 นาง เหงวียนถิเฮือง อธิบดีกรมสถิติ |
ยอดผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือจีดีพีใน 6 เดือนแรกของปี 2025 ได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.52 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งสูงที่สุดเมื่อเทียบกับ 6 เดือนแรกของปีต่างๆ ในช่วงปี 2011-2025 มูลค่าการนำเข้าและส่งออกสินค้าได้เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 16 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันและได้เปรียบดุลการค้า 7.63 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
พื้นฐานของการขยายตัว
สิ่งที่โดดเด่นคือ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา มีการปฏิบัตินโยบายเชิงยุทธศาสตร์ต่างๆ อย่างเคร่งครัดในทุกระดับ โดยในการประชุมครั้งที่ 9 สภาแห่งชาติสมัยที่ 15 สภาแห่งชาติได้อนุมัติมติฉบับแก้ไขและเพิ่มเติมบางมาตราของรัฐธรรมนูญพร้อมกฎหมายและมติหลายฉบับมีความพร้อมเพรียงกัน ซึ่งสร้างพื้นฐานให้แก่การปฏิรูปและดำเนินงานรูปแบบทางการปกครองท้องถิ่น 2 ระดับ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงใหม่นี้จะเอื้อให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมมากขึ้น ลดขั้นตอนระเบียบในการทำระเบียบราชการและมอบอำนาจโดยตรงให้แก่สำนักงานที่รับผิดชอบในการปฏิบัติ
ใน 6 เดือนแรกของปีนี้ พรรคและรัฐเวียดนามได้ประกาศและเร่งปฏิบัติรูปแบบ “ 4 แกนหลักเชิงยุทธศาสตร์” เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมด้านกลไกที่มีเสถียรภาพ โปร่งใสและมีประสิทธิภาพให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจ ขยายสภาพแวดล้อมให้แก่การพัฒนาและดึงดูดแหล่งพลังจากทั่วโลก ส่งเสริมการขยายตัวภายใน สร้างสรรค์ระบบเศรษฐกิจที่อิสระ พึ่งตนเองและนวัตกรรม
ควบคู่กันนั้น รัฐบาลได้เน้นชี้นำกระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆ ปกป้องสถานประกอบการที่ประกอบธุรกิจอย่างชอบธรรมเพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจเชิงตลาดอย่างโปร่งใสและเข้มแข็ง ปกป้องบรรยากาศการลงทุนประกอบธุรกิจ ยกระดับชื่อเสียงและเครื่องหมายการค้าของประเทศในสภาวการณ์ที่มีความยากลำบากในการผลิต การส่งออก และความไร้เสถียรภาพและความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและซับซ้อนของสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองโลก
การเสริมสร้างระบบเศรษฐกิจเชิงตลาดอย่างโปร่งใสและเข้มแข็งบวกกับความคิดที่ต้องพัฒนาอย่างรอบด้าน เวียดนามได้สร้างความไว้วางใจต่อนักลงทุนทั้งภายในและต่างประเทศต่อบรรยากาศการลงทุนประกอบธุรกิจในเวียดนาม ซึ่งที่น่ายินดีคือ ใน 6 เดือนแรกของปีนี้ ยอดเงินลงทุนในสังคมได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเงินทุนในการปฏิบัติของเศรษฐกิจภาคเอกชนอยู่ในระดับสูงที่สุด คือร้อยละ 54 สำหรับการขยายตัวที่น่าประทับใจนี้ นาง เหงวียนถิเฮือง อธิบดีกรมสถิติได้ให้ข้อสังเกตว่า
“การมอบสิทธิอำนาจให้แก่หมู่คณะและบุคคลแต่ละคนในระดับที่แตกต่างกันเพื่อมีส่วนร่วมมากที่สุดทั้งในด้านทักษะความสามารถและแหล่งพลังเพื่อปฏิบัติภารกิจอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการแบ่งอำนาจและหน้าที่อย่างชัดเจนในแต่ละตำแหน่ง”
ใช้ศักยภาพที่มีอยู่เพื่อผลักดันการขยายตัวต่อไป
ผลที่น่ายินดีจากการพัฒนาเศรษฐกิจใน 6 เดือนแรกของปีนี้จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญเพื่อให้เวียดนามบรรลุเป้าหมายที่วางไว้คือจะมีการขยายตัวทั้งปีอยู่ที่ร้อยละ 8 ขึ้นไปและจะบรรลุเลขสองหลักในปีต่อๆ ไป นาง เหงวียนถิมายแห่ง หัวหน้าคณะกรรมการดูแลระบบบัญชีแห่งชาติสังกัดกรมสถิติเผยว่า นี่เป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับการบรรลุเป้าหมายการขยายตัวที่ร้อยละ 8 ขึ้นไป เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ ในเวลาที่เหลือ เวียดนามต้องใช้ศักยภาพที่ยังมีอยู่ในการขยายตัวอย่างเต็มที่ โดยการลงทุนภาครัฐจะเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุด ปัจจุบันนี้ รัฐบาลเวียดนามกำลังชี้นำการปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการเบิกจ่ายเงินทุนภาครัฐได้ 100% โดยเฉพาะในโครงสร้างพื้นฐานระดับชาติ ต่อจากนี้ จะเน้นในด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลและนวัตกรรมและการขยายตัวด้านสินเชื่อ นาง เหงียนถิมายแห่ง กล่าวว่า
“วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลและนวัตกรรมจะเป็นพลังขับเคลื่อนหลักและมีบทบาทเชิงยุทธศาสตร์ การพัฒนาอย่างรวดเร็วของวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลและนวัตกรรมจะเปิดโอกาสให้สถานประกอบการเข้าถึงและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในการผลิตเพื่อลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มผลิตภาพของแรงงาน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ความพยายามขยายตัวด้านสินเชื่อให้อยู่ที่ร้อยละ 16 ภายใต้การบริหารที่สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นจริงในปี 2025 จะสร้างศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ให้แก่การขยายตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งผ่านการจัดสรรเงินทุนเป็นส่วนใหญ่เพื่อกระตุ้นการผลิตและประกอบธุรกิจ ผลักดันการลงทุนและการบริโภคในสังคม”
เวียดนามปฏิบัติหน้าที่พัฒนาเศรษฐกิจสังคมด้วยเจตนารมณ์การเป็นฝ่ายรุก คล่องตัวและรับมืออย่างมีประสิทธิภาพต่อความไร้เสถียรภาพและความผันผวนอย่างรวดเร็วของสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจในทั่วโลก กลไกที่เอื้ออำนวย บรรยากาศการพัฒนาที่ได้รับการขยายอย่างกว้างขวางผ่านการควบรวมจังหวัดและนครต่างๆ บวกกับการชี้นำอย่างเคร่องครัดจากส่วนกลางไปจนถึงส่วนท้องถิ่นจะเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญช่วยให้เวียดนามบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ของการพัฒนาประเทศภายในปี 2025.