รัฐสภายุโรปชุดใหม่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการรักษาเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ของกลุ่มฯ

Quang Dung
Chia sẻ
(VOVWORLD) - การประชุมครบองค์ครั้งแรกของรัฐสภายุโรปชุดใหม่ได้มีขึ้นในระหว่างวันที่ 16-19 กรกฎาคม ณ สำนักงานใหญ่ของกลุ่มฯในเมืองสตราสบูร์ก ประเทศฝรั่งเศส โดยที่ประชุมได้ลงคะแนนเลือกผู้นำของสหภาพยุโรป และส่งสัญญาณเกี่ยวกับเนื้อหาที่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆของอียูในอีก 5 ปีต่อจากนี้
รัฐสภายุโรปชุดใหม่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการรักษาเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ของกลุ่มฯ - ảnh 1นาง โรเบอร์ตา เมตโซลา (Reuters)

ในการประชุมครบองค์ครั้งแรกของรัฐสภายุโรปหรืออีพีวาระปี 2024-2029 สมาชิกรัฐสภายุโรป 720 คนได้ลงคะแนนเลือกนาง โรเบอร์ตา เมตโซลา ให้ดำรงตำแหน่งประธานอีพี วาระ 2 ปีครึ่ง และเลือกนาง เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการยุโรปหรืออีซีสมัยที่ 2

บททดสอบต่อนาง เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน

ในวันแรกของการประชุมรัฐสภายุโรปสมัยใหม่เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม สมาชิกรัฐสภายุโรป 562 คนได้ลงคะแนนสนับสนุนนาง โรเบอร์ตา เมตโซลา นักการเมืองชาวมอลตา อายุ 45 ปีและสมาชิกกลุ่มพรรคประชาชนยุโรปหรือ EPP ให้ดำรงตำแหน่งประธานอีพีในวาระ 2 ปีครึ่ง ซึ่งเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ เพราะก่อนหน้านั้น บรรดานักวิเคราะห์ส่วนใหญ่แสดงความเห็นว่า นาง โรเบอร์ตา เมตโซลา จะไม่ประสบอุปสรรคใดๆ ในการได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานอีพีอีกสมัย  เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มพรรคการเมืองในอีพี และเผชิญเพียงแค่อุปสรรคจากฝ่ายตรงข้ามซึ่งเป็นพรรคฝ่ายซ้ายของยุโรปเท่านั้น

ส่วนสำหรับนาง เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน นั้น การเรียกร้องการสนับสนุนเพื่อได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานอีซีวาระที่ 2 กลับต้องเผชิญอุปสรรคมากมายโดยก่อนการประชุมนัดแรกของอีพีในสมัยใหม่ ตัวแทนจากพรรคการเมืองหลายพรรคในอีพี โดยเฉพาะกลุ่มพรรคอนุรักษ์นิยมและปฏิรูปหรือ ECR โดยมีพรรคพี่น้องอิตาลีหรือ Frattelli d'Italia ของนาง จอร์จา เมโลนี นายกรัฐมนตรีอิตาลีเป็นแกนหลักได้คัดค้านการแต่งตั้งนาง เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ให้ดำรงตำแหน่งประธานอีซีอีกสมัย ส่วนกลุ่มพรรคการเมืองอื่นๆ หลายพรรคในอีพี เช่น พรรค Renew และพรรค Patriots ไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจนในการสนับสนุนนาง เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน  อีกทั้งยังเสนอเงื่อนไขเกี่ยวกับการประนีประนอมจากผู้นำอีซีเกี่ยวกับเนื้อหาที่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆในนโยบายของยุโรปในอีก 5 ปีข้างหน้า ความท้าทายเหล่านี้บวกกับกลไกการลงคะแนนลับของอีพีทำให้นาง เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ต้องเร่งรัดทำการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งอย่างเข้มข้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และในการลงคะแนนเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ด้วยเสียงสนับสนุน 401 เสียงและเสียงคัดค้าน 284 เสียงจากกลุ่มพรรค EPP พรรค S&D พรรค Renew และพรรค Green นาง เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน นักการเมืองหญิงชาวเยอรมันก็ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานอีซีอีกสมัย ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่มีอำนาจสูงสุดของสหภาพยุโรป นาง วาเลอรี ฮาเยอร์ ประธานกลุ่มพรรค Renew ของอีพีได้อธิบายว่า

“เราตัดสินใจสนับสนุนนาง เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน เพราะเธอได้มีแผนปฏิบัติการที่เต็มไปด้วยเป้าหมายต่างๆซึ่งสามารถตอบสนองและสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่เราต้องการเพื่อแลกกับการสนับสนุนเธอ โดยเฉพาะ ในปัญหาต่างๆ เช่น ความสามารถในการแข่งขัน ความมั่นคงและกลาโหม”

ในขณะเดียวกัน สมาชิกรัฐสภาอีพีหลายคนแสดงความเห็นว่า การสนับสนุนนาง เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ให้ดำรงตำแหน่งประธานอีซีถือเป็นผลประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์ของสหภาพยุโรปในการธำรงเสถียรภาพในสภาวการณ์ที่ความไร้เสถียรภาพเพิ่มขึ้น สส. Dirk Gotink จากกลุ่มพรรค EPP เผยว่า

“ไม่ว่าใครก็สามารถเข้าใจถึงผลที่ตามมาของการลงคะแนนคัดค้านนาง เออซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน เพราะความไร้เสถียรภาพทางภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบันนั้นชัดเจนมาก ทุกคนมองเห็นเรื่องนี้ ดังนั้น การลงคะแนนครั้งนี้คือการเลือกแผนปฏิบัติการและแนวทางที่ยุโรปต้องการมากกว่าเรื่องเกี่ยวกับตัวนาง นาง เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน”

รัฐสภายุโรปชุดใหม่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการรักษาเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ของกลุ่มฯ - ảnh 2นาง เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน (THX)

เนื้อหาที่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆในวาระใหม่

ด้วยการฟันฝ่าอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดจากอีพี นาง  เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน จึงสามารถส่งเสริมโครงการที่ทะเยอทะยานที่ได้วางไว้ในวาระแรกของเธอได้ อีกทั้ง ตั้งเป้าไว้สำหรับแผนปฏิบัติการใหม่ให้แก่สหภาพยุโรป ก่อนการลงคะแนนของอีพี นาง เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ได้นำเสนอวิสัยทัศน์ของแผนปฏิบัติการใหม่ที่หนา 31 หน้า ซึ่งหนึ่งในเนื้อหาที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆของประธานอีซีคือการดำเนินโครงการป้องกันของสหภาพยุโรป ซึ่งรวมถึงระบบป้องกันภัยทางอากาศ ตามความเห็นของนาง เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ถึงเวลาแล้วที่สหภาพยุโรปต้องสร้าง “พันธมิตรด้านกลาโหมยุโรปที่แท้จริง” ผ่านโครงการด้านกลาโหมขนาดใหญ่ ตลอดจนมีแผนการแต่งตั้งตำแหน่งใหม่คือกรรมาธิการที่ดูแลปัญหาด้านกลาโหม และให้คำมั่นว่าจะเผยแพร่ “หนังสือปกขาวเกี่ยวกับอนาคตของอุตสาหกรรมกลาโหมยุโรป” ภายใน 100 วันแรกของวาระใหม่ ต่อจากนั้นคือเนื้อหาที่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานและการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสหภาพยุโรป นาง เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประกาศว่า

“ดิฉันจะส่งเสริมข้อตกลงอุตสาหกรรมสะอาดฉบับใหม่ในช่วง 100 วันแรกของวาระใหม่ เพื่อดึงดูดการลงทุนเข้าในระบบโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรม โดยเฉพาะ ในด้านพลังงานที่มีความเข้มข้นสูง นอกจากนี้ ดิฉันจะเสนอให้จัดตั้งกองทุนด้านการแข่งขันของยุโรปชุดใหม่เพื่อเน้นถึงโครงการร่วมข้ามพรมแดน ส่งเสริมการแข่งขัน นวัตกรรมและการสนับสนุนข้อตกลงอุตสาหกรรมที่สะอาด”

สำหรับปัญหาสภาพภูมิอากาศ นาง เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ตั้งเป้าที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในสหภาพยุโรปให้ได้ร้อยละ 90 ภายในปี 2040 นอกจากนี้ ประธานอีซียังเผยว่ายังคงยืนหยัดคำมั่นที่ก่อให้เกิดข้อโต้แย้งในเวลาที่ผ่านมาคือ การยุติขายรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในในตลาดสหภาพยุโรปภายในปี 2035 ทั้งนี้ตามความเห็นของบรรดาผู้สังเกตการณ์ ด้วยการได้รับเสียงสนับสนุนที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ในอีพี และสูงกว่าวาระก่อน นาง เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน มีแหล่งพลังทางการเมืองที่สำคัญในการดำเนินแผนการใหม่ของเธอ แต่อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่กำลังรอ อยู่คือการหารือกับประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปเพื่อจัดตั้งคณะกรรมาธิการยุโรปชุดใหม่ที่สามารถตอบสนองการปรับดุลอำนาจด้านการเมืองในยุโรปหลังการเลือกตั้งรัฐสภาที่ผ่านมา.

คำติชม