(VOVworld) –  วันที่๕กันยายน ทั้งสองประชาชาติเวียดนามและลาวจะร่วมกันฉลองครบรอบ๕๐ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ใน๕๐ปีที่ผ่านมา สัมพันธไมตรีที่ซื่อสัตย์และแจ่มจรัสนั้นได้รับการทำนุบำรุงอย่างไม่หยุดยั้งและพัฒนาอย่างยั่งยืน ในโอกาสนี้ ขอคัดเสนอเนื้อหาสำคัญจากการให้สัมภาษณ์ของท่าน Trương Tấn Sang ประธานประเทศเวียดนามเกี่ยวกับกระบวนการและความคืบหน้าของสัมพันธไมตรีพิเศษเวียดนาม ลาว

พิธีชุมนุมรำลึกครบรอบ๕๐ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเวียดนามลาว(Photo:Internet)

(VOVworld) –    ท่านTrương Tấn Sang ประธานประเทศเวียดนามกล่าวว่า ความสัมพันธ์เวียดนามลาว เป็นตัวอย่างเกี่ยวกับสัมพันธไมตรีที่ซื่อสัตย์ แจ่มจรัส ยั่งยืน และหายากในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ  ในประวัติศาสตร์โลกตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันได้ปรากฏรูปแบบความสัมพันธ์ พันธมิตร และความร่วมมือต่างๆ แต่สำหรับทั้งสองประชาชาติเวียดนามลาว สัมพันธไมตรีพิเศษนั้นเป็นความผูกพันแบบพี่น้องในสายเลือดเดียวกัน มีความใกล้ชิดสนิทสนม เสมอต้นเสมอปลาย ได้รับการทดสอบจากความลำบากยากเข็ญและนับวันยิ่งได้รับการเสริมสร้างและพัฒนาอย่างมั่นคง กลายเป็นทรัพย์สมบัติอันล้ำค่าของทั้งสองประชาชาติ เป็นกฏแห่งการพัฒนาของการปฏิวัติของแต่ละประเทศ  ประวัติศาสตร์ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ถ้าไม่มีพันธมิตรร่วมรบ และความสามัคคีพิเศษเวียดนามลาว ภารกิจการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยประชาชาติของทั้งสองประเทศในอดีตยากที่จะประสบชัยชนะอย่างสมบูรณ์ได้และภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาประเทศโดยเฉพาะ ภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ในแต่ละประเทศก็จะไม่สามารถประสบผลสำเร็จอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้    เกี่ยวกับสัมพันธไมตรีเวียดนามลาวในระยะทางแห่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญต่างๆของทั้งสองประเทศใน๕๐ปีที่ผ่านมา ประธานTrương Tấn Sangเห็นว่า  ในช่วงที่ทำการต่อต้านศัตรูร่วมเพื่อช่วงชิงเอกราชและเสรีภาพ ทั้งสองประชาชาติได้เคียงบ่าเคียงไหล่ ร่วมทุกข์ร่วมสุข สละเลือดเนื้อ พึ่งพากันเพื่อคงอยู่และพัฒนา ผลสำเร็จของการปฏิวัติของทั้งสองประเทศตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันต่างมีความผูกพันกับการพัฒนาที่ดีงามของสัมพันธไมตรีพิเศษเวียดนามลาว  ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในช่วงปี๑๙๖๒ถึงปี๑๙๗๕เป็นพันธมิตรสามัคคีร่วมรบเพื่อเอกราช เสรีภาพ ปลดปล่อยประชาชาติ บนพื้นฐานแห่งความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ในแนวทางการเมืองและการทหาร เมื่อย่างเข้าสู่สงครามต่อต้านศัตรูร่วม พรรคแรงงานเวียดนามและพรรคประชาชนปฏิวัติลาวได้เชิดชูธงแห่งเอกราชประชาชาติและสังคมนิยม เคียงบ่าเคียงไหล่กันและวางแนวทาง นโยบายที่ถูกต้องเพื่อนำการปฏิวัติของทั้งสองประเทศก้าวรุดหน้าไปอย่างมั่นคง           นับตั้งแต่ปี๑๙๗๕มาจนถึงปัจจุบัน ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับลาวได้ย่างเข้าสู่ระยะใหม่ซึ่งเป็นระยะที่เปลี่ยนจากความสัมพันธ์ระหว่างสองพรรคและประชาชนของทั้งสองประเทศมาเป็นสัมพันธไมตรีและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองพรรคที่กุมอำนาจ สองรัฐและสองประเทศที่มีเอกราชและอธิปไตย ร่วมกันพิจารณา ประเมิน แสวงหาเพื่อเปลี่ยนแปลงใหม่ทีละขั้นเพื่อนำประเทศพัฒนาเจริญรุ่งเรือง ควบคู่กับความสัมพันธ์ร่วมมือทางการเมือง ความมั่นคงและการป้องกันประเทศที่ดีงามเป็นอย่างยิ่ง ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนก็ได้รับการผลักดันอย่างรวดเร็ว เมื่อวันที่๑๘กรกฎาคมปี๑๙๗๗ ทั้งสองประเทศได้ลงนามในสนธิสัญญามิตรภาพ และความร่วมมือเวียดนามลาว และ สนธิสัญญากำหนดพรมแดนแห่งชาติ และส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้พัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ นับตั้งแต่การประชุมสมัชชาพรรคประชาชนปฏิวัติลาวสมัยที่๔และการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่๖ ทั้งสองประเทศได้ผลักดันการเปลี่ยนแปลงใหม่ และผสมผสานเข้ากับกระแสโลก ความสัมพันธ์เวียดนามลาวได้มีการพัฒนาอย่างข้ามขั้นเพื่อภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิในแต่ละประเทศอย่างแข็งขัน         

รายการนาฏศิลป์รำลึกปีแห่งมิตรภาพและความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับลาว(Photo:Internet)

หวนมองดูระยะทางแห่งประวัติศาสตร์ใน๕๐ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะ ๓๕ปีที่ปฏิบัติสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือเวียดนามลาว สัมพันธไมตรีที่มีมาช้านาน ความสามัคคีพิเศษและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับลาวได้กลายเป็นความผูกพันกันอย่างเหนียวแน่นและพัฒนาอย่างกว้างลึกในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นด้านการเมือง การต่างประเทศ  ความมั่นคง การป้องกันประเทศ การศึกษาฝึกอบรม เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ทั้งสองประเทศมีสิทธิ์ภาคภูมิใจต่อการพัฒนาอย่างข้ามขั้นในความร่วมมือระหว่างสองประเทศทั้งด้านการค้าและการลงทุน  ปัจจุบัน เวียดนามมีโครงการลงทุนในลาวรวมทั้งหมด๔๓๕โครงการ รวมเงินทุนกว่า๕พัน๒ร้อยล้านเหรียญสหรัฐ อยู่อันดันต้นๆในจำนวน๕๓ประเทศและดินแดนที่ลงทุนในลาว ทั้งสองประเทศพยายามเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนให้สูงถึง๑พันล้านเหรียญสหรัฐในปี๒๐๑๒และ๒พันล้านเหรียญสหรัฐในปี๒๐๑๕  บนพื้นฐานของผลสำเร็จที่ได้ประสบมา ผู้นำทั้งสองประเทศได้ถือเอาปี๒๐๑๒เป็นปีแห่งความสามัคคีมิตรภาพเวียดนามลาวเพื่อรำลึกครบรอบ๕๐ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตและครบรอบ๓๕ปี การลงนามสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือระหว่างสองประเทศ   เกี่ยวกับความคืบหน้าของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในอนาคต ประธานTrương Tấn Sangได้แสดงความเชื่อมั่นว่า ทั้งสองประเทศจะมีการพัฒนาใหม่ ที่คล่องตัว มีประสิทธิภาพอย่างจริงจังเพื่อตอบสนองความปรารถนาของประชาชนทั้งสองประเทศคือสร้างสรรค์ประเทศเวียดนามที่ประชาชนมั่งคั่ง ประเทศเจริญเข้มแข็ง สังคมมีประชาธิปไตย ยุติธรรม และอารยธรรมและสร้างสรรค์ประเทศลาวที่สันติภาพ เอกราช ประชาธิปไตย เอกภาพ เจริญรุ่งเรือง มีส่วนร่วมให้แก่สันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาในภูมิภาคและโลกและแสดงความเชื่อมั่นว่า ประชาชนทุกรุ่นของทั้งสองประเทศจะก้าวเดินตามรอยบรรพบุรุษ รักษาความสามัคคีเวียดนามลาวดุจแก้วตาของตนเองดังที่ประธานโฮจิมินห์ได้กำชับและส่งเสริมสัมพันธไมตรีพิเศษเวียดนามลาวให้สถิตสถาพรตลอดกาล./.