หน้าที่อันยิ่งใหญ่ของประธานาธิบดีสหรัฐในการเยือนเอเชีย

Hong Van/VOV5
Chia sẻ

(VOVworld)-ประธานาธิบดีสหรัฐบารัคโอบามาเริ่มการเดินทางไปเยือน4ประเทศเอเชียในวันนี้ โดยในการเยือนญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี มาเลเซียและฟิลิปปีนส์เป็นเวลา7วัน เจ้าของทำเนียบขาวอยากยืนยันนโยบายที่มุ่งปรับความสมดูลยุทธศาสตร์ของสหรัฐในเอเชียแปซิฟิกพร้อมทั้งเสนอคำมั่นว่าด้วยความร่วมมือทางการเมืองและเศรษฐกิจต่อพันธมิตรต่างๆในภูมิภาคนี้ ซึ่งการเยือนครั้งนี้ถูกประเมินว่าจะเต็มไปด้วยความท้าทาย


(VOVworld)-ประธานาธิบดีสหรัฐบารัคโอบามาเริ่มการเดินทางไปเยือน4ประเทศเอเชียในวันนี้โดยในการเยือนญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี มาเลเซียและฟิลิปปีนส์เป็นเวลา7วัน เจ้าของทำเนียบขาวอยากยืนยันนโยบายที่มุ่งปรับความสมดูลยุทธศาสตร์ของสหรัฐในเอเชียแปซิฟิกพร้อมทั้งเสนอคำมั่นว่าด้วยความร่วมมือทางการเมืองและเศรษฐกิจต่อพันธมิตรต่างๆในภูมิภาคนี้ ซึ่งการเยือนครั้งนี้ถูกประเมินว่าจะเต็มไปด้วยความท้าทาย

หน้าที่อันยิ่งใหญ่ของประธานาธิบดีสหรัฐในการเยือนเอเชีย - ảnh 1

ตามความเห็นของนักวิเคราะห์ การเยือนเอเชียครั้งนี้ของประธานาธิบดีสหรัฐได้มีขึ้นในสภาวการณ์ความตึงเครียดระหว่างจีน-ญี่ปุ่นที่กำลังทวีความซับซ้อน ส่วนความสัมพันธ์ระหว่าง2ประเทศพันธมิตรของวอชิงตันคือญี่ปุ่น-สาธารณรัฐเกาหลีก็ไม่ราบรื่นเนื่องจากปัญหาการพิพาทด้านอธิปไตยหมู่เกาะในทะเล ในขณะเดียวกันสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีก็นับวันร้อนแรงมากขึ้นเนื่องจากการทดลองยิงขีปนาวุธของเปียงยางเพื่อตอบโต้การซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐกับสาธารณรัฐเกาหลี นอกจากนั้นปัญหาของยูเครน การเจรจาสันติภาพของอิสราเอลและปาเลสไตน์ตลอดจนสงครามกลางเมืองในซีเรียก็ทำให้สหรัฐละเลยความสนใจปฏิบัตินโยบายมุ่งสู่เอเชีย

ยืนยันแนวทางปรับความสมดุลยุทธศาสตร์ในเอเชียแปซิฟิก

ก่อนการเยือนนี้ นายอีแวน เมเดย์รอส ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกิจการเอเชียของสภาความมั่นคงสหรัฐก็ได้ยืนยันว่าสหรัฐได้ให้คำมั่นที่สมบูรณ์ต่อเอเชียแปซิฟิกและนี่มิใช่ปัญหาทางการเมืองหากเป็นการปกป้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของสหรัฐในภูมิภาคนี้ ซึ่งจะเห็นได้จากรายละเอียดกำหนดการของผู้นำทำเนียบขาวในการเยือน4ประเทศเอเชียครั้งนี้ซึ่งรวมทั้ง2พันธมิตรยุทธศาสตร์คือญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลี

สำหรับประเทศแรกคือญี่ปุ่นและก็เป็นประเทศที่นายโอบามาสงวนเวลามากที่สุดในกรอบการเยือนนั้น คาดว่านายโอบามาจะเข้าร่วมงานเลี้ยงซึ่งจัดโดยสมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่นอากิฮิโตะและเยือนปราสาทเมย์จิในกรุงโตเกียว เจรจากับนายกฯชินโซอาเบะเพื่อหารือมาตรการกระชับความสัมพันธ์พันธมิตรและหุ้นส่วนความมั่นคงตลอดจนความสัมพันธ์ทางการค้า การเจรจาข้อตกลงหุ้นส่วนข้ามแปซิฟิกหรือทีพีพี ในการตอบสัมภาษณ์ก่อนการเยือน นายเบนรุดส์ รองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐได้ยืนยันว่า สหรัฐถือความสัมพันธ์พันธมิตรกับญี่ปุ่นเสมือนเป็นปัจจัยหลักในยุทธศาสตร์แห่งเอเชียของตนและจะพยายามยกระดับความสัมพันธ์นี้

ที่ประเทศสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางอันดับสองในการเยือนเอเชีย นายโอบามาจะเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆเพื่อมุ่งกระชับความร่วมมือระหว่างสองฝ่าย โดยจะหารือกับผู้นำของสาธารณรัฐเกาหลีปาคกึมแฮเพื่อผลักดันความสัมพันธ์พันธมิตร ปัญหาการพิพาทด้านอธิปไตยในเขตทะเลหัวตุ้งและทะเลตะวันออก สถานการณ์คาบสมุทรเกาหลี และความช่วยเหลือของสหรัฐต่อสาธารณรัฐเกาหลีเพื่อแก้ไขปัญหาเรือเฟอร์รี่เซวอลอัปปาง ตลอดจนประธานาธิบดีสหรัฐยังมีแผนเยี่ยมเยือนกองกำลังทหารสหรัฐที่ประจำการในสาธารณรัฐเกาหลี

ในการเยือนประเทศมาเลเซีย ทั้งสองฝ่ายจะมุ่งเน้นหารือในเรื่องการเจรจาข้อตกลงทีพีพี ความร่วมมือด้านความมั่นคง การป้องกันประเทศและการพิพาททางทะเลตะวันออก

ที่ประเทศฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นประเทศสุดท้ายในการเยือนเอเชียครั้งนี้ นายโอบามาจะย้ำอีกรอบถึงคำมั่นด้านความมั่นคงของมะนิลาโดยเฉพาะระเบียบการปฏิบัติต่อกันหรือซีโอซีระหว่างอาเซียนกับจีนที่ถือเป็นระเบียบการสำคัญในการแก้ไขการพิพาทในทะเลตะวันออกและสหรัฐเห็นว่าควรผลักดันกระบวนการร่างซีโอซีให้เสร็จสิ้นโดยเร็วเพื่อสร้างกรอบทางนิตินัยที่มีลักษณะสร้างสรรค์เพื่อควบคุมแก้ไขปัญหาการพิพาทด้านอธิปไตย

ความท้าทายที่กำลังรออยู่

แต่ทั้งนี้ความท้าทายที่จะรออยู่ก็มีไม่น้อย ซึ่งก่อนอื่นต้องยืนยันว่า ในการเยือนเอเชียครั้งนี้ สหรัฐต้องผลักดันบทบาทการเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยความสัมพันธ์ระหว่างสาธารณรัฐเกาหลีและญี่ปุ่นที่กำลังเลวร้ายลงเพราะการพิพาทด้านอธิปไตยและการที่เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นได้เดินทางไปเยือนศาลเจ้า ยาสุกูนิ และนี่ก็เป็นปัญหาที่สหรัฐให้ความสนใจเป็นอย่างมากในกระบวนการปฏิบัติยุทธศาสตร์มุ่งสู่เอเชีย ดังนั้นการที่ทั้งสองพันธมิตรของสหรัฐปรับความสัมพันธ์ให้ดีขึ้นจะเอื้อประโยชน์ให้แก่ทุกฝ่าย

ในด้านเศรษฐกิจ การโน้มน้าวประเทศต่างๆซึ่งรวมทั้งญี่ปุ่นและมาเลเซียให้ผลักดันการเจรจาข้อตกลงทีพีพีก็เป็นหัวข้อสำคัญในการเยือนนี้แต่ความล้มเหลวของการเจรจาระดับรัฐมนตรีว่าด้วยทีพีพีระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมาได้ทำให้หน้าที่ความรับผิดชอบของนายโอบามาในครั้งนี้ยิ่งหนักหน่วงมากขึ้น เพราะถึงแม้จนถึงขณะนี้การเจรจาระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่นเกี่ยวกับทีพีพีได้บรรลุความคืบหน้าในระดับหนึ่งแต่การบังคับใช้อัตราภาษีต่อสินค้าสองรายการคือเนื้อหมู-เนื้อวัวและผลิตภัณฑ์จากนมที่ญี่ปุ่นคุ้มครองยังไม่ตรงความคาดหวังของสหรัฐ นอกจากนั้นปัจจัยอีกข้อที่ส่งผลต่อการเยือนเอเชียคือท่าทีที่รุนแรงจากฝ่ายสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี โดยในแถลงการณ์เมื่อวันที่21เมษายนของกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีได้ย้ำว่าการเยือนเอเชียครั้งนี้ของนายโอบามากำลังขัดขวางการเจรจา6ฝ่ายว่าด้วยปัญหานิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีและเปิดกระบวนการแข่งขันอาวุธในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเปียงยางจะเพิ่มมาตรการป้องปรามเพื่อป้องกันตนเองและเตือนว่าสหรัฐควรพิจารณาใหม่ปฏิบัติการของตนที่อาจจะสร้างความตึงเครียดกับเปียงยางก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

ทั้งนี้และทั้งนั้น การเยือนเอเชียของประธานาธิบดีสหรัฐบารัคโอบามาเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าสหรัฐได้ให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อภูมิภาคนี้แต่เพื่อผลักดันให้ทุกเป้าหมายที่ตั้งไว้กลายเป็นจริงก็ถือเป็นความท้าทายไม่ใช่น้อยสำหรับผู้นำทำเนียบขาวในครั้งนี้./.

คำติชม