นาง ด่าวห่งลาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (VGP)

ในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างลึก สุขภาพของประชาชนเป็นปัจจัยสำคัญเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ยกระดับคุณภาพแหล่งบุคลากรและชื่อเสียงของประเทศ

2 มติ 1 เป้าหมายปฏิรูปพัฒนาระบบสาธารณสุขเวียดนาม

มติที่ 72  ของกรมการเมืองพรรคระบุ 6 กลุ่มมาตรการสำคัญ โดยเฉพาะการขยายระบบสาธารณสุขป้องกันระดับท้องถิ่น ก้าวกระโดดด้านบุคลากร จริยธรรมทางการแพทย์ การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล การประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การพัฒนาบริการของภาคเอกชนเพื่อสร้างระบบนิเวศด้านสาธารณสุขที่หลากลหาย ระดมทุกแหล่งพลังในการผสมผสานและเข้าถึงมาตรฐานโลก ซึ่งนี่เป็นพื้นฐานและเข็มทิศนำทางให้แก่ยุทธศาสตร์การพัฒนาสาธารณสุขในปีต่อๆไป

ส่วนสำหรับมติของสภาแห่งชาติเป็นการแปรเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ของมติที่ 72 ให้เป็นรูปธรรมผ่านการทบทวนและรวบรวมปัญหาเพื่อเสนอมาตรการแก้ไขแบบก้าวกระโดดในเชิงยุทธศาสตร์ นาง ด่าวห่งลาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้เผยว่า

“ต้องลดค่ารักษาพยาบาลให้แก่ประชาชน โดยตั้งแต่ปี 2026 จะปฏิบัตินโยบายตรวจสุขภาพประจำปีฟรีสำหรับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ยกเว้นค่าธรรมเนียมการรักษาพยาบาลตามสิทธิหลักประกันสุขภาพตามขั้นตอนที่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจสังคมของประเทศ เพิ่มความหลากหลายของรูปแบบประกันสุขภาพตามความต้องการของประชาชน”

ที่น่าสนใจคือร่างมติของสภาแห่งชาติยังสร้างกรอบทางนิตินัยให้แก่การระดม การประสานงานและตรวจสอบการดำเนินการของระบบสาธารณสุข เป็นแรงผลักดันให้แก่การชี้นำเชิงยุทธศาสตร์ของกรมการเมืองพรรค การบังคับใช้กรอบทางกฎหมาย นโยบายและการปฏิบัติอย่างพร้อมเพรียงในทั่วประเทศ

เพิ่มสิทธิและผลประโยชน์ในการดูแลสุขภาพและลดค่ารักษาพยาบาลให้แก่ประชาชน

ประชาชนกำลังรอคอยนโยบายด้านสาธารณสุขใหม่ที่จะทำให้การตรวจรักษาโรคมีความสะดวกสบายมากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มคุณภาพแหล่งบุคลากร ซึ่งนี่ก็คือความปรารถนาของบรรดาผู้แทนสภาแห่งชาติเกี่ยวกับร่างมติของสภาแห่งชาติที่ระบุกลไกและนโยบายปฏิบัติมติที่ 72 ของกรมการเมืองพรรคอย่างมีประสิทธิภาพ โดยบรรดาผู้แทนได้เสนอให้เพิ่มสิทธิในการเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพสูง สิทธิหลักประกันสุขภาพที่โปร่งใสและการอบรมแหล่งบุคลากรที่ได้มาตรฐานสากล นาย เหงวียนแองจี๊ ผู้แทนสภาแห่งชาติกรุงฮานอยได้เผยว่า

“นี่คือคำมั่นของรัฐเกี่ยวกับการช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลและการตรวจสุขภาพประจำปีฟรีเพื่อยกระดับคุณภาพบริการด้านสาธารณสุข นอกจากนี้ ยังมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล แนวทางการวินิจฉัยและรักษาพยาบาลที่ทันสมัยเพื่อยกระดับความสามารถของแพทย์และบริการด้านสาธารณสุขของเวียดนามให้พัฒนาทัดเทียมกับประเทศที่พัฒนา ซึ่งต้องมีมติที่สร้างก้าวกระโดดและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนผ่านการส่งเสริมสิทธิหลักประกันสุขภาพ”

ต้องระบุการพัฒนาบริการของภาคเอกชนในร่างมติของสภาแห่งชาติเพื่อระดมและใช้ทุกแหล่งพลังสำหรับพัฒนาระบบสาธารณสุขอย่างมีประสิทธิภาพ  (VGP)

บรรดาผู้แทนยังเผยว่า ต้องระบุการพัฒนาบริการของภาคเอกชนในร่างมติของสภาแห่งชาติเพื่อระดมและใช้ทุกแหล่งพลังสำหรับพัฒนาระบบสาธารณสุขอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ภาคเอกชนได้มีส่วนร่วมพัฒนาสาธารณสุขเป็นอย่างมาก แต่ให้บริการเพียงร้อยละ 14.55 ในทั่วประเทศเท่านั้น ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ เช่น ที่เยอรมนี ภาคเอกชนให้บริการคิดเป็นร้อยละ 25 ฝรั่งเศสร้อยละ 35 ออสเตรเลียร้อยละ 40 สหรัฐร้อยละ 80 และญี่ปุ่นร้อยละ 80

ทั้งนี้ เวียดนามกำลังมีโอกาสสำคัญในการปรับปรุงโครงสร้างระบบสาธารณสุขในรอบหลายทศวรรษ ซึ่งมติ 2 ฉบับดังกล่าวจะเปิดทางให้แก่การพัฒนาสาธารณสุขอย่างทันสมัย โปร่งใส ผสมผสานและมุ่งสู่ประชาชน ซึ่งการปฏิบัติมติ 2 ฉบับดังกล่าวอย่างเคร่งครัดจะสร้างนิมิตหมายด้านนโยบาย ช่วยให้ประชาชนเวียดนามกว่า 100 ล้านคนได้รับประโยชน์จากระบบสาธารณสุขที่เปิดกว้าง ปลอดภัยและเท่าเทียมกัน.