อนาคตของการปะทะในยูเครนประเด็นร้อนของการประชุมความมั่นคงมิวนิก

Quang Dung
Chia sẻ
(VOVWORLD) - การประชุมความมั่นคงมิวนิกหรือ MSC ประจำปีครั้งที่ 61 ที่มีขึ้นในระหว่างวันที่ 14-16 กุมภาพันธ์ ณ เมืองมิวนิก ในภาคใต้ประเทศเยอรมนี ได้รับการจับตามองเป็นพิเศษเมื่อทางการชุดใหม่ของสหรัฐกำลังปฏิบัติแนวทางด้านความมั่นคงและการทูตที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการปะทะใหญ่ๆในโลก โดยเฉพาะในยูเครน
อนาคตของการปะทะในยูเครนประเด็นร้อนของการประชุมความมั่นคงมิวนิก - ảnh 1การประชุมความมั่นคงมิวนิกเน้นหารือถึงการปะทะในยูเครน (securityconference.org)

 

คณะผู้แทนสหรัฐที่เข้าร่วมการประชุม MSC ในปีนี้นำโดยนาย เจมส์ เดวิด แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ ในขณะที่ นาย มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐและเจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐหลายคนก็เดินทางมาที่ยุโรปในสัปดาห์นี้เพื่อหารือกับพันธมิตรยุโรปเกี่ยวกับหัวข้อด้านความมั่นคงต่างๆ

จุดเปลี่ยนของการปะทะในยูเครน

เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2 วันก่อนเปิดการประชุม MSC ครั้งที่ 61 ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เผยว่ามีการพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดีเมียร์ ปูติน เป็นครั้งแรกเพื่อฟื้นฟูการเจรจาเกี่ยวกับการยุติการปะทะในยูเครน แต่ที่น่าสนใจคือ ประธานาธิบดีสหรัฐไม่ได้ปรึกษาหารือกับพันธมิตรยุโรปก่อนที่จะพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์กับฝ่ายรัสเซีย และเพียงแจ้งให้ประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ทราบในภายหลังเท่านั้น ตามความเห็นของบรรดาผู้สังเกตการณ์ ท่าทีนี้ของประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ อาจจะสามารถสร้างหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญเพื่อช่วยยุติการปะทะที่ยืดเยื้อเป็นเวลาเกือบ 3 ปีในยูเครน แต่ก็ทำให้ประเทศพันธมิตรในยุโรปหลายประเทศแม้กระทั่งยูเครนมีความวิตกกังวลว่าอาจจะไม่มีส่วนในการเจรจาระหว่างสหรัฐกับรัสเซียและข้อกังวลนี้ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเมื่อนาย โดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันให้การสนับสนุนคำประกาศของรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ พีท เฮกเซธ ที่กล่าวในการประชุมกับรัฐมนตรีกลาโหมขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือ NATO เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ว่า แนวคิดที่ให้ยูเครนเข้าร่วม NATO นั้น “เป็นไปไม่ได้” และการที่ยูเครนมีความประสงค์ที่จะฟื้นฟูดินแดนของตนเหมือนก่อนปี 2014 นั้น “ไม่สมจริง” ตามความเห็นของนาย Stephen Wertheim ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันสันติภาพคาร์เนกี คำประกาศของรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ พีท เฮกเซธ ถือเป็น “การประนีประนอมจากสถานการณ์ที่เป็นจริง” ซึ่งทำให้ประเทศต่างๆ ในยุโรปอยู่ในทางเลือกที่ยากลำบาก โดยเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ประเทศยุโรปส่วนใหญ่ รวมถึง อังกฤษได้ประกาศว่า “จะไม่มีมาตรการอย่างสันติที่ยาวนานให้แก่ยูเครนถ้าหากไม่มีการเข้าร่วมของยุโรปในการเจรจาที่เกียวข้อง”

ในสภาวการณ์ดังกล่าว บทปราศรัยของนาย เจมส์ เดวิด แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐในการประชุม MSC ปีนี้ถือเป็นเรื่องที่ได้รับการรอคอยเป็นพิเศษเพราะจะเป็นการเสนอที่ชัดเจนมากขึ้นจุดยืนอย่างเป็นทางการของรัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐในการแก้ไขการปะทะในยูเครน ส่วนตามความเห็นของนาย Volodymyr Ohryzko อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเกี่ยวกับรัสเซีย ประเทศในยุโรปและทางการยูเครนต้องใช้โอกาสจากการพบปะหารือในระดับสูงในการประชุม MSC อย่างเต็มที่เพื่อโน้มน้าวให้ทางการสหรัฐสนับสนุนทัศนะของยุโรป

“จากสิ่งที่เราได้เห็นขณะนี้แสดงให้เห็นว่า สหรัฐยังไม่มีทัศนะสุดท้าย ดังนั้น ผมคิดว่า เป้าหมายหลักของการต่างประเทศของยูเครนในตอนนี้คือช่วยให้ฝ่ายสหรัฐกำหนดจุดยืนนี้ให้แน่นอน”

อนาคตของการปะทะในยูเครนประเด็นร้อนของการประชุมความมั่นคงมิวนิก - ảnh 2นาย มาร์ค รุทเทอ เลขาธิการ NATO (THX)

แรงกดดันต่อยุโรป

นอกจากการอภิปรายที่เกี่ยวข้องกับแผนการยุติการปะทะในยูเครนแล้ว การประชุมความมั่นคงมิวนิกปีนี้ยังจะพูดถึงหัวข้อเก่าที่ร้อนแรงไม่น้อยคือการใช้จ่ายด้านกลาโหมใน NATO และความรับผิดชอบทางการเงินของประเทศสมาชิก NATO ในยุโรป โดยในการพบปะครั้งแรกกับบรรดารัฐมนตรีกลาโหมของประเทศสมาชิก NATO ในระหว่างวันที่ 12-13 กุมภาพันธ์ ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของสหรัฐ พีท เฮกเซธ ได้สร้างความผิดหวังต่อผู้ที่ยังคงมีความคาดหวังว่าทางการชุดใหม่ของสหรัฐจะรักษาคำมั่นที่ให้ไว้เกี่ยวกับการเชื่อมโยงมหาสมุทรแอตแลนติกเมื่อประกาศว่า “ความมั่นคงยุโรปไม่ได้อยู่ในลำดับความสนใจอันดับต้นๆสหรัฐต่อไป” ยุโรปต้องรับผิดชอบต่อการรักษาความมั่นคงของทวีปเอง รวมถึงปัญหายูเครน และประเทศต่างๆ ใน NATO ต้องเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมเป็นร้อยละ 5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ GDP ตามข้อเสนอที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ เคยเสนอ

แต่ตามความเห็นของนาย มาร์ค รุทเทอ เลขาธิการ NATO ตัวเลขการใช้จ่ายด้านกลาโหมที่ร้อยละ 5 ของ GDP ไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันของหลายประเทศสมาชิก NATO    อย่างไรก็ตาม ในการกล่าวปราศรัยในฟอรั่มเศรษฐกิจโลกหรือ WEF ณ เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เมื่อปลายเดือนที่แล้ว ผู้นำของ NATO ได้ยอมรับว่า NATO กำลังอยู่ในภาวะวิกฤติทางงบประมาณด้านกลาโหม

อีกหัวข้อหนึ่งที่อาจจุดชนวนความขัดแย้งระหว่างยุโรปกับสหรัฐในการประชุม MSC คือแผนการควบคุมฉนวนกาซ่าของประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อประเทศในยุโรปส่วนใหญ่คัดค้านแผนนี้อย่างรุนแรง ตลอดจนการที่สหรัฐมีความประสงค์ที่จะซื้อเกาะกรีนแลนด์ของเดนมาร์กหรือผนวกแคนาดาเข้าเป็นดินแดนของตนก็เป็นหัวข้อที่ซับซ้อนที่จะสร้างการถกเถียงกันมากมายในการประชุมความมั่นคงมิวนิกครั้งนี้.

คำติชม