ของทั้งสองประเทศและสองประชาชาติ

ความสัมพันธ์มิตรภาพสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่ความร่วมมือทวิภาคี

รัฐบาลและประชาชนเวียดนามได้ยืนยันการให้ความสำคัญต่อการพัฒนาความสัมพันธ์มิตรภาพที่ยาวนานและหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านกับอินเดียว่าเป็นนโยบายที่เสมอต้นเสมอปลาย ส่วนรัฐบาลอินเดียก็ได้ให้ความสำคัญและถือเวียดนามเป็นเสาหลักในนโยบายมุ่งสู่ตะวันออก โดยการพัฒนาความสัมพันธ์มิตรภาพและความร่วมมือในทุกด้านกับเวียดนามก็เป็นนโยบายของทุกพรรคการเมืองในอินเดีย ทั้งสองประเทศมีความคล้ายคลึงกันในหลายด้านและได้ร่วมมือกันอย่างแน่นแฟ้นในฟอรั่มระดับภูมิภาคและนานาชาติ
เมื่อกล่าวถึงความสัมพันธ์ทวิภาคีเวียดนาม-อินเดียปัจจุบัน ผู้นำทุกระดับรวมทั้งประชาชนต่างยืนยันว่านี่คือความสัมพันธ์พิเศษที่ไม่เพียงแต่เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองเศรษฐกิจเท่านั้นหากยังเพื่อเสริมสร้างมิตรไมตรีที่มีมาช้านานระหว่างสองฝ่าย นายหวูกวางเหยียม อดีตเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำอินเดีย รองนายกสมาคมมิตรภาพเวียดนาม-อินเดียกล่าวว่าความสัมพันธ์เวียดนาม-อินเดียได้พัฒนาอย่างดีงามและสามารถสรุปสั้นๆว่า ไม่มีปัญหาแม้แต่ปัญหาเล็กๆ ดังนั้นทั้งสองฝ่ายสามารถร่วมมือกันอย่างดีในทุกด้าน ซึ่งการสร้างระเบียบความร่วมมือในเวลาที่ผ่านมาก็ถือเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงการพัฒนาที่เข้มแข็งของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศและผมเชื่อมั่นว่าผ่านการเยือนระดับสูงต่างๆเช่นการเยือนของท่านเลขาธิการใหญ่เวียดนามครั้งนี้จะช่วยกระชับให้ความสัมพันธ์นั้นพัฒนาไปสู่ขั้นสูงใหม่
ปัจจุบันความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-อินเดียกำลังเกิดประสิทธิผลอย่างจริงจังบน5เสาหลักคือ การเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจการค้า วัฒนธรรมและการฝึกอบรมบุคคลากร โดยในด้านเศรษฐกิจการค้าและการลงทุน อินเดียได้รับรองเศรษฐกิจเชิงตลาดของเวียดนามอย่างสมบูรณ์และในสภาวการณ์ที่ทั่วโลกถูกผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจ แต่การค้าต่างตอบแทนระหว่างสองประเทศยังคงขยายตัวและบรรลุเกือบ4พันล้านเหรียญสหรัฐในปี2012 บนพื้นฐานนั้นทั้งสองฝ่ายได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะพยายามให้ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นเป็น7พันล้านในปี2015ตามแนวทางลดการเสียเปรียบดุลการค้าของเวียดนามโดยขณะนี้อินเดียมี73โครงการลงทุนในเวียดนาม
ด้านความมั่นคงและกลาโหม ทั้งสองฝ่ายได้กระชับการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทน การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่องโดยตั้งแต่ปี2003มาจนถึงปัจจุบันได้มีการจัดประชุมสนทนายุทธศาสตร์ด้านกลาโหมทวิภาคีระดับรัฐมนตรีช่วย8ครั้ง นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายยังได้ผลักดันความร่วมมือในด้านอื่นๆอย่างเข้มแข็งไม่ว่าจะเป็นการวิจัยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีนาโน ชีวภาพ สารสนเทศและการสำรวจระยะไกลเป็นต้น

เพิ่มความลึกซึ้งแก่ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์

บนพื้นฐานแห่งความสัมพันธ์ที่ดีงามนั้น การเยือนอินเดียครั้งนี้ของท่านเหงวียนฟู๊จ๋องเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามจึงมีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเอกอัครราชทูตอินเดียประจำเวียดนามก็ได้ยืนยันเช่นนี้ก่อนการเยือนโดยเห็นว่าการเยือนของท่านเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามจะสร้างนิมิตหมายใหม่ในการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างสองฝ่าย ท่านเคยเยือนอินเดียในฐานะประธานรัฐสภาแต่ครั้งนี้ในฐานะเลขาธิการใหญ่พรรค อันเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างสองประเทศได้พัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่และยืนยันถึงการที่ทั้งสองฝ่ายต่างให้ความสำคัญต่อกัน ซึ่งเชื่อมั่นว่าการเยือนอินเดียครั้งนี้จะช่วยผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคีที่กำลังดีงามในทุกด้านให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น และความสำเร็จของการเยือนจะช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมีประสิทธิภาพและจริงจังมากขึ้น
การเยือนอินเดียครั้งนี้ของท่านเลขาธิการใหญ่พรรคเหงวียนฟู๊จ๋องจะเป็นโอกาสเพื่อขยายปฏิบัติการด้านการต่างประเทศของพรรคและรัฐเวียดนามในการกระชับความสัมพันธ์กับอินเดียซึ่งเป็นหุ้นส่วนสำคัญของเวียดนามในเอเซีย  รวมทั้งยังช่วยให้พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามขยายความสัมพันธ์กับพรรคการเมืองต่างๆ ระหว่างรัฐสภาและประชาชนสองประเทศ ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-อินเดียในทุกด้าน มุ่งสร้างสรรค์อนาคตที่สดใสของประชาชนสองประเทศเพื่อการพัฒนาเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน./.

คำติชม