ผลกระทบจากการที่สถาบันจัดอันดับ เอส แอนด์ พี ปรับลดอันดับเครดิต9ประเทศยุโรป

Chia sẻ
วันศุกร์ที่ผ่านมาถือเป็นวันที่มืดมนของเขตยูโรโซนเมื่อสถาบัน สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร ได้ปรับลดอันดับเครดิต9ประเทศในยุโรป ซึ่ง เป็นการทำลายความพยายามเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นที่บรรดานักวางนโยบายยุโรป กำลังปฏิบัติเพื่อให้เขตยูโรโซนหลุดพ้นจากภาวะวิกฤต์ในปัจจุบัน

        วันศุกร์ที่ผ่านมาถือเป็นวันที่มืดมนของเขตยูโรโซนเมื่อสถาบัน สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร ได้ปรับลดอันดับเครดิต9ประเทศในยุโรป ซึ่งเป็นการทำลายความพยายามเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นที่บรรดานักวางนโยบายยุโรปกำลังปฏิบัติเพื่อให้เขตยูโรโซนหลุดพ้นจากภาวะวิกฤต์ในปัจจุบัน

ผลกระทบจากการที่สถาบันจัดอันดับ เอส แอนด์ พี ปรับลดอันดับเครดิต9ประเทศยุโรป - ảnh 1
สถาบันจัดอันดับ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ ได้ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ 9 ใน 17 ประเทศในยูโรโซน โดยฝรั่งเศส, ออสเตรีย, มอลตา, สโลวาเกีย และสโลเวเนียถูกปรับลด อันดับความน่าเชื่อถือลง 1 ขั้น ขณะที่อิตาลี, โปรตุเกส, สเปน และไซปรัส ถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลง 2 ขั้น ส่วนประเทศอื่นๆแม้จะไม่ถูกปรับลดแต่ก็ถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงในทางลบ ยกเว้นเยอรมนีเท่านั้นที่ยังถือว่ามีเสถียรภาพอยู่ จากสถานการณ์ดังกล่าวนั้นถึงแม้รัฐมนตรีกระทรวงการคลังฝรั่งเศสนายฟรังซัวร์ บารวง พยายามลดความรุนแรงจากการถูกลดอันดับโดยกล่าวว่า ถึงนี่จะมิใช่ข่าวดีแต่ก็ไม่ได้เป็นเหตุร้าย แต่ในทางเป็นจริงการถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือนั้นได้ส่งผลกระทบทางด้านจิตวิทยาโดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่ประเทศต่างๆของยุโรปโดยเฉพาะเยอรมนีและฝรั่งเศสกำลังพยายามฟื้นฟูความเชื่อมั่นของตลาดต่อสกุลเงินยูโร

ภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว ตลาดหุ้นต่างประเทศก็ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว โดยที่สหรัฐ ดัชนีดาวโจนส์เมื่อวันที่13มกราคมได้ปรับลดลงร้อยละ1.1 ดัชนีเอสแอนด์พี500ลดลงร้อยละ1.22  ดัชนีแนสแดก ลดลงร้อยละ1.06 ส่วนที่ยุโรปดัชนียูโรสต๊อค ลดลงร้อยละ1.26ในขณะที่ดัชนีหุ้นเอฟทีเอสอีของอังกฤษลดลงร้อยละ1.2 ดัชนีซีเอซี40ของฝรั่งเศสลดลง1.12และดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของเยอรมนีลดลงร้อยละ1.5  แต่ผลกระทบที่ถือว่าร้ายแรงที่สุดคือการที่ฝรั่งเศสซึ่งเป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของเขตยูโรโซนก็ถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือลงอันเป็นการสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าวิกฤต์หนีสาธารณะในเขตนี้กำลังเล็วร้ายมากขึ้น โดยการถูกลดอันดับอาจจะทำให้ฝรั่งเศสต้องชำระดอกเบี้ยเงินกู้สูงกว่าปัจจุบันในขณะที่ฝรั่งเศสได้ประกาศจำหน่ายพันธบัตร178พันล้านยูโร ซึ่งจะทำให้ฝรั่งเศสต้องเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้นในด้านการเงินและผลที่ตามมาอีกก็คือ กองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป หรือ อีเอฟเอสเอฟ ซึ่งเป็นระเบียบการช่วยเหลือประเทศที่กำลังประสบอุปสรรคด้านการเงินนั้นก็อาจจะถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือลงด้วยเช่นกัน ส่วนประเทศและสถานประกอบการต่างๆในยุโรปก็จะประสบความลำบากมากขึ้นเนื่องจากไม่มีแหล่งการเงินเพื่อสนับสนุนรวมทั้งวงเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล  ในขณะเดียวกัน ธนาคารต่างๆในยูโรโซนกำลังต้องการเงินจำนวน280พันล้านยูโรโดยด่วนเพื่อใช้หมุนเวียนการชำระหนี้ในไตรมาสแรกของปี2012 ส่วนกรีซนั้นถ้าไม่ได้รับเงินช่วยเหลือก้อนใหม่มูลค่า130พันล้านยูโรจากอียู จากธนาคารกลางยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศเพื่อชำระพันธบัตรก็จะต้องประกาศผิดนัดชำระหนี้ระหว่างประเทศในเดือนมีนาคมนี้  นอกจากนั้นการที่ฝรั่งเศสถูกปรับลดอันดับความ่าเชื่อถือก็ทำลายสถานะความสมดุลที่เปราะบางอยู่แล้วระหว่างฝรั่งเศสและเยอรมนีเมื่อนายกฯเยอรมนีและผู้อำนวยการองค์การไอเอ็มเอฟจะเป็นผู้ตัดสินนโยบายในยุโรป  โดยหลังจากที่เอสเอ็นพีประกาศการลดอันดับความน่าเชื่อถือของหลายประเทศยุโรปนั้น นายกรัฐมนตรีของเยอรมนี แองเกลาเมอร์เกนได้ให้คำมั่นว่าจะผลักดันการปฏิรูปเขตยูโรโซนและย้ำว่าพวกเรากำลังเผชิญกับการท้าทายที่เรียกร้องให้เราปฏิบัติสนธิสัญญาทางการเงินในทันที และพวกเราต้องปฏิบัติอย่างเด็ดขาดเพื่อวางรากฐานให้แก่อนาคตมิใช่เพื่อแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าเท่านั้น รวมทั้งต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อการเปิดใช้กองทุนรักษาเสถียรภาพในเร็ววันนี้ ซึ่งนี่คือเรื่องสำคัญเพื่อฟื้นฟูความเชื่อถือของบรรดานักลงทุน 

ในสภาวการณ์ที่ประเทศยุโรปต่างๆกำลังตกเข้าสู่วิกฤต์จนอัตราการขยายตัวเป็นศูนย์นั้น  ทั้งเขตยูโรโซนและอีกหลายประเทศนอกเขตก็ยังคงต้องรับมือกับแรงกดดันจากการปรับลดค่าใช้จ่ายลงอีกมากเพื่อการชำระหนี้ แต่จนถึงปัจจุบันบรรดานักวางนโยบายยุโรปยังไม่สามารถมีความเห็นพ้องกันต่อแนวทางและมาตรการทางเศรษฐกิจเพื่อรับมือกับวิกฤตหนี้สินได้ ดังนั้นการที่เอสเเอนด์พีได้ประกาศการลดอันดับความน่าเชื่อถือของหลายประเทศในยุโรปก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่ที่สำคัญคือจะส่งผลกระทบในทางลบต่อชื่อเสียงด้านเศรษฐกิจของยุโรปและวิกฤต์หนี้สาธารณะจะเลวร้ายยิ่งขึ้นถ้าหากในการประชุมที่จะมีขึ้นในปลายเดือนนี้ บรรดาผู้นำยุโรปยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงที่จำเป็นได้./.

                                                                                                                              Doan Trung - VOV5

คำติชม