ภาคตะวันออกประเทศยูเครน–แนวหน้าในการเผชิญหน้าระหว่างตะวันออกกับตะวันตก

Ánh Huyền/VOV5
Chia sẻ
(VOVworld) –  สถานการณ์ยูเครนกำลังมีความผันผวนอย่างซับซ้อนและน่าวิตกกังวลเพราะ ในหลายวันที่ผ่านมา ที่จังหวัดและนครต่างๆในภาคตะวันออกประเทศยูเครนได้เกิดการชุมนุมเรียกร้องให้แยกตัวและประกาศอิสระ ในขณะที่การโต้เถียงระหว่างรัสเซียกับสหรัฐและตะวันตกก็ร้อนขึ้นทุกชั่วโมงในทุกฟอรั่มนับตั้งแต่ไครเมียผนวกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียามารถแสวงหามาตรการสนทนาได้

(VOVworld) –  สถานการณ์ยูเครนกำลังมีความผันผวนอย่างซับซ้อนและน่าวิตกกังวลเพราะ ในหลายวันที่ผ่านมา ที่จังหวัดและนครต่างๆในภาคตะวันออกประเทศยูเครนได้เกิดการชุมนุมเรียกร้องให้แยกตัวและประกาศอิสระ ในขณะที่การโต้เถียงระหว่างรัสเซียกับสหรัฐและตะวันตกก็ร้อนขึ้นทุกชั่วโมงในทุกฟอรั่มนับตั้งแต่ไครเมียผนวกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียซึ่งความผันผวนล่าสุดนี้ทำให้ยูเครนอาจตกเข้าสู่วิกฤตที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ถ้าหากทุกฝ่ายไม่สามารถแสวงหามาตรการสนทนาได้

ภาคตะวันออกประเทศยูเครน–แนวหน้าในการเผชิญหน้าระหว่างตะวันออกกับตะวันตก - ảnh 1
ผู้ชุมนุมที่นิยมรัสเซีย ณ นครโดเนตสค์ (Photo:AP)

ในหลายวันที่ผ่านมา นครโดเนตสค์ริมฝั่งแม่น้ำKalmiusได้เกิดความไม่สงบเพราะผู้ชุมนุมได้บุกยึดอาคารที่ทำการรัฐบาลและประกาศจัดตั้งสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์พร้อมทั้งได้มีการวางแผนลงประชามติเพื่อพิจารณาถึงการยื่นหนังสือขอขึ้นตรงกับรัสเซียในวันที่๑๑พฤษภาคม ต่อจากโดเนตสค์ ที่นครอีกสองแห่งคือลูกันสค์และคาร์คอฟก็เกิดสภาวการณ์ในลักษณะเดียวกันเพราะบรรดาผู้ที่สนับสนุนรัสเซียก็ประกาศจัดตั้งรัฐอิสระและจะจัดการลงประชามติตามแบบไครเมียเพื่อตัดสินใจการผนวกรวมเข้ากับรัสเซีย

ต่อความวิตกังวลเกี่ยวกับการที่บรรดาผู้ชุมนุมในภาคตะวันออกกำลังจงใจสร้างเงื่อนไขล่วงหน้าเพื่อก่อความผันผวนเหมือนในไครเมีย เมื่อวันที่๑๐เดือนนี้ ทางการเคียฟได้ยื่นคำขาดโดยยืนยันว่า ยุทธนาการต่อต้านการก่อการร้ายจะเสร็จสิ้นลงภายใน๔๘ชั่วโมง โดยบรรดาผู้ที่กำลังยึดครองอาคารที่ทำการรัฐบาลที่นครต่างๆในภาคตะวันออกมีสิทธิ์เลือกว่าจะสนทนาเพื่อแสวงหามาตรการทางการเมืองหรือต้องเผชิญกับการใช้ความรุนแรง

เหตุการณ์จะซ้ำรอยเหมือนไครเมีย

ทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้นในภาคตะวันออกประเทศยูเครนดูเหมือนว่ากำลังทำให้กรุงเคียฟและตะวันตกมีความเป็นห่วงเกี่ยวกับปฏิบัติการทหารของรัสเซียในสภาวการณ์ที่ไครเมียผนวกรวมเข้ารัสเซียได้เพียงเกือบ๑เดือน

สหรัฐเตือนว่า จะมีความเสียหายเพิ่มเติม ถ้ามอสโคว์มีก้าวเดินต่อไปเพื่อก่อความไม่สงบในยูเครนโดยเมื่อวันที่๑๐เดือนนี้ สหรัฐได้ส่งเรือรบไปยังทะเลดำซึ่งเป็นการส่งสัญญาณที่แข็งกร้าวต่อรัสเซีย ส่วนตะวันตกกล่าวหามอสโคว์ว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุไม่สงบในภาคตะวันออกยูเครนและขู่ว่า จะตอบโต้ด้วยมาตรการคว่ำบาตรซึ่งสหภาพยุโรปหรืออียูได้ขึ้นบัญชีบุคคลนับร้อยคนและองค์กรของรัสเซียที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการคุกคามดินแดนและอธิปไตยของยูเคนโดยแบ่งเป็น๕กลุ่มคือ สส. เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล  เจ้าหน้าที่บริหารหน่วยงานกลาโหม ความมั่นคง นักธุรกิจและนักข่าวซึ่งถ้าบัญชีดังกล่าวถูกอนุมัติ นักการเมืองคนสำคัญแทบทุกคนของรัสเซียจะไม่ได้วีซ่าเข้าเมืองและถูกอายัดบัญชีเงินฝากธนาคารในอียู ในขณะเดียวกัน ยูเครนก็กำลังเตรียมเอกสารสำเนาเพื่อยื่นฟ้องรัสเซียต่อศาลโลก

เพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหาดังกล่าว รัสเซียได้ขอร้องให้เคียฟยุติการตำหนิติติงรัสเซียว่าอยู่เบื้องหลังปัญหาของประเทศเพื่อนบ้านนี้และเตือนว่า การที่ยูเครนใช้กำลังเพื่อยุติการชุมนุมอาจนำไปสู่สงครามกลางเมือง รัสเซียแถลงว่า ไม่มีเจตนาที่จะรุกรานยูเครนเพียงแต่ปกป้องสิทธิผลประโยชน์ของชาวรัสเซียในยูเครนเท่านั้น

ทางออกให้แก่วิกฤติ

ต่อความผันผวนดังกล่าว บรรดาผู้สันทัดกรณีเห็นว่า การเผชิญหน้าระหว่างรัสเซียกับตะวันตกจะยืดเยื้อต่อไปเป็นเวลาอีกหลายวัน  รัสเซียมีจุดยืนที่เสมอต้นเสมอปลายคือไม่รับรองความชอบธรรมของทางการยูเครนปัจจุบัน ส่วนสหรัฐและตะวันตกถือการแทรกแซงไครเมียของรัสเซียดุจเป็นการยึดกลืนและรุกรานประเทศ การผลักดันให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนด์ติกเหนือหรือนาโต้หรือมาตรการคว่ำบาตรที่มีความรุนแรงยิ่งขึ้นต่อมอสโคว์อาจจะทำให้สถานการณ์ไม่ควบคุมได้ การบังคับให้ชาวยูเครนต้องเลือกระหว่างรัสเซียกับตะวันตกได้นำไปสู่วิกฤติในปัจจุบัน

อย่างไรก็ดี ขณะนี้มีปรากฎการณ์ใหม่ที่แสดงให้เห็นว่า ความตึงเครียดในความ สัมพันธ์ระหว่างทางการเคียฟกับมอสโคว์เริ่ทคลี่คลายลงหลังจากที่รัสเซียยินยอมให้ยูเครนเลื่อนการชำระค่าก๊าซที่ซื้อจากรัสเซียในเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคมปี๒๐๑๔ไปเป็นในปี๒๐๑๕เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทางการเคียฟมีเวลาแก้ไขอุปสรรคและปัญหาในภูมิภาคซึ่งตามบรรดาผู้สันทัดกรณี นี่เป็นก้าวเดินที่เฉลียวฉลาดของทางการมอสโคว์ ในขณะที่เศรษฐกิจยูเครนมีความเสี่ยงล้มละลาย วงเงินหนี้๑.๕๕พันล้านเหรียญสหรัฐจากการซื้อก๊าซจากรัสเซียและวงเงินช่วยเหลือฉุกเฉิน๑หมื่น๕พันล้านเหรียญสหรัฐที่มอสโคว์รับปากก่อนหน้านั้นอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงท่าทีจากทางการยูเครนปัจจุบันเพราะในสภาวการณ์ที่การใช้จ่ายชักหน้าไม่ถึงหลังดังปัจจุบันทำให้ทางการเคียฟต้องพิจารณาอย่างรัดกุมต่อวงเงินช่วยเเหลือต่างๆที่มาพร้อมกับข้อผูกมัดที่เข้มงวดจากยุโรปและการช่วยเหลือจากรัสเซียนอกจากนี้ ประชามติยังตั้งความหวังว่า การเจรจา๔ฝ่ายระหว่างสหรัฐ รัสเซีย ยูเครน และอียู ที่คาดว่าจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้าจะนำมาซึ่งความคืบหน้าให้แก่วิกฤติในยูเครน

เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ทุกฝ่ายกำลังถือไพ่เชิงยุทธศาสร์ของตนอย่างเฉลียวฉลาด การเจรจาเพื่อแสวงหามาตรการทางการเมืองเป็นวิธีการที่ดีที่สุดที่ทุกฝ่ายควรทำในปัจจุบันเพื่อคลี่คลายความตึงเครียดและหลีกเลี่ยงสงครามเย็น โดยเฉพาะ ในสภาวการณ์ที่ฝ่ายต่างๆล้วนมีความผูกมัดกันทางด้านเศรษฐกิจ./.

คำติชม