(VOVWorld) – หนึ่งในเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญปี๑๙๙๒ฉบับแก้ไขที่ได้รับความสนใจจากประชามติและความคิดเห็นคือมาตราที่๔ที่ระบุบทบาทการนำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามซึ่งความเห็นจำนวนมากได้ยืนยันว่า ข้อกำหนดที่ระบุในมาตราที่๔ของร่างรัฐธรรมนูญเป็นสิ่งจำเป็นและสอดคล้องกับระบอบการเมืองของเวียดนาม
|
ยืนยันบทบาทการนำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามในร่างรัฐธรรมนูญปี๑๙๙๒(Photo:Internet) |
มาตราที่๔ของร่างรัฐธรรมนูญปี๑๙๙๒ฉบับแก้ไขได้รับความชื่นชมว่า มีความก้าวหน้าเมื่อเทียบกับรัฐธรรมนูญฉบับก่อนๆโดยยืนยันว่า พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามไม่เพียงแต่เป็นกองกำลังที่เดินหน้าของชนชั้นกรรมกรเท่านั้นหากยังเป็นกองกำลังเดินหน้าของประชาชนผู้ใช้แรงงานและประชาชาติเวียดนามอีกด้วย ในตลอดกว่า๘๐ปีที่คงอยู่และพัฒนา พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามไม่เพียงแต่ทำเพื่อผลประโยชน์ของชนชั้นกรรมกรเท่านั้นหากยังเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนผู้ใช้แรงงานและทั้งประชาชาติอีกด้วย ดังนั้นบทบาทการนำของพรรคได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในมาตราที่๔ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นและสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นจริงอย่างมีภาวะวิสัยและสถานการณ์การพัฒนาของประเทศในระยะใหม่ นายNguyễn Văn Thanh เจ้าหน้าที่เกษียรอายุราชการกล่าวว่า“พรรคเป็นผู้นำการปฏิวัติ ประเทศและสังคม ซึ่งยังคงเรียกว่า พรรคกุมอำนาจ อาศัยบนพื้นฐานของความไว้วางใจของประชาชนที่มีต่อพรรค ดังนั้น พวกเราต้องยืนยันถึงสถานะของพรรคในยุคเปลี่ยนแปลงใหม่ที่เต็มไปด้วยความผันผวนที่ซับซ้อนเป็นสิ่งจำเป็น”
|
พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามไม่เพียงแต่เป็นกองกำลังที่เดินหน้าของชนชั้นกรรมกรเท่านั้นหากยังเป็นกองกำลังเดินหน้าของประชาชนผู้ใช้แรงงานและประชาชาติเวียดนามอีกด้วย (Photo:Internet) |
มาตราที่๔ยังเพิ่มเติมข้อกำหนดที่ว่า พรรคมีความผูกพันอย่างใกล้ชิดสนิทสนมกับประชาชน รับใช้ประชาชน ภายใต้การตรวจสอบของประชาชนและรับผิดชอบเกี่ยวกับการตัดสินใจของตนต่อประชาชนซึ่งแสดงให้เห็นคุณลักษณะและความรับผิดชอบของพรรคต่อประชาชน บทบาทการนำของพรรคต้องควบคู่กับการส่งเสริมความรับผิดชอบของพรรคต่อประชาชน โดยเฉพาะ เชิดชูบทบาทการตรวจสอบของประชาชน หมายความว่า ประชาชนต้องมีสิทธิแสดงทัศนะต่อแนวทางของพรรค อาจารย์สาขาวิชากฏหมายแห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติฮานอยNguyễn Tuấn Anh กล่าวว่า“ร่างรัฐธรรมนูญระบุว่า พรรคอยู่ภายใต้การตรวจสอบของประชาชน แต่ต้องตรวจสอบเช่นไร ดังนั้น ควรเพิ่มเติมว่า ประชาชนปฏิบัติการตรวจสอบของตนต่อพรรคตามข้อกำหนดของกฏหมายเกี่ยวกับการตรวจสอบสังคมและการรับฟังเสียงสะท้อนจากสังคม จำเป็นที่จะต้องมีกฏหมายนี้ที่กำหนดอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการตรวจสอบพรรคและรัฐบาล”
|
ไม่เพียงแต่องค์กรพรรคเท่านั้นหากสมาชิกพรรคทุกคนต้องเคลื่อนไหวในกรอบของรัฐธรรมนูญและกฏหมาย(Photo:Internet) |
ร่างรัฐธรรมนูญยังยืนยันว่า ไม่เพียงแต่องค์กรพรรคเท่านั้นหากสมาชิกพรรคทุกคนต้องเคลื่อนไหวในกรอบของรัฐธรรมนูญและกฏหมายซึ่งรองศาสตราจารย์ ดร.Đỗ Ngọc Ninh อาจารย์อาวุโสสาขาสร้างสรรค์พรรค สถาบันรัฐศาตสร์และบริหารแห่งชาติโฮจิมินห์กล่าวว่า“มาตราที่๔ระบุว่า การเคลื่อนไหวขององค์กรพรรคและสมาชิกพรรคต้องอยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญและกฏหมายซึ่งเป็นข้อกำหนดทางนิตินัยต่อการเคลื่อนไหวของพรรค องค์กรพรรคและสมาชิกพรรคและยังได้ระบุในธรรมนูญพรรคซึ่งได้รับถือว่า เป็นหลักการเคลื่อนไหวของพรรค ดังนั้น องค์กรพรรคและสมาชิกพรรค ที่ละเมิดกฏหมายจะถูกลงโทษตามกฏหมายและข้อกำหนดของรัฐธรรมนูญเพราะพรรคไม่อนุญาติให้ใช้การลงโทษตามกฏหมายแทนการลงโทษทางวินัยของพรรค”
|
แสดงความคิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญปี๑๙๙๒ฉบับแก้ไข (Photo:Internet) |
เราไม่อาจปฏิเสธบทบาทการนำของพรรคต่อประเทศแต่เพื่อตอบสนองความต้องการของการพัฒนา ความเห็นจำนวนมากเห็นว่า พรรคต้องมีการเปลี่ยนแปลงมากยิ่งขึ้น เจ้าหน้าที่บริหารสมาชิกพรรคทุกคนต้องยกระดับความมุ่งมั่นทางการเมือง คุณสมบัติ คุณธรรมและเนื้อหานี้ต้องระบุในรัฐธรรมนูญ บทบาทการนำของพรรคได้รับการแปรให้เป็นรูปธรรมในมาตราที่๔ของร่างรัฐธรรมนูญเป็นความต้องการที่เร่งด่วนจากสถานการณ์ที่เป็นจริงอย่างมีภาวะวิสัยและสถานการณ์พัฒนาของประเทศในระยะใหม่./.
Vân