ภาพการประชุม (VNA) |
ในการพัฒนาประเทศในระยะต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงปฏิบัติภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ หรือ Đổi mới ตั้งแต่ปี 1990 จนถึงปัจจุบัน พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ประกาศใช้เอกสาร คำสั่งและมติที่ค้ำประกันสิทธิเสรีภาพด้านความเชื่อและศาสนาที่ชอบด้วยกฎหมายของประชาชน เช่น มติที่ 25 ปี 2003 ของคณะกรรมการกลางพรรคเกี่ยวกับงานด้านศาสนาในสภาวการณ์ใหม่ โดยระบุว่า “เป้าหมายประชาชนมั่งคั่ง ประเทศพัฒนาอย่างเข้มแข็ง สังคมมีความยุติธรรม ประชาธิปไตยและอารยธรรมคือจุดมุ่งหมายเพื่อระดมผู้ที่นับถือศาสนาต่างๆในการปฏิบัติภารกิจนี้ร่วมกัน พลเมืองทุกคนไม่ว่าจะมีความเชื่อ นับถือหรือไม่นับถือศาสนาล้วนมีสิทธิ์และหน้าที่ในการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ”
ระบบนโยบายเกี่ยวกับเสรีภาพด้านความเชื่อและศาสนา
ในตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ได้มีการประกาศใช้เอกสารกฎหมายกว่า 30 ฉบับเกี่ยวกับกิจกรรมด้านความเชื่อ ศาสนา การแก้ไขข้อกำหนดเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพด้านความเชื่อและศาสนา เช่น กฤษฎีกาที่ 21 ปี 2004 ของคณะกรรมาธิการสามัญสภาแห่งชาติเกี่ยวกับกิจกรรมด้านความเชื่อและศาสนา มติที่ 22 ปี 2005 ของรัฐบาลที่แนะนำการปฏิบัติกฤษฎีกาด้านความเชื่อและศาสนา คำสั่งที่ 1940 ปี 2008 ของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับที่ดินและที่อยู่อาศัยเกี่ยวกับศาสนา โดยเฉพาะมาตราที่ 24 ในรัฐธรรมนูญปี 2013 ระบุว่า “ประชาชนทุกคนต่างมีสิทธิเสรีภาพด้านความเชื่อ การนับถือหรือไม่นับถือศาสนา ศาสนาต่างๆมีความเท่าเทียมกันตามกฎหมาย รัฐให้ความเคารพและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพด้านความเชื่อและศาสนา ห้ามทุกกระทำการที่ละเมิดเสรีภาพด้านความเชื่อและศาสนา หรือ ฉกฉวยเสรีภาพด้านความเชื่อและศาสนาเพื่อกระทำผิดกฎหมาย” ต่อมา สภาแห่งชาติสมัยที่ 14 ได้ประกาศใช้กฎหมายด้านความเชื่อและศาสนาปี 2016 ส่วนรัฐบาลได้ประกาศใช้มติที่ 162 ปี 2017 เกี่ยวกับข้อกำหนดและมาตรการบังคับใช้กฎหมายด้านความเชื่อและศาสนา ส่วนเอกสารของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 ปี 2021 ระบุว่า “รณรงค์ สร้างความสามัคคีและระดมองค์กรศาสนา ผู้ที่มีสมณศักดิ์และผู้นับถือศาสนาต่างๆ ให้ใช้ชีวิตที่ดีทั้งทางโลกและทางธรรม มีส่วนร่วมที่เข้มแข็งต่อภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ ค้ำประกันให้องค์กรศาสนาประกอบศาสนกิจตามกฎหมาย รัฐธรรมนูญและกฎระเบียบที่รัฐให้การรับรอง” ส่วนโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ฝ่ามทูหั่ง ได้ชี้ชัดถึงนโยบายเสรีภาพด้านความเชื่อและศาสนาของเวียดนามว่า
“จากการเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ ความเชื่อและศาสนา เวียดนามได้ปฏิบัตินโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายคือให้ความเคารพและค้ำประกันสิทธิเสรีภาพด้านความเชื่อ การนับถือหรือไม่นับถือศาสนาของประชาชน ความเสมอภาค ไม่มีการเลือกปฏิบัติต่อผู้ที่มีความเชื่อและนับถือศาสนาที่แตกต่างกัน คุ้มครองการประกอบศาสนกิจตามกฎหมาย ซึ่งสิ่งนี้ถูกระบุอย่างชัดเจนในรัฐธรรมนูญ กฎหมายด้านความเชื่อและศาสนา เอกสารกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และได้รับการปฏิบัติอย่างจริงจัง”
กิจกรรมด้านความเชื่อและศาสนาได้รับการค้ำประกัน
ทั้งนี้ แนวทาง นโยบายและกฎหมายดังกล่าวได้มีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาต่างๆของงานด้านความเชื่อและศาสนา สร้างกรอบทางนิตินัยเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่กิจกรรมด้านความเชื่อและศาสนาของประชาชน โดยสถานการณ์ในตลอด 20 ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า จำนวนผู้ที่มีสมณศักดิ์ ผู้ที่ปฏิบัติงานด้านศาสนาและศาสนสถานได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยจนถึงปี 2022 รัฐได้รับรองฐานะของ16 ศาสนาและองค์กรศาสนา 43 แห่ง โดยมีผู้นับถือศาสนาต่างๆประมาณ 27 ล้านคน มีศาสนสถานกว่า 2 หมื่น 9 พันแห่ง มีผู้ที่มีสมณศักดิ์กว่า 5 หมื่น 3 พันคน และผู้ที่ปฏิบัติงานด้านศาสนาประมาณ 1 แสน 3หมื่น 5 พันคน ทุกปี มีการจัดเทศกาลด้านความเชื่อและศาสนา 8 พันครั้งที่มีผู้นับถือศาสนาต่างๆหลายหมื่นคนเข้าร่วม ในช่วงปี 2013-2023 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มอบที่ดินหลายร้อยเฮกตาร์เพื่อก่อสร้างศาสนสถาน โดยเฉพาะในปี 2022 ทางการปกครองทุกระดับได้อนุญาตให้ก่อสร้างและซ่อมแซมศาสนาสถาน 152 แห่ง รับรองการแต่งตั้งผู้ที่มีสมณศักดิ์ 646 คน และผู้ที่ปฏิบัติงานด้านศาสนา 3,238 คน มีศาสนสถาน 183 แห่งได้รับอนุญาตให้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจ หนังสือขององค์กรศาสนา 140 องค์กรได้รับอนุญาตให้พิมพ์จำหน่ายกว่า 6 แสน 8 หมื่น 4 พันเล่ม ซึ่งนี่เป็นการพิสูจน์อย่างมีชีวิตชีวาเกี่ยวกับการค้ำประกันสิทธิเสรีภาพด้านความเชื่อและศาสนาในเวียดนาม
นอกจากนี้ แนวทางและนโยบายที่ถูกต้องด้านความเชื่อและศาสนาของเวียดนามได้มีส่วนร่วมสร้างกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ สร้างบรรยากาศที่เอื้อให้แก่องค์กรศาสนาต่างๆในการเดินพร้อมกับประชาชาติและมีส่วนร่วมสร้างสรรค์ประเทศให้นับวันพัฒนามากขึ้น บาทหลวงเจิ่นซวนแหม่ง ประธานคณะกรรมการสามัคคีคริสตศาสนาเวียดนาม ได้เผยว่า
“พวกเราได้รณรงค์ให้ทั้งผู้นับถือและไม่นับถือคริสตศาสนาสามัคคีเพื่อสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ มีความภาคภูมิใจในการเป็นคนเวียดนาม ยินดีรับใช้ประเทศ เข้าร่วมการรักษาความมั่นคงของประเทศอย่างเข้มแข็งและประชาสัมพันธ์ให้คนรุ่นใหม่พยายามฝึกฝนหล่อหลอมตนเอง ส่วนชาวคริสต์เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆในท้องถิ่น เช่น บริจาคที่ดินเพื่อสร้างถนนหรือบริจาคเงินให้แก่กองทุนส่งเสริมการศึกษา”
สิทธิเสรีภาพด้านความเชื่อและศาสนาของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆในเวียดนามถูกระบุอย่างเป็นรูปธรรทม โดยยึดหลักทัศนะของพรรคและได้รับการปฏิบัติเพื่อเป้าหมายสูงสุดคือส่งเสริมสิทธิการเป็นเจ้าของของประชาชน ตอบสนองความต้องการด้านความเชื่อและศาสนาที่ชอบด้วยกฎหมายของประชาชนและมีส่วนร่วมสร้างสรรค์ประเทศเวียดนามที่นับวันพัฒนาอย่างเข้มแข็ง มีความยุติธรรม ประชาธิปไตยและอารยธรรม.