(VOVworld) –  ในการประชุมประจำเดือนมิถุนายนของรัฐบาลที่เพิ่งเสร็จสิ้นลง เมื่อบ่ายวันที่๑กรกฎาคม ท่านเหงวียนเติ๊นหยุงนายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ยืนยันอีกครั้งถึงความตั้งใจของรัฐบาลที่จะปฏิบัติเป้าหมายพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในปี๒๐๑๔ให้ลุล่วงไปด้วยดีโดยรัฐบาลจะเน้นแก้ไขอุปสรรคต่างๆเพื่อผลักดันให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพีในปีนี้อยู่ที่ประมาณร้อยละ๕.๘

ผลิตปลาสวายส่งออก (Photo:Cantho )

 ใน๖เดือนแรกของปี๒๐๑๔ เวียดนามต้องเผชิญหน้ากับอุปรรคและความท้าทายของเศรษฐกิจภายในประเทศและผลกระทบจากสถานการณ์โลกโดยเฉพาะ การที่จีนติดตั้งแท่นขุดเจาะไหหยาง๙๘๑ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะและไหล่ทวีปของเวียดนามอย่างผิดกฎหมาย

ใน๖เดือนแรกของปี๒๐๑๔ เศรษฐกิจได้รับการฟื้นฟูอย่างค่อยเป็นค่อยไป

            ท่านบุ่ยกวางวิงห์ รัฐมนตรีกระทรวงวางแผนและการลงทุนเผยว่า ใน๖เดือนแรกของปีนี้จีดีพีอยู่ที่ร้อยละ๕.๑๘สูงกว่าช่วงเดียวกันของปี๒๐๑๓ที่ร้อยละ๔.๙เท่านั้นโดยมีการขยายตัวค่อนข้างสูงทั้งในด้านการเกษตร ป่าไม้และสัตว์น้ำ

            สัญญาณที่ดีของเศรษฐกิจยังแสดงให้เห็นจากอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงเหลือเพียงร้อยละ๑.๓๘ภายหลัง๖เดือนซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดในรอบ๑๓ปี การส่งออกมีการขยายตัวในระดับสูง และมีความได้เปรียบดุลการค้าอยู่ที่๑.๓๒พันล้านเหรียญสหรัฐ การผลิตอุตสาหกรรม โดยเฉพาะ อุตสาหกรรมแปรรูป การผลิตได้รับการฟื้นฟู ดัชนีการผลิตอุตสาหกรรมหรือไอไอพี ใน๖เดือนแรกของปีนี้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมแปรรูปและการผลิต ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังเสร็จสิ้นการประชุมประจำเดือนมิถุนายนของรัฐบาลเมื่อบ่ายวันที่๑เดือนนี้ ท่านเหงวียนวันเนนรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า“ผลสำเร็จดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ในสภาวการณ์ที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก พวกเราได้ดำเนินมาตรการที่สมบูรณ์แบบ ชี้นำการปฏิบัติร่วมกับประชาชนและสถานประกอบ การเพื่อประสบผลเป็นที่น่ายินดี ดัชนีมหภาค รวมทั้ง การเงินและดุลชำระอื่นๆมีเถียรภาพ จนถึงขณะนี้ เมื่อมองในภาพรวมจะเห็นว่า เศรษฐกิจมหภาคมีเสถียรภาพ ดุลชำระ การส่งออกนำเข้า รายรับและรายจ่ายงบประมาณล้วนมากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ การเกษตรมีการขยายตัวและมีบางด้านที่มีอัตราการขยายตัวสูง  รวมทั้งการบริการ”

ปฏิบัติมาตรการทางเศรษฐกิจอย่างสมบูรณ์แบบใน๖เดือนที่เหลือของปีนี้

            ในที่ประชุม ท่านเหงวียนเติ๊นหยุงนายกรัฐมนตรีเวียดนามได้เผยว่า ในกระบวนการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจ รัฐบาลกำลังดำเนินมาตรการหลายอย่างเพื่อขยายตลาดส่งออก โดยเฉพาะ การผลักดันกระบวนการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีต่างๆ ปรับปรุงกลไกและนโยบายที่เกี่ยวข้องถึงการประมูลและการนำเข้าวัตถุดิบให้มีความสมบูรณ์เพื่อจะได้ไม่ต้องพึ่งพาตลาดหนึ่งตลาดใดเป็นพิเศษ ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังการประชุมประจำเดือนมิถุนายนของรัฐบาล ท่านโด๋ทั้งหายรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ได้กล่าวถึงเนื้อหานี้ว่า“รัฐบาล กระทรวงและหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ค่อยๆสร้างความหลากหลายของตลาดนำเข้าและส่งออกและขยายตลาดผ่านการเจรจา ปัจจุบัน พวกเราได้ลงนามข้อตกลงการค้าเสรีหรือเอฟทีเอ๘ฉบับกับประเทศต่างๆ และกำลังผลักดันเพื่อบรรลุข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกหรือทีพีพีและข้อตกลงกับสหภาพศุลกากรรัสเซีย คาซักถาน และเบลารุสและเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่านหวูฮวีหว่างรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ได้นำคณะเจรจาเวียดนามไปยังสหภาพยุโรปหรืออียูเพื่อปฏิบัติขั้นตอนในการบรรลุข้อตกลงระหว่างเวียดนามกับอียู พวกเรามีความประสงค์ว่า ข้อตกลงกับอียูและกับสหภาพศุลกากรรัสเซีย คาซักถาน และเบลารุส อาจเสร็จสิ้นลงในปี๒๐๑๔นี้ซึ่งเป็นงานที่พวกเราเร่งรัดทำในตลอด๒เดือนที่ผ่านมา”

            นอกจากการผลักดันการส่งเสริมการค้าแล้ว สิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่กระทรวง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการก็คือ การผลักดันการปฏิบัติแนวทางชาวเวียดนามให้ความสนใจใช้สินค้าเวียดนาม

            ส่วนในด้านการเงินและธนาคาร ท่านเจิ่นวันเฮี๊ยวรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการ คลังเผยว่า เวียดนามกำลังปฏิบัติโครงการปรับปรุงโครงสร้างการลงทุนสาธารณะและได้ประสบผลที่สำคัญในเบื้องต้น รายจ่ายในด้านการลงทุนพัฒนาและงบประมาณแผ่นดินใน๖เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ร้อยละ๔๘ ซึ่งถือเป็นการเบิกจ่ายที่ดี เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี๒๐๑๓ โดยเฉพาะ ในสภาวการณ์ที่แหล่งเงินทุนมีจำกัด

“ใน๖เดือนปลายปี จะลดระเบียบการต่างๆเพื่อเบิกจ่ายเงินโครงการต่างๆ บรรลุเงินทุนงบประมาณ รวมทั้งเงินทุนจากพันธบัตรรัฐบาลซึ่งถือเป็นหน้าที่สำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือการดึงดูดทุกแหล่งพลังให้เข้าร่วมการลงทุนพัฒนาเพื่ออำนวยความสะดวกให้หน่วยงานเศรษฐกิจต่างๆ โดยเฉพาะ กิจการสาธารณูปโภคมีการพัฒนา มาตรการต่างๆเกี่ยวกับการลงทุนสาธารณะ ได้แก่ การผลักดันการเบิกจ่ายงบประมาณ มีกลไกและนโยบายเพื่อดึงดูดทุกแหล่งพลังในสังคมให้เข้าร่วมการลงทุนพัฒนา”

เพื่อปล่อยเงินทุนสินเชื่อในตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ ท่านเหงวียนด่งเตี๊ยนรองผู้ว่าการธนาคารชาติเวียดนามเห็นว่า ต้องมีการประสานนโยบายที่เกี่ยวข้องถึงระเบียบการประกันเงินกู้ และการแก้ไขปัญหาทรัพย์สิน นอกจากนี้ ต้องเน้นแก้ไขปัญหาหนี้เสียซึ่งเป็นหนึ่งในอุปสรรคปัจจุบัน ผ่านกลไกของบริษัทซื้อขายทรัพย์สินได้มีการแก้ไขปัญหานี้ในเวลาที่ผ่านมาและจะต้องแก้ไขต่อไปในเวลาข้างหน้า

จากมาตรการต่างๆของรัฐบาลและการประสานนโยบายมหภาคต่างๆ เวียดนามจะสามารถบรรลุอัตราการขยายตัวที่เหมาะสมเพื่อมีส่วนร่วมปฏิบัติเป้าหมายเศรษฐกิจสังคมอื่นๆให้ลุล่วงไปด้วยดี./.

Hồng Vân