สันติภาพยังอยู่ไกลเอื้อม

Huyền/VOV5
Chia sẻ
(VOVWorld) – เหลืออีกเพียงไม่กี่วันก็จะถึงการประชุมสันติภาพนานาชาติ ณ นครเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ตามความคิดสร้างสรรค์ของรัสเซียและสหรัฐเพื่อยุติวิกฤตในซีเรีย แต่ในขณะนี้กลับมีสัญญาณมากมายที่แสดงให้เห็นว่า ผลของการประชุมครั้งนี้อาจไม่เป็นไปตามความคาดหมายทั้งด้านความเห็นที่ตรง กันของนานาชาติและความขัดแย้งภายในประเทศนี้

(VOVWorld) – เหลืออีกเพียงไม่กี่วันก็จะถึงการประชุมสันติภาพนานาชาติ ณ นครเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ตามความคิดสร้างสรรค์ของรัสเซียและสหรัฐเพื่อยุติวิกฤตในซีเรีย แต่ในขณะนี้กลับมีสัญญาณมากมายที่แสดงให้เห็นว่า ผลของการประชุมครั้งนี้อาจไม่เป็นไปตามความคาดหมายทั้งด้านความเห็นที่ตรงกันของนานาชาติและความขัดแย้งภายในประเทศนี้

สันติภาพยังอยู่ไกลเอื้อม - ảnh 1
ฝ่ายค้านในซีเรียประกาศเงื่อนไขเข้าร่วมการประชุมสันติภาพนานาชาติ ณ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์

 ซีเรียได้รับความสนใจจากประชามติในตลอดกว่า๒ปีที่ผ่านมาและก็ร้อนระอุยิ่งขึ้นเมื่อการประชุมสันติภาพนานาชาติกำลังจะมีขึ้นและประชาคมระหว่างประเทศกำลังตั้งความคาดหวังมากมายต่อการประชุมนี้เพื่อแสวงหามาตรการยุติการปะทะอันนองเลือดในกว่า๒ปีที่ผ่านมา วัตถุประสงค์ของการประชุมครั้งนี้คือเพื่อให้ตัวแทนของรัฐบาลและฝ่ายค้านซีเรียร่วมกันเจรจาเพื่อไปสู่มาตรการในทุกด้าน เลี่ยงความสูญเสียในหมู่ประชาชนผู้บริสุทธิ์โดยขณะนี้ กิจกรรมการทูตแบบลูกกระสวยกำลังมีขึ้นอย่างคึกคักเพื่อหวังเปิดประตูแห่งการสนทนา ยุติการนองเลือดและการใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบอย่างทันที แต่น่าเสียดายว่า กำลังมีการคาดการณ์ที่ไม่ดีเกี่ยวกับการประชุมครั้งนี้ เพราะทั้งรัฐบาลซีเรียและกองกำลังฝ่ายค้านต่างยืนหยัดจุดยืนของตน ส่วนประเทศมหาอำนาจต่างๆยังไม่สามารถแสวงหาเสียงพูดเดียวกันเกี่ยวกับปัญหาซีเรียได้  ยังจำได้ว่า เมื่อเดือนมิถุนายนปี๒๐๑๒ ณ นครเจนีวา ก็มีการจัดการประชุมสันติภาพนานาชาติเกี่ยวกับซีเรียที่วัตถุประสงค์ก็ไม่ต่างกับการประชุมที่จะมีขึ้นในเร็วๆนี้ และในตอนนั้น ทุกฝ่ายที่เข้าร่วมการประชุมต่างมีคำแถลงและคำปราศรัยที่แข็งแกร่งว่า ต้องมีความตั้งใจที่จะแสวงหามาตรการเพื่อยุติการนองเลือดในซีเรีย แต่ผลสุดท้ายที่ออกมาก็ไม่เป็นไปตามความตั้งใจไว้ เพราะแม้จะสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวแต่ก็ไม่มีข้อตกลงใดๆที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับปัญหานี้ซึ่งทำให้ใน๑ปีที่ผ่านมา วิกฤตทางการเมืองในซีเรียนับวันมีความรุนแรงมากขึ้น

สันติภาพยังอยู่ไกลเอื้อม - ảnh 2
รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียและสหรัฐ พบปะหารือเกี่ยวกับปัญหาซีเรีย(Photo: )

มาถึงการประชุมรอบใหม่ในเร็วๆนี้ แม้จะจับมือกันเข้าร่วม แต่ทั้งสองประเทศมหาอำนาจคือ รัสเซียและสหรัฐก็ยังคงถกเถียงกันต่อไปโดยสหรัฐตำหนิรัสเซียที่ยังคงจัดสรรอาวุธให้แก่นายบาซาร์ อัลอัสซาดประธานาธิบดีซีเรีย ส่วนรัสเซียย้ำว่า อิหร่านซึ่งเป็นประเทศที่หนุนหลังสำคัญให้แก่ประธานาธิบดีบาซาร์ อัลอัสซาดต้องเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ แต่ฝรั่งเศสยืนยันว่า จะไม่เข้าร่วมถ้าหากเตหะรานเข้าร่วมการประชุมนี้ ส่วนรัสเซีย จีน และอีกบางประเทศยืนหยัดยับยั้งไม่ให้ต่างชาติใช้กำลังทหารเข้าแทรกแซงซีเรีย เมื่อวันที่๒๙เดือนนี้ รัสเซียได้ตำหนิร่างมติประนามรัฐบาลซีเรียก่อนการประชุมที่สภาสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติที่สหรัฐให้การสนับสนุนเพราะเห็นว่า สิ่งนี้จะส่งผลกระทบต่อความพยายามยุติสงครามกลางเมืองในซีเรีย ส่วนภายในประเทศซีเรีย แม้ว่า จะได้ตอบรับคำเชิญเข้าร่วมการประชุมเนื่องจากแรงกดดันจากวอชิงตัน แต่ฝ่ายค้านในซีเรียยังคงยืนยันว่า ทุกความคิดสร้างสรรค์จะต้องนำไปสู่การที่ประธานาธิบดีบาซาร์ อัลอัสซาดต้องลาออกจากตำแหน่ง แต่ทางฝ่ายประธานาธิบดีบาซาร์ อัลอัสซาดกลับยืนยันอยู่เสมอว่า จะไม่ลาออกจากตำแหน่งก่อนการเลือกตั้งและประเทศต่างๆไม่มีสิทธิ์แทรกแซงปัญหาการเมืองของประเทศนี้ซึ่งท่าทีที่เด็ดเดี่ยวนี้ของนายบาซาร์ อัลอัสซาดยังได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มฮิสบอลเลาะห์ซึ่งถูกสหรัฐระบุในรายชื่อกลุ่มก่อการร้ายโดยนายHassan Nasrallah หัวหน้ากลุ่มนี้ยืนยันว่า จะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อช่วยกอบกู้ระบอบของประธานาธิบดีบาซาร์ อัลอัสซาด นอกจากนี้ ปัจจุบันมีนักรบประมาณ๓ถึง๔พันคนในขบวนการติดอาวุธของชาวอิสลามซีอะห์ในเลบานอนกำลังสู้รบร่วมกับบรรดานักรบของทางการซีเรีย ในขณะเดียวกันมีการตัดสินใจที่อันตรายคือ เมื่อวันที่๒๗เดือนนี้ สหภาพยุโรปได้อนุมัติมติยกเลิกคำสั่งคว่ำบาตรอาวุธต่อฝ่ายค้านในซีเรียซึ่งเป็นการส่งสาส์นถึงระบอบของประธานาธิบดีบาซาร์ อัล อัสซาดว่า เขาจะไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากการสละอำนาจ ในสภาวการณ์ที่ฝ่ายต่างๆที่เข้าร่วมการประชุมมีความขัดแย้งเช่นนี้ จะไม่มีอะไรค้ำประกันได้ว่า การประชุมครั้งนี้จะประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม    ท่าทีของฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องต่อสถานการณ์ซีเรียปัจจุบันเป็นสัญญาณแสดงให้เห็นว่า วิกฤตนี้ต่างกับการพิพาทอื่นๆเพราะซีเรียได้กลายเป็นจุดรวมของการแทรกแซงจากประเทศมหาอำนาจและภูมิภาค  ซีเรียที่มีสถานะทางภูมิศาสตร์และอิทธิพลระดับชาติที่นับวันยิ่งซับซ้อน อาจจะมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงทั้งภูมิภาคหลังการประชุมนานาชาติครั้งนี้ ตราบใดที่มีความร่วมแรงร่วมใจของทุกฝ่ายในซีเรียและมีความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ของประชาคมระหว่างประเทศ ตราบนั้นจะมีความหวังเกี่ยวกับสันติภาพในประเทศนี้แต่สิ่งนี้ยากที่จะปฏิบัติได้ในสภาวการณ์ปัจจุบัน./.

คำติชม