เลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม และภริยา โงเฟืองลี (Photo: TTXVN) |
บนพื้นฐานของความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านาน การเยือนสหพันธรัฐรัสเซียและสาธารณรัฐเบลารุสของเลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม เป็นการยืนยันสารและความตั้งใจของเวียดนามในการเสริมสร้างความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานกับประเทศต่างๆ ที่เคยอยู่ในสังกัดอดีตสหภาพโซเวียต สร้างพื้นฐานเพื่อผลักดันความร่วมมือในระยะยาว มีประสิทธิภาพ จริงจังและเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน
เวียดนามและสหพันธรัฐรัสเซียมุ่งสู่อนาคต
นี่เป็นการเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการครั้งแรกของเลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม ในฐานะผู้นำสูงสุดของพรรค ซึ่งมีขึ้นประจวบกับโอกาสที่ทั้งสองประเทศรำลึกครบรอบ 75 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ซึ่งตรงกับวันที่ 30 มกราคม และรำลึกครบรอบ 70 ปีการเยือนสหภาพโซเวียตอย่างเป็นทางการครั้งแรกของประธานโฮจิมินห์ ซึ่งก็เป็นโอกาสเพื่อให้ทั้งสองประเทศรำลึกวันงานใหญ่ในแต่ละประเทศ นาย ดั่งมิงโทย เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำสหพันธรัฐรัสเซียย้ำว่า
“การเยือนนี้มีขึ้นในช่วงเวลาประวัติศาสตร์และมีความหมายที่สำคัญ ซึ่งความหมายที่สำคัญที่สุดคือการเยือนครั้งนี้เป็นการสานต่อประวัติศาสตร์ เป็นการยืนยันถึงความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในปัจจุบันและมุ่งสู่อนาคตใหม่ ในกรอบการเยือนครั้งนี้ ผู้นำทั้งสองประเทศจะหารือเกี่ยวกับแนวทางความสัมพันธ์ทวิภาคีในเวลาที่จะถึง”
ความไว้วางใจทางการเมืองในระดับสูงเป็นพื้นฐานที่มั่นคงเพื่อให้เวียดนามและสหพันธรัฐรัสเซียมุ่งสู่ความร่วมมือที่กว้างลึกมากขึ้นในสภาวการณ์ใหม่ นาย Gennady Stepanovich Bezdetko เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำเวียดนามได้ยืนยันว่า
“ในสภาวการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงภูมิรัฐศาสตร์ในโลก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการธำรงและเสริมสร้างความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนมิตรที่มีความสัมพันธ์มาช้านาน ซึ่งในนั้นคือความสัมพันธ์ระหว่างสหพันธรัฐรัสเซียกับเวียดนาม พวกเรามีความเชื่อมั่นต่ออนาคต รัสเซียพร้อมร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับเวียดนามเพื่อใช้ประโยชน์จากศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ของความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้าน”
ความพร้อมและความตั้งใจของทั้งสองฝ่ายเป็นพลังขับเคลื่อนใหม่เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ในด้านวิทยาศาสตร์- เทคโนโลยี ความมั่นคง กลาโหมและปิโตรเลียม ซึ่งเป็นเสาหลักของความร่วมมือทวิภาคี สหพันธรัฐรัสเซียเป็นประเทศที่มีการพัฒนาในด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ ควอนตัม ปัญญาประดิษฐ์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีใหม่และพลังงานสีเขียว ซึ่งเป็นด้านที่จำเป็นสำหรับเวียดนามในการพัฒนาประเทศในปัจจุบัน
“เวียดนามกำลังฟื้นฟูโครงการโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ ซึ่งความร่วมมือด้านนิวเคลียร์เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจในความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับรัสเซีย ผมเห็นว่า ทั้งสองประเทศไม่เพียงแต่ร่วมมือในการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 1-2 แห่งเท่านั้น หากสหพันธรัฐรัสเซียจะช่วยเวียดนามในการพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมเทคโนโลยีหลักที่ช่วยให้เวียดนามย่างเข้าสู่ยุคแห่งการพัฒนาประเทศ”
การที่เลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม เข้าร่วมพิธีรำลึกครบรอบ 80 ปีแห่งชัยชนะเหนือลัทธิฟาสซิสต์ที่จัตุรัสแดงและกองทัพเวียดนามเข้าร่วมขบวนการเดินพาเหรดในพิธีนี้เป็นครั้งแรกได้ส่งสารว่า เวียดนามไม่เพียงแต่จดจำบุญคุณของวีรชนสหภาพโซเวียตที่ได้สละชีพในสงครามโลกครั้งที่ 2 และยืนยันถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างเวียดนามกับอดีตสหภาพโซเวียตและสหพันธรัฐรัสเซียในปัจจุบันเท่านั้น หากยังเป็นโอกาสแนะนำภาพลักษณ์ของประเทศเวียดนามที่ใฝ่สันติภาพและพร้อมมีส่วนร่วมต่อกิจกรรมต่างๆของโลกอีกด้วย
นาย ดั่งมิงโทย เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำสหพันธรัฐรัสเซีย (Photo: VOV- Moscow) |
สร้างสรรค์วิสัยทัศน์ใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับเบลารุส
ส่วนการเยือนเบลารุส นี่เป็นการเยือนครั้งแรกของเลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม และเป็นการเยือนเบลารุสครั้งแรกของเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามในรอบ 11 ปี ซึ่งผู้นำเบลารุสได้ยืนยันหลายครั้งว่า ถือเวียดนามเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมทั้งมีความประสงค์ที่จะส่งเสริมความร่วมมือในด้านต่างๆ รวมทั้งด้านใหม่ที่มีศักยภาพ ทั้งสองประเทศกำลังร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การศึกษาและฝึกอบรม วัฒนธรรม การกีฬาและการท่องเที่ยว การคมนาคมและขนส่งและความร่วมมือระดับท้องถิ่นด้วยผลงานในเชิงบวกและศักยภาพการพัฒนาที่เปิดกว้าง ในสภาวการณ์นี้ การเยือนเบลารุสของเลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม มีส่วนร่วมจัดทำวิสัยทัศน์และผลักดันความร่วมมือในทุกด้านในสภาวการณ์ใหม่
บนพื้นฐานของความสัมพันธ์มิตรภาพที่ผู้นำและประชาชนเวียดนาม สหพันธรัฐรัสเซียและเบลารุสทำนุบำรุง การเยือนสหพันธรัฐรัสเซียและเบลารุสอย่างเป็นทางการและการเข้าร่วมพิธีรำลึกครบรอบ 80 ปี ชัยชนะเหนือลัทธิฟาสซิสต์ของเลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม ได้ยืนยันความตั้งใจของเวียดนามในการเสริมสร้างความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานกับประเทศสังกัดอดีตสหภาพโซเวียต ผลักดันความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งการเยือนนี้ยังมีส่วนร่วมสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่เพื่อนำเวียดนามย่างเข้าสู่ศักราชใหม่และปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาต่างๆที่ได้วางไว้.