(VOVworld) – เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคแรงงานเกาหลีครั้งที่ 7 ได้เสร็จสิ้นลง โดยได้ลงคะแนนเลือกนาย คิมจองอึน ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแรงงานเกาหลีและอนุมัตินโยบายผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจและเพิ่มความสามารถด้านนิวเคลียร์เพื่อปกป้องตนเอง พร้อมทั้งอนุมัตินโยบายไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ ยกเว้นในกรณีที่ทางการเปียงยางถูกคุกคามจากประเทศมหาอำนาจด้านนิวเคลียร์ ตลอดจนมุ่งสู่เป้าหมายสร้างความปรองดองระหว่างสองภาคเกาหลี

นี่คือการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคแรงงานเกาหลีครั้งแรกในรอบ 36 ปีและภายใต้การนำของนาย คิมจองอึนซึ่งเป็นการสานต่อเกียรติประวัติ ทบทวนและสรุปผลสำเร็จที่พรรคได้บรรลุภายใต้การนำของบรรดาอดีตผู้นำประเทศ อีกทั้งเพื่อกำหนดแนวทางและนโยบายของพรรคแรงงานเกาหลีในสถานการณ์ใหม่ กิจกรรมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อธำรง เสริมสร้างสถานะการนำสูงสุดของพรรคต่อ รัฐกองทัพและประชาชน และสร้างโอกาสใหม่ให้แก่งานด้านต่างประเทศของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี

ในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคแรงงานเกาหลีครั้งที่7 นาย คิมจองอึน ได้ยืนยันว่า หน้าที่ของพรรคคือเสร็จสิ้นการวางแนวทางและนโยบายเกี่ยวกับการสร้างสรรค์สังคมนิยม ปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้นและรวมประเทศเป็นเอกภาพ ตลอดจนเสริมสร้างพลังที่เข้มแข็งของพรรค สำหรับแผนพัฒนาเศรษฐกิจระยะ 5 ปีตั้งแต่ปี 2016-2020 รายงานได้ระบุอย่างชัดเจนถึงหน้าที่ที่เร่งด่วนคือ ต้องปฏิบัติยุทธศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างสมบูรณ์เพื่อผลักดันการขยายตัวของเศรษฐกิจในทุกด้าน ค้ำประกันการพัฒนาที่สมดุลระหว่างหน่วยงานเศรษฐกิจต่างๆและสร้างพื้นฐานให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ย้ำถึงความตั้งใจของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีในการเพิ่มขีดความสามารถการป้องปรามด้านนิวเคลียร์จากนโยบายที่เป็นศัตรูของสหรัฐ ที่ประชุมยังได้ยืนยันว่า ทางการเปียงยางจะผลักดันโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์เนื่องจากกำลังเผชิญกับภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์จากภายนอก

สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างสองภาคเกาหลี นาย คิมจองอึนได้ย้ำว่า หน้าที่สำคัญที่สุดของพรรคแรงงานเกาหลีคือการรวมประเทศเป็นเอกภาพซึ่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่นี้ให้ประสบความสำเร็จ ปัญหาที่เร่งด่วนที่สุดคือต้องปรับปรุงความสัมพันธ์กับสาธารณรัฐเกาหลีโดยทั้งสองฝ่ายต้องให้ความเคารพกันและร่วมกันผลักดันการสนทนาและการเจรจาเพื่อเปิดระยะใหม่ให้แก่การปรับความสัมพันธ์ระหว่างสองภาคเกาหลีเพื่อความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน

การเปลี่ยนแปลงในกระบวนการพัฒนาประเทศที่ถูกเสนอในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคแรงงานเกาหลีครั้งที่ 7 ไม่ได้รับการชื่นชมจากสาธารณรัฐเกาหลี โดยในคำประกาศเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม กระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐเกาหลีได้ประกาศว่า สาธารณรัฐเกาหลีและประชาคมโลกจะไม่รับรองสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีเป็นประเทศมหาอำนาจด้านนิวเคลียร์ ทางการโซลจะสร้างแรงกดดันเพื่อทำให้เปียงยางละทิ้งความพยายามด้านนิวเคลียร์ผ่านมาตรการคว่ำบาตรที่แข็งกร้าวมากขึ้น นอกจากนั้น กระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐเกาหลียังปฏิเสธข้อเสนอที่จะสนทนาทางทหารระหว่างสองภาคเกาหลี โดยผู้นำของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีคิมจองอึนเป็นผู้เสนอ เพราะข้อเสนอแนะดังกล่าวไม่มีเจตนาดี พร้อมทั้งเรียกร้องให้สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลียุติพฤติกรรมยั่วยุและมุ่งสู่เป้าหมายปลดอาวุธนิวเคลียร์

คำประกาศจากการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคแรงงานเกาหลีครั้งนี้ได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากญี่ปุ่น รัสเซีย สหรัฐและจีนที่มีความวิตกกังวลเป็นอย่างมากเกี่ยวกับความสามารถพัฒนานิวเคลียร์ ตลอดจนการเคลื่อนไหวทางการเมืองภายในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีโดยปักกิ่งได้ยืนยันถึงผลกระทบจากการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคแรงงานเกาหลีครั้งที่ 7 ต่อสถานการณ์ภายในประเทศ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ โดยหลายปีที่ผ่านมา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีได้เริ่มผ่อนปรนนโยบายเกี่ยวกับเศรษฐกิจ ในขณะที่บรรดานักวิเคราะห์ปารีสได้แสดงความเห็นว่า พวกเขาไม่หวังที่จะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เข้มแข็งของเปียงยาง เพราะนี่เป็นโอกาสเพื่อให้ผู้นำ คิมจองอึน ได้รับอำนาจสูงสุดหลังจากปกครองประเทศมาเป็นเวลากว่า 4 ปี ส่วนสื่อของสหรัฐได้แสดงความเห็นว่า การที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีเสนอแผนการใหม่ที่เข้มแข็งเกี่ยวกับปัญหานิวเคลียร์ผ่านการสนทนาจะส่งผลให้สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลี ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีที่กำลังชะงักงันอาจได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นและรัฐบาลสหรัฐก็ต้องใช้วิธีการรับมือที่คล่องตัวและมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น
การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคแรงงานเกาหลีครั้งที่ 7 มีขึ้นในสภาวการณ์ที่ผู้นำ คิมจองอึนขึ้นครองอำนาจมาแล้วเกือบ 5 ปี จากคำประกาศต่างๆของผู้นำสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ประชาคมโลกได้แสดงความหวังว่า นอกจากผลักดันการขยายตัวด้านเศรษฐกิจควบคู่กับการพัฒนาความสามารถด้านอาวุธนิวเคลียร์แล้ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีจะมีการเปลี่ยนแปลงและพยายามมากขึ้นเพื่อโลกที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์และปฏิบัติหน้าที่ไม่เผยแพร่อาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์.